Chevrolet Sonic - รถอีโคคาร์มือสองราคาเป็นมิตร ขับสนุก ดีไซน์สวยไม่ซ้ำใคร

Chevrolet Sonic เป็นรถยนต์คันเล็กที่ได้รับความสนใจไม่น้อยในกลุ่มรถ Subcompact โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยพร้อมกับขนาดตัวถังที่กะทัดรัดแต่ดูสปอร์ต รวมถึงการปรับปรุงช่วงล่างและพวงมาลัยให้ขับขี่สนุกขึ้นทั้งในเมืองและนอกเมือง จุดเด่นสำคัญอีกอย่างคือความหลากหลายของรุ่นย่อยที่มีทั้งตัวถังซีดาน 4 ประตูและแฮทช์แบ็ก 5 ประตู เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร และมีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติให้เลือก

ในตลาดรถมือสอง Chevrolet Sonic ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยราคาที่ค่อนข้างถูกเพียงหลักแสนต้น ๆ เท่านั้น แต่รูปลักษณ์ยังคงดูไม่เก่ามาก เมื่อเทียบกับรถคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันอย่าง Honda Jazz, Toyota Yaris หรือ Mazda 2 จุดเด่นของ Sonic ในตลาดมือสองที่ต่ำกว่า แถมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่จัดเต็มในแต่ละรุ่นย่อย เช่น ระบบเบรก ABS, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบควบคุมเสถียรภาพ และฟังก์ชันความบันเทิงที่ทันสมัย ถึงแม้ในด้านความนิยมอาจจะไม่สูงเท่าคู่แข่งรายใหญ่ แต่สำหรับคนที่มองหารถใช้งานที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ขับสนุก และราคาไม่แพง Sonic ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและน่าลอง

ในบทความนี้จะมาเจาะลึก Chevrolet Sonic สำรวจข้อดี-ข้อด้อย ปัญหาที่พบ รวมถึงข้อมูลด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเป็นเจ้าของรถคันนี้อย่างละเอียด

ประวัติของเชฟโรเลต โซนิค

Chevrolet Sonic เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทยเมื่อปี 2012 ซึ่งเป็นการเข้ามาทำตลาดแทนที่ Chevrolet Aveo มาพร้อมกับดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวและทันสมัยกว่าเดิมและถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของรถ Subcompact จาก Chevrolet เฉพาะมีการใช้แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ตัวถังแข็งแรงและมั่นคงขึ้น ทั้งยังมีขนาดที่ใหญ่กว่า Aveo อย่างชัดเจน ทำให้ห้องโดยสารกว้างและนั่งสบายมากขึ้น

Sonic มีให้เลือกทั้งแบบตัวถังซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ก 5 ประตู มีทั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร และ 1.6 ลิตร ให้เลือก ส่วนระบบส่งกำลังก็มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ถือเป็นรถยนต์ในเซกเมนต์ Subcompact ที่มีตัวเลือกครบและหลากหลายมากที่สุดรุ่นหนึ่งในช่วงเวลาที่วางขาย

แม้ เชฟโรเลต โซนิคจะมีอายุการผลิตสั้นในตลาดเมืองไทย (2012-2015) แต่ก็ได้รับความสนใจพอสมควรจากกลุ่มผู้ซื้อที่มองหารถขนาดเล็กที่มีบุคลิกแตกต่างจากคู่แข่ง โดย Sonic เน้นดีไซน์สปอร์ต เส้นสายคมชัด พวงมาลัยแม่นยำ และช่วงล่างที่ปรับเซตมาให้ขับสนุก นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานที่ถือว่าครบถ้วน เช่น ระบบเบรก ABS, ถุงลมนิรภัย, ระบบควบคุมเสถียรภาพ และเครื่องเสียงพร้อมการเชื่อมต่อที่ทันสมัยในยุคนั้น แม้ความนิยมจะไม่มากเท่าคู่แข่งรายใหญ่ แต่ Sonic ก็สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มองหารถ Subcompact ที่แตกต่าง

ในตลาดรถมือสองปัจจุบัน Sonic ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะราคาเริ่มต้นค่อนข้างถูก อีกทั้งหลายคันยังมีสภาพดีเนื่องจากเจ้าของเก่าดูแลมาดี อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อควรตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาอย่างละเอียด โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าและยางแท่นเครื่องที่เป็นจุดอ่อนของรุ่นนี้ นอกจากนี้ เรื่องอะไหล่และศูนย์บริการอาจจะหายากขึ้นบ้างเพราะ Chevrolet เลิกขายรถยนต์ในประเทศไทยไปแล้ว แต่ก็ยังพอหาได้จากตลาดอะไหล่เทียบหรือจากศูนย์ที่มีอะไหล่สต๊อกไว้อยู่ การดูแลอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ Sonic มือสองยังคงเป็นรถที่ขับสนุก น่าใช้งาน และคุ้มค่าสำหรับคนที่มองหารถขนาดกะทัดรัดที่ไม่ซ้ำใคร

การออกแบบภายนอกและโครงสร้างตัวถัง

หนึ่งในเอกลักษณ์ที่ทำให้เชฟโซนิคโดดเด่นคือการออกแบบด้านหน้าที่เรียกกันว่า "สี่ตา" ด้วยการจัดวางโคมไฟหน้าทรงกลมแยกเป็นสองดวง ให้ความรู้สึกทันสมัยและแปลกตา นอกจากจะสร้างความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว การออกแบบนี้ยังช่วยเสริมความโฉบเฉี่ยวให้กับรถ แต่การวางตำแหน่งโคมไฟหน้าแบบนี้ก็มีข้อจำกัดตรงที่ทำความสะอาดยากเพราะตำแหน่งและรูปทรงที่ซับซ้อน หากไม่ได้ล้างทำความสะอาดแบบเน้นเฉพาะจุดก็อาจทำให้ไฟหน้าดูหมองและไม่ใสได้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ

ในภาพรวม คุณภาพของวัสดุตัวถังและสีที่ Chevrolet เลือกใช้ถือว่าทำได้ดี การป้องกันการกัดกร่อนก็อยู่ในระดับน่าพอใจเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่กำลังมองหา Sonic มือสอง จำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ ที่อาจเป็นจุดบกพร่อง โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องเจอกับแรงเสียดทานหรือการกระแทกบ่อยครั้ง

จุดที่ต้องระวังเกี่ยวกับโครงสร้างและตัวถังของเชฟโซนิค

หนึ่งในจุดที่มักพบปัญหาคือบริเวณขอบด้านล่างของประตูรถซึ่งได้รับการป้องกันด้วยแถบเคลือบกันกรวดที่ค่อนข้างบาง หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม พื้นที่นี้อาจมีการสึกกร่อนหรือเกิดสนิมได้ง่าย ควรตรวจสอบรอยแตกหรือการสึกของสีในบริเวณนี้อย่างละเอียด นอกจากนี้ บริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างบังโคลนหลังกับกันชนก็เป็นอีกจุดที่ต้องระวังเพราะแรงสั่นสะเทือนและการเสียดสีจากกันชนสามารถทำให้สีที่บังโคลนลอกหรือสึกจนนำไปสู่การเกิดสนิม

อีกจุดที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษคือฝาท้ายรถเนื่องจากมีขนาดใหญ่และใช้บานพับที่ไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก บนถนนที่ขรุขระ ฝาท้ายอาจเกิดการสั่นสะเทือนที่มากกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้สีผิวที่บริเวณขอบฝาท้ายเกิดการสึกกร่อนจนลามไปถึงเนื้อโลหะด้านใน สำหรับรถที่ผ่านการใช้งานหนักบนเส้นทางขรุขระควรตรวจสอบยางอะไหล่และซีลยางต่าง ๆ รอบรถ เพราะการสั่นสะเทือนและแรงกดอาจทำให้เกิดรอยแตกหรือความล้าในเนื้อยางได้ง่าย

ประตูและกลไกที่เกี่ยวข้อง

Chevrolet Sonic มีอีกหนึ่งจุดเด่นที่ผู้ใช้หลายคนจำได้ดี แต่ก็อาจมองว่าเป็นปัญหากวนใจคือประตูที่ปิดไม่สนิทหรือปิดยาก ซึ่งสร้างความรำคาญใจให้กับเจ้าของรถจำนวนไม่น้อย สาเหตุหลักมาจากน้ำหนักประตูที่เบาเกินไป ทำให้กลไกการปิดประตูทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หลายคนจึงเลือกแก้ปัญหาด้วยวิธีเพิ่มน้ำหนักให้ประตูด้วยการติดตั้ง วัสดุซับเสียง หรือวัสดุเสริมความหนาแน่น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประตูปิดได้แน่นขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารอีกด้วย

การออกแบบภายในและการจัดวาง

ภายในห้องโดยสารของ Chevrolet Sonic มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่อาจทำให้ผู้ใช้บางคนรู้สึกทั้งชอบและไม่ชอบไปพร้อมกัน หนึ่งในจุดที่โดดเด่นแต่ก็อาจสร้างความรำคาญคือแผงหน้าปัดแบบแปลกตาซึ่งมาพร้อมมาตรวัดความเร็วที่เป็นจอดิจิทัล จอนี้ใช้ตัวเลขสีน้ำเงินขนาดใหญ่ บางคนมองว่ามันดูทันสมัยและโดดเด่น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าตัวเลขและไฟแสดงผลมีลักษณะกะพริบหรือเปลี่ยนแสงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้รู้สึกขัดหูขัดตาและมองเห็นตัวเลขไม่ชัด โดยเฉพาะเมื่อขับรถกลางคืนหรือบนถนนที่มีความสั่นสะเทือนบ่อย ๆ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ทดลองขับเพื่อดูว่าคุณสามารถปรับตัวเข้ากับดีไซน์นี้ได้หรือไม่

แม้จะมีรายละเอียดที่อาจดูขัดใจแต่ Sonic ก็มีข้อดีหลายประการด้านการออกแบบภายใน เช่น ช่องเก็บของจำนวนมากกระจายอยู่รอบห้องโดยสารทำให้สะดวกต่อการจัดเก็บของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ แว่นตา หรือเอกสารขนาดเล็ก อีกทั้งเบาะนั่งและการจัดวางตำแหน่งที่นั่งยังออกแบบได้ค่อนข้างดี ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรถที่มีระดับสูงกว่าในกลุ่มเดียวกัน พื้นที่ห้องโดยสารก็จัดวางอย่างชาญฉลาด ทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารรู้สึกสบายแม้ต้องเดินทางไกล

จุดที่ต้องระวังเกี่ยวกับวัสดุภายใน

ปัญหาหลักของการออกแบบภายในของ Sonic คือการใช้วัสดุพลาสติกในหลายจุดของห้องโดยสาร แม้ว่าดูเผิน ๆ จะให้ความรู้สึกสวยงาม แต่ความจริงแล้ว พลาสติกเหล่านี้มีคุณภาพค่อนข้างต่ำและเสี่ยงต่อการเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย โดยเฉพาะในบริเวณที่ถูกสัมผัสบ่อย เช่น มือจับประตู คอนโซลกลาง หรือแผงหน้าปัด สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถมือสอง ควรตรวจสอบรอยขีดข่วนหรือการสึกหรอของชิ้นส่วนเหล่านี้ให้ละเอียด เพราะอาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่

ระบบปรับอากาศและความสะดวกสบาย

อีกหนึ่งจุดที่ควรพูดถึงคือระบบปรับอากาศและทำความร้อน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยทั่วไป ระบบทำความร้อนของ Sonic ถือว่าทำงานได้ดี แต่ก็มีจุดอ่อนสำคัญอยู่ที่มอเตอร์พัดลมของเครื่องทำความร้อน ซึ่งมีรายงานว่าหลังจากใช้งานไปได้สักพักมักจะเริ่มส่งเสียงหวีดหรือเสียงรบกวนที่ค่อนข้างน่ารำคาญ และในบางกรณีก็เสียหายจนต้องเปลี่ยนใหม่ ปัญหานี้พบได้บ่อยใน Sonic มือสอง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบระบบทำความร้อนอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ

นอกจากนั้น หากรถถูกใช้งานมาเป็นระยะเวลานานหรือผ่านการขับขี่ในสภาพอากาศที่รุนแรง ควรตรวจสอบประสิทธิภาพของ ระบบปรับอากาศด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำความเย็นได้เต็มประสิทธิภาพและไม่มีปัญหาการรั่วซึมของน้ำยาแอร์

เครื่องยนต์ของ Chevrolet Sonic ในไทย

Chevrolet Sonic ที่ขายในไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร รหัส A14XFR แบบ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว มีระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 13.3 กิโลกรัมเมตรเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้

อีกเครื่องยนต์คือเบนซิน 1.6 ลิตร รหัส Z16XFR แบบ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว มีระบบแปรผันวาล์วคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) และตัวควบคุมความร้อนแบบวัดความดันในท่อไอดี (Manifold Absolute Pressure) รวมทั้ง Catalytic Converter เครื่องยนต์รุ่นนี้ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 155 นิวตันเมตร และรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

ปัญหาเครื่องยนต์ที่ควรรู้

เครื่องยนต์ของ Chevrolet Sonic มีปัญหาเฉพาะที่ผู้ใช้หลายคนพบเจอโดยเฉพาะเมื่อรถมีอายุการใช้งานมากขึ้น ตัวอย่างปัญหาที่พบมีดังนี้

ปัญหาการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง

หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือน้ำมันเครื่องซึมบริเวณปะเก็นฝาครอบวาล์ว มักเกิดขึ้นหลังจากใช้รถไปประมาณ 80,000 กม. สาเหตุหลักคือตัวปะเก็นเสื่อมสภาพทำให้ทนแรงดันไม่ไหวและมีน้ำมันเครื่องค่อย ๆ ซึมออกมา หากปล่อยทิ้งไว้นานน้ำมันเครื่องจะหาย ส่งผลต่อระบบการทำงานของเครื่องยนต์ และน้ำมันเครื่องยังสามารถซึมเข้าไปในปลั๊กหัวเทียน ทำให้ระบบจุดระเบิดและการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานผิดปกติได้ เมื่อใช้งานเกิน 100,000 กม. การรั่วซึมมักขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น ปะเก็นฝาสูบ และปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง

ระบบจุดระเบิดและโมดูลไฟฟ้า

เครื่องยนต์ของ Sonic ยังเจอปัญหาเกี่ยวกับความไม่ทนทานของโมดูลจุดระเบิด (Ignition Module) ซึ่งมักจะเสื่อมสภาพก่อนกำหนดและจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ตามระยะ นอกจากนี้ ขดลวดจุดระเบิด (Ignition Coil) และหัวเทียนก็เป็นอีกส่วนที่ควรตรวจสอบและเปลี่ยนตามรอบการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันปัญหาสตาร์ทยากหรือเครื่องยนต์สะดุด

ปัญหาเทอร์โมสตัทและความร้อนเกิน

เทอร์โมสตัท (Thermostat) ที่ทำงานผิดพลาดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยใน Sonic เมื่อเทอร์โมสตัทค้างหรือเปิดปิดไม่ถูกต้อง เครื่องยนต์อาจร้อนเกินไป ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อปะเก็นฝาสูบหรือตัวเครื่องยนต์ การตรวจสอบและเปลี่ยนเทอร์โมสตัทตามรอบจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้

สายพานไทมมิ่งและการบำรุงรักษา

เครื่องยนต์ของ Sonic ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบ Interference Engine ซึ่งหมายความว่าหากสายพานไทมมิ่งขาด ลูกสูบและวาล์วจะชนกันโดยตรง ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อเครื่องยนต์ แม้คู่มือจะแนะนำให้เปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งทุก 150,000 กม. และตรวจสอบทุก 75,000 กม. แต่ในความเป็นจริงเพื่อความปลอดภัยสูงสุดควรเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งหลังจาก 100,000 – 120,000 กม. รวมถึงเปลี่ยนลูกลอกและปั๊มน้ำพร้อมกัน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด

ปัญหาจากระบบวาล์วแปรผัน

การที่ Sonic ใช้ระบบวาล์วแปรผันแบบคู่แม้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดการปล่อยไอเสีย แต่ระบบนี้กลับมีความทนทานที่ค่อนข้างจำกัด หากเริ่มได้ยินเสียงเสียงดังแปลก ๆ ใต้ฝากระโปรง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าวาล์วกำลังมีปัญหา มักเกิดจาก ชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อในระบบเริ่มเสื่อมสภาพ เช่น โซลินอยด์หรือวาล์วควบคุม ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์ไม่ราบรื่น

นอกจากนี้ การไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามรอบ หรือใช้น้ำมันคุณภาพต่ำ อาจทำให้แหวนควบคุมน้ำมัน (Oil Control Rings) ติดขัด ส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้น

ระบบส่งกำลังของรถอีโคคาร์ Chevrolte Sonic

เกียร์ธรรมดา

สำหรับผู้ที่ชอบความรู้สึกในการขับขี่แบบดั้งเดิม Chevrolet Sonic มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งแม้จะถือว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างเชื่อถือได้แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุค 80 ปัญหาที่พบบ่อยในเกียร์ประเภทนี้คือการสึกหรอของชุดคลัตช์ ซึ่งโดยรวมแล้วค่อนข้างอ่อนแอในรุ่นนี้ โดยเฉพาะหากผู้ขับขี่ใช้งานหนักในเมืองหรือเปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ

มีเจ้าของรถ Sonic หลายคนเลือกแก้ไขปัญหาคลัตช์ด้วยการรีแมปซอฟต์แวร์เครื่องยนต์เพื่อเพิ่มรอบเดินเบาและรอบเครื่องยนต์ ทำให้การสตาร์ทและออกตัวทำได้ง่ายขึ้นและนุ่มนวลกว่าเดิม

สำหรับกลไกการเปลี่ยนเกียร์ถึงแม้จะมีความรู้สึกหลวมและไม่กระชับ แต่ถ้าเริ่มพบว่าเกียร์ 1 และ 2 เข้าได้ยาก นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการสึกหรอของซิงโครไนเซอร์ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีอายุการใช้งานไม่ยาวนัก

เมื่อวิ่งไปเกิน 100,000 กม. อาจพบว่ามีความหลวมในเกียร์ 5 ซึ่งถึงแม้จะดูน่ากังวลแต่โดยมากสามารถซ่อมแซมได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องรื้อเกียร์ทั้งชุด

เกียร์อัตโนมัติ

Chevrolet Sonic มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดของ GM รุ่น 6T30 ซึ่งแม้จะออกแบบมาให้ทันสมัยและน้ำหนักเบาแต่กลับพบว่าความทนทานไม่สูงเท่าที่ควร ทำให้ชื่อเสียงของเกียร์ชุดนี้ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะในรุ่นปีแรก ๆ

ในรุ่นปี 2014 เกียร์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น สามารถใช้งานได้ยาวถึง 160,000 – 200,000 กม. ก่อนที่จะเริ่มพบปัญหา เช่น ความเสียหายของทอร์คคอนเวอร์เตอร์ (Torque Converter), แผ่นคลัทช์สึก และอาจต้องยกวาล์วบอดี้

การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะเป็นสิ่งสำคัญมาก แนะนำว่าควรเปลี่ยนทุก 40,000 – 50,000 กม. เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดโอกาสเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบเกียร์ สำหรับผู้ที่ใช้งานหนักในเมืองหรือขับในพื้นที่อากาศร้อนจัด อาจเลือกติดตั้งออยล์เกียร์เพื่อช่วยระบายความร้อนให้เกียร์อัตโนมัติเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการดัดแปลงที่มีต้นทุนไม่สูง แต่ช่วยเพิ่มความทนทานและยืดอายุการใช้งานของเกียร์ได้มาก

ระบบกันสะเทือนของ Chevrolet Sonic

ระบบกันสะเทือนของ Chevrolet Sonic เป็นหนึ่งในจุดที่มักถูกพูดถึงในแง่ของความไม่พอใจจากเจ้าของรถหลายคน จุดที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือความสูงใต้ท้องรถที่ต่ำเพียง 115 มม. ทำให้เมื่อเจอเนินหรือหลุมบ่อในเมืองรถจึงกระแทกกับพื้นถนนได้ง่าย นอกจากนี้ ช่วงล่างมาตรฐานยังตอบสนองได้ไม่ดีบนถนนขรุขระ การขับขี่บนพื้นผิวไม่เรียบหรือถนนเป็นคลื่นจะรู้สึกได้ถึงการกระแทกและการโคลงเคลงที่มากเกินไป

เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เจ้าของรถหลายคนเลือกที่จะปรับแต่งระบบกันสะเทือนใหม่ซึ่งทำให้รถขับได้มั่นใจและนุ่มนวลขึ้น ตัวอย่างการปรับแต่งที่พบได้บ่อยคือ

• ติดตั้งเหล็กกันโคลงเพื่อเพิ่มความมั่นคงในขณะเข้าโค้งและขับความเร็วสูง

• เปลี่ยนโช้คอัพหน้าและหลังให้มีคุณภาพสูงขึ้นเพื่อให้รองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าของเดิม

• ติดตั้งสเปเซอร์บริเวณสปริงหรือโช้ค เพื่อเพิ่มความสูงใต้ท้องรถ ช่วยให้รถพ้นจากพื้นถนนมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการครูดพื้น

จุดอ่อนสำคัญของช่วงล่าง

ระบบกันสะเทือนของ Sonic มีจุดอ่อนที่ควรจับตามองเป็นพิเศษคือลูกหมากปีกนกและลูกปืนล้อซึ่งเป็นจุดที่มักเสื่อมเร็ว หากเริ่มมีเสียงดังหรือการสั่นสะเทือนที่ล้อ อาจบ่งชี้ถึงความเสียหายของชิ้นส่วนเหล่านี้ ขณะที่บางคันพบปัญหานอตยึดเหล็กกันโคลงหน้าหลวมซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเลขไมล์ไม่เยอะด้วย สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการขันนอตใหม่และทากาวยึดเพื่อเพิ่มความแน่นหนา

ปัญหาระบบเบรก

อีกหนึ่งปัญหาที่เจ้าของ Sonic หลายคนเจอคือเสียงดังจากเบรกหน้า สาเหตุเกิดจากการออกแบบคาลิเปอร์และสลักยึดที่ไม่แน่นหนาเพียงพอ เมื่อผ่านการใช้งานไปหลายพันกิโลเมตรจะเริ่มส่งเสียงดังหรือเสียงเอี๊ยดอ๊าดเวลาขับหรือเบรก แม้จะแก้ปัญหาได้ด้วยการทาจาระบีหรือติดตั้งแผ่นรองกันเสียง แต่ก็เป็นการแก้ไขชั่วคราวที่ปลายเหตุเท่านั้น เสียงมักกลับมาดังอีกหลังจากผ่านไปสักระยะ

สรุป Chevrolet Sonic รถยนต์คันเล็กมือสอง น่าใช้หรือไม่?

การเลือกซื้อ Chevrolet Sonic มือสองอาจไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีในแบบที่หลายคนคาดหวัง แม้ว่าจะเป็นรถอีโคคาร์ที่มีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน แต่ก็มีรายละเอียดและจุดอ่อนที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะระบบกันสะเทือนที่ขึ้นชื่อว่าไม่ทนทานนัก และอาจทำให้เจ้าของรู้สึกไม่สะดวกเมื่อต้องใช้งานบนถนนที่ขรุขระหรือสภาพถนนไม่ดี

อย่างไรก็ตาม Sonic ก็มีข้อดีที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างเรียบง่ายและซ่อมบำรุงไม่ซับซ้อน เกียร์อัตโนมัติ (รุ่นหลัง ๆ) ที่ปรับปรุงความทนทานและน่าเชื่อถือขึ้นมาก โดยเฉพาะรุ่นปี 2014 หรือ 2015 ที่ได้รับการพัฒนาจากเวอร์ชันก่อนหน้า และราคามือสองที่จับต้องได้ง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

หากเจอคันที่เจ้าของเก่าดูแลดีหรือปรับปรุงระบบกันสะเทือนมาแล้วและบำรุงรักษาตามระยะอย่างเหมาะสม Sonic มือสองก็อาจกลายเป็นรถที่คุ้มค่า นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ยอมรับข้อจำกัดบางอย่างในเรื่องสมรรถนะและความสะดวกสบาย แลกกับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

ถ้าคุณกำลังมองหารถยนต์มือสองราคาถูกและพร้อมรับมือกับข้อจำกัดด้านช่วงล่างและความทนทานของชิ้นส่วนบางจุด Chevrolet Sonic มือสองก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าใช้ แนะนำว่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ปีหลัง ๆ เช่น 2014 – 2015 เป็นตัวเลือกที่น่าเล่นมากกว่าเพราะมีการแก้ปัญหาบางจุดจากรุ่นปีแรก ๆ มาแล้ว และควรตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาให้ดี ลองขับจริงจนกว่าจะพอใจ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ

ค้นหา รถอีโคคาร์ Chevrolet Sonic มือสอง ที่ใช่สำหรับคุณ

เรารวบรวมประกาศขายรถยนต์มือสองราคาถูกจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เช็คประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ

พบกับ Chevrolet Sonic มือสองมากมายที่นี่ →เชฟโรเลต โซนิค