Mazda cx 5 เจน 1 มือสอง – ขับดีไหม? จุดเด่น จุดด้อย และสิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ

Mazda cx 5 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย

มาสด้า cx5 รุ่นแรก ออกสู่ตลาดในปี 2013 และดึงดูดความสนใจจากผู้ชื่นชอบรถยนต์ได้ทันทีด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อมด้วยเทคโนโลยีและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม mazda cx 5 ภายในกว้างและสะดวกสบาย ทั้งยังมีความอเนกประสงค์และความปลอดภัยที่ครบครัน

รถ cx5 รุ่นแรกเป็นรถ Crossover SUV ที่ทาง Mazda พัฒนาและออกแบบด้วยตัวเองแบบ 100% ดีไซน์ในภาพรวมมีความสวยงามและทันสมัยตามยุค ผสมผสานคุณสมบัติหลายอย่างเข้าด้วยกันตั้งแต่การปรัชญาการออกแบบ KODO ผสานกับเทคโนโลยี Skyactiv ที่สร้างสรรค์ ทำให้มันเป็น Crossover SUV ที่ดูดีทั้งรูปลักษณ์หน้าตาภายนอก แถมยังเป็นรถที่ขับสนุก ช่วงล่างดี คล่องตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง รวมถึงมีห้องโดยสารที่นั่งสบาย ทำให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วทั้งในญี่ปุ่น ยุโรป เอเชีย อเมริกา และกลายเป็นรถที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรุ่นหนึ่งของ Mazda มาจนถึงทุกวันนี้

แม้ว่า CX-5 รุ่นแรกจะประสบความสำเร็จอย่างล้มหลามแต่ Crossover SUV รุ่นนี้ก็ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องพิจารณาให้ดีก่อนซื้อมือสอง บทความนี้จะพามาเจาะลึกว่า CX-5 รุ่นแรกมีจุดบกพร่องอะไรบ้าง น่ากังวลมากน้อยแค่ไหน และมีปัญหาอะไรบ้างที่อาจจะพบเจอเมื่อใช้งานเกินแสนกิโลเมตรไปแล้ว

ประวัติและความนิยมของ mazda cx5 Gen1

มาสด้า cx5 ออกแบบตามหลัก KODO ทำให้ดูเหมือนเคลื่อนไหวแม้จะจอดอยู่

Mazda CX-5 เจเนอเรชันที่ 1 เผยโฉมครั้งแรกในปี 2011 ที่งาน Frankfurt Motor Show และวางจำหน่ายจริงในปี 2013 โดยถือเป็นโมเดลที่มาแทนที่ Mazda Tribute และ Mazda CX-7 โดย CX-5 ไม่ได้เป็นแค่รถโมเดลใหม่ที่มาเปลี่ยนโฉมหน้าของ Mazda เท่านั้น แต่มันยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์อีกด้วย

CX-5 คือ Crossover SUV รุ่นแรกของ Mazda ที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ Skyactiv Technology ทุกส่วนของรถตั้งแต่โครงสร้างตัวถัง เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ไปจนถึงช่วงล่าง ล้วนถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ตอบโจทย์เรื่องน้ำหนัก ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน สมรรถนะการควบคุมที่เฉียบคม และความปลอดภัยระดับสูง

ในแง่การออกแบบ CX-5 คือรถรุ่นแรกที่เอาปรัชญาการออกแบบ KODO – Soul of Motion มาใช้ แนวคิดนี้เน้นเส้นสายตัวถังที่ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวแม้ในยามหยุดนิ่ง ทำให้ CX-5 ดูโฉบเฉี่ยว มีชีวิตชีวา เส้นตัวถังที่คมชัด ฝากระโปรงหน้าเรียวยาวเหมือนรถสปอร์ต กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมและทรงพลัง ล้วนสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งที่ยังยึดติดกับดีไซน์แบบกล่องหรือสเตชันแวกอนยุคเก่า

ตั้งแต่เปิดตัว มาสด้า cx5 รุ่นแรกก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากทั่วโลกทั้งในแง่ของดีไซน์ สมรรถนะ และความคุ้มค่า กลายเป็นหนึ่งในรถที่ขายดีที่สุดของ Mazda ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และตลาดยุโรป ความสำเร็จของมันช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของ Mazda จากแบรนด์ที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงแบรนด์รถยนต์ทางเลือก ไปสู่การเป็นผู้เล่นหลักในตลาดรถ Crossover SUV ขนาดกลาง

การใช้งานและการดูแลรักษามาสด้า cx5

mazda cx5  เส้นตัวถังที่คมชัดเหมือนรถสปอร์ต

แม้ว่า mazda cx5 เนอเรชันที่ 1 จะเป็นหนึ่งในรถ Crossover SUV ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มคอมแพ็ก แต่มันก็เหมือนกับรถทุกคันบนถนนที่ต้องมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ประจำตัว การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เจ้าของรถหลีกเลี่ยงปัญหาจุกจิก และยืดอายุการใช้งานของรถให้ยาวนานที่สุด

ปัญหาเกี่ยวกับตัวถังและสี

หนึ่งในเรื่องที่เจ้าของ Mazda CX-5 รุ่นแรกหลายคนพบเจอก็คือรอยแตกร้าวเล็ก ๆ บนสีตัวถัง โดยเฉพาะบริเวณฝากระโปรงหน้า และชายประตู ซึ่งมักเกิดจากหินดีดหรือเศษฝุ่นบนถนนทางหลวง ที่น่าสังเกตก็คือชั้นสีของ CX-5 รุ่นแรกค่อนข้างบาง (ประมาณ 120 ไมครอน) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พบได้ในรถญี่ปุ่นช่วงต้นยุค 2010 แม้จะไม่ได้ส่งผลต่อความแข็งแรงของตัวรถโดยตรงแต่หากไม่ดูแล ปล่อยให้สะสมหรือเกิดบ่อย ๆ ก็อาจลุกลามเป็นสนิมได้

จุดที่มักเริ่มเกิดสนิมเร็วที่สุดคือขอบล่างของประตูหลังและบริเวณข้อต่อระหว่างกันชนหลังกับซุ้มล้อหลัง ซึ่งเป็นจุดที่น้ำและโคลนชอบเข้าไปค้าง หากล้างรถไม่ทั่วถึงหรือไม่มีการพ่นกันสนิมที่ดีก็อาจเริ่มเห็นคราบสนิมบาง ๆ ได้ในรถที่ใช้งานเกิน 5 ปี

ปัญหาเกี่ยวกับระบบประตูและกระจกมองข้าง

ปัญหาทั่วไปอีกประการหนึ่งของ Mazda CX-5 รุ่นแรกก็คือการสึกหรอของกลอนประตู ซึ่งมักเกิดขึ้นกับประตูฝั่งคนขับ โดยเมื่อเวลาผ่านไปประตูจะเผยอออกมานิด ๆ เหมือนปิดไม่สนิท สาเหตุก็คือคลิปล็อกพลาสติกภายในเกิดการสึกหรอและไม่สามารถยึดประตูได้สนิทเต็มที่ ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนคลิปล็อกพลาสติกชิ้นใหม่

อีกจุดที่มักมีปัญหาก็คือกลไกการพับกระจกมองข้างที่บางคันจะเริ่มฝืดหรือเสียเมื่อใช้งานไปหลายปี ทำให้ไม่สามารถพับกระจกมองข้างได้ ปัญหามักมาจากเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปรบกวนกลไกภายในเฟืองมอเตอร์และการเสื่อมสภาพของตัวอุปกรณ์เอง หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้ระบบพับกระจกไฟฟ้าเสียหาย สามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนอะไหล่แท้ของศูนย์


ปัญหาเกี่ยวกับภายในและเบาะนั่ง

ภายในของ Mazda CX-5 ยังมีข้อบกพร่องหลายประการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้รถไปหลายปี ตัวอย่างปัญหาที่พบคือเบาะคนขับมีอาการโยกหรือขยับได้เล็กน้อยขณะขับรถ ทำให้เสียสมาธิในการขับขี่ สาเหตุมาจากบูชพลาสติกในกลไกการปรับความสูงของเบาะเกิดการสึกหรอ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่รับน้ำหนักและแรงสั่นสะเทือนมาตลอด แก้ได้โดยการเปลี่ยนอะไหล่ตัวใหม่เข้าไปทดแทน

อีกหนึ่งปัญหาที่เจอคือหนังหุ้มพวงมาลัยเริ่มลอกหรือสึกในจุดที่มือจับบ่อยเช่นตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกา แม้ว่าจะไม่ได้กระทบกับการใช้งานโดยตรงแต่ก็ทำให้ความรู้สึกพรีเมียมของห้องโดยสารลดลงไป แก้ได้ด้วยการหุ้มหนังพวงมาลัยใหม่หรือเปลี่ยนพวงมาลัยอันใหม่ไปเลยหากต้องการให้รถอยู่ในสภาพเหมือนใหม่ที่สุด

CX-5 รุ่นแรกที่มีระบบหน้าจอสัมผัส เมื่อใช้งานมาเกิน 100,000 กิโลเมตรอาจเจอปัญหาเล็ก ๆ อย่างระบบมัลติมีเดียแฮงค์ ค้าง หรือรีสตาร์ทเอง รวมถึงการสั่งงานบางฟังก์ชัน เช่น Bluetooth หรือ Navigation ทำงานไม่ราบรื่น อีกหนึ่งปัญหาที่มักโผล่มาคือสวิตช์และปุ่มกดภายในที่สึกหรอ ตัวหนังสือซีดจาง ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ได้ส่งผลต่อการขับขี่แต่ทำให้ภายในของรถดูเก่าและโทรม

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังของ มาสด้า CX-5 เจเนอเรชันที่ 1

mazda cx5 ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv

เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G

Mazda CX-5 เจเนอเรชันที่ 1 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร ทั้งสองเครื่องยนต์ใช้เสื้อสูบและกระบอกสูบอะลูมิเนียม มีกลไกวาล์วแปรผัน และใช้โซ่ไทม์มิ่ง เครื่องยนต์เหล่านี้มีความทนทานสูง แต่คุณสมบัติที่สำคัญคืออัตราส่วนกำลังอัดที่สูงถึง 14:1 จึงต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินหรือแก๊สโซฮอล์ 95 เท่านั้น และต้องมีการตรวจสอบสภาพของหัวเทียนและคอยล์จุดระเบิดเป็นประจำ

ปัญหาเครื่องยนต์อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสายพานหน้าเครื่องหย่อนแต่ มาสด้าได้แก้ปัญหานี้ภายใต้การรับประกันโดยเปลี่ยนตัวปรับความตึงสายพาน นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องตรวจสอบการไหลของน้ำมันเครื่องผ่านฝาครอบวาล์วและเซนเซอร์แรงดันน้ำมัน โดยเฉพาะเมื่อใช้รถเกิน 100,000 กิโลเมตรไปแล้ว

เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D

Skyactiv-D เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์บล็อกนี้ใช้เสื้อสูบอะลูมิเนียมและใช้ระบบโซ่ไทม์มิ่งเช่นเดียวกัน มีความทนทานสูงและให้สมรรถนะดีเยี่ยม แต่หลายคันเจอปัญหาเขม่าไปอุดตันตัวกรองน้ำมันและเขม่าบริเวณวาล์วไอดีและท่อไอดี ส่งผลให้เครื่องยนต์เสียแรงอัด กินน้ำมันมากขึ้น นำไปปัญหาเครื่องยนต์กระตุกและทำงานไม่เต็มที่ ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการล้างทำความสะอาดชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ รวมถึงการเปลี่ยนน้ำถ่ายมันเครื่องเกรดดี ๆ ที่ช่วยทำความสะอาดชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ตามระยะ

ระบบส่งกำลัง

Mazda CX-5 เจเนอเรชันที่ 1 ทุกเครื่องยนต์ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่มาเป็นมาตรฐาน เกียร์ลูกนี้ทำงานได้ราบรื่นและเชื่อถือได้ แต่เมื่อใช้งานเกิน 100,000 กิโลเมตร อาจมีเสียงอาการกระตุกเล็ก ๆ บ้างในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ สาเหตุมาจากตลับลูกปืนสึกหรอ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก ๆ 50,000 กิโลเมตรเพื่อยืดอายุการใช้งานของเฟืองเกียร์และกลไกต่าง ๆ ภายในห้องเกียร์

 cx5 ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่มาเป็นมาตรฐาน

ระบบกันสะเทือนและพวงมาลัย

Mazda CX-5 เจเนอเรชันที่ 1 ติดตั้งระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงก์ ปัญหาเกี่ยวกับช่วงล่างที่เจอคือลูกปืนล้ออาจแตกหรือเสื่อมสภาพหลังจากใช้งานมาเกิน 120,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ควรตรวจสอบสภาพของยางหุ้มแร็คพวงมาลัยด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกและความชื้นเข้าไปสร้างความเสียหาย เพราะอาจทำให้แร็คเกิดสนิมและทำงานไม่เป็นปกติ

คำแนะนำในการดูแลและบำรุงรักษา Mazda CX-5

Mazda CX-5 เจเนอเรชันแรก เป็นรถ Crossover SUV อีกรุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและมีสมรรถนะที่ดี แต่ถ้าจะให้รถมีสภาพดีไปนาน ๆ การดูแลอย่างถูกวิธีก็สำคัญไม่แพ้กัน

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามรอบ - เครื่องยนต์ Skyactiv ของ CX-5 ค่อนข้างอ่อนไหวกับคุณภาพของน้ำมันเครื่อง แนะนำให้ใช้น้ำมันที่มีความหนืดตามสเปก เช่น 0W-20 หรือ 5W-30 ซึ่งควรได้รับการรับรองตามมาตรฐานของ Mazda หรือ API SN ขึ้นไป และเปลี่ยนถ่ายทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
  • ดูแลระบบเกียร์อัตโนมัติ - ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 50,000 – 60,000 กิโลเมตร เพื่อช่วยหล่อลื่นและยืดอายุชิ้นส่วนภายในห้องเกียร์ให้ใช้งานราบรื่นและไม่มีปัญหา
  • การบำรุงรักษาแบตเตอรี่ - CX-5 มีระบบ i-STOP ซึ่งต้องใช้แบตเตอรี่แบบพิเศษที่รองรับการสตาร์ตเครื่องยนต์บ่อย ๆ เช่น แบตเตอรี่ชนิด EFB หรือ AGM ซึ่งจะมีราคาแพงกว่าทั่วไป หากเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วต้องทำการรีเซตระบบ i-STOP เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ
  • ตรวจเช็กช่วงล่างและพวงมาลัย – CX-5 ที่ใช้งานเกิน 100,000 กิโลเมตร แนะนำให้ตรวจสอบชิ้นส่วนช่วงล่าง เช่น บูชปีกนก, ลูกหมาก, ลูกปืนล้อ ยางหุ้มต่าง ๆ รวมถึงแร็คพวงมาลัย หากเริ่มรู้สึกว่าช่วงล่างมีเสียงผิดปกติหรือเริ่มหลวมควรไล่เช็กหาที่มาของเสียงและไล่เปลี่ยนอะไหล่ชิ้นที่เสื่อมสภาพเพื่อให้รถกลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม
cx5 มือสอง เหมาะกับคนชอบรถขับสนุกแต่ได้ประโยชน์แบบ SUV

สรุปภาพรวม Mazda CX-5 เจเนอเรชันที่ 1 คุ้มไหมถ้าจะซื้อวันนี้?

Mazda CX-5 รุ่นแรกเป็นรถที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Mazda ไปอย่างชัดเจน ถือเป็นรุ่นที่เปิดตัวแนวคิด Skyactiv อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในเรื่องของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง น้ำหนักตัวรถ ไปจนถึงการออกแบบที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ควบคู่กับความประหยัด รถรุ่นนี้โดดเด่นที่การขับขี่ เป็นรถยกสูงที่ขับสนุก หนึบ พวงมาลัยคมและแม่นยำ ให้ความมั่นใจในการควบคุมได้ดี ความรู้สึกเหมือนกำลังขับรถซีดานขนาดกลางมากกว่าจะเป็น SUV แม้จะเป็นรถอายุเกิน 10 ปีแล้วแต่ด้วยคุณภาพการประกอบที่ดีและการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายทนทาน CX-5 รุ่นแรกก็ยังเป็นรถที่ไว้ใจได้ในระยะยาว

ถ้าคุณต้องการ Crossover SUV ที่ขับดี เชื่อถือได้ และราคามือสองไม่เกินงบจนเกินไป cx5 รุ่นแรกเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแน่นอน เพราะเป็นรถที่มีความสมดุลทั้งสมรรถนะ การใช้งาน และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา

แน่นอนว่า CX-5 รุ่นแรกก็มีจุดอ่อนอยู่บ้าง เช่น สีตัวถังที่บาง ช่วงล่างที่เริ่มมีเสียงดังในรถที่ใช้งานหนัก หรือกลไกเล็ก ๆ ที่สึกหรอได้ตามกาลเวลา แต่ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่รู้กันในกลุ่มผู้ใช้ มีอะไหล่และแนวทางซ่อมชัดเจน ไม่ต้องปวดหัวหรือจ่ายแพงเหมือนรถยุโรป

แนะนำรุ่นที่น่าซื้อ

รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร มากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD เป็นตัวเลือกที่ลงตัวทั้งสมรรถนะและความประหยัด ให้กำลังเหลือ ๆ ใช้งานในเมืองก็ได้ ลุยทางไกลก็สบาย

รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เหมาะกับคนที่ขับรถบ่อย ใช้ทางไกลบ่อย ชอบความรู้สึกของรถเครื่องดีเซล ต้องการความประหยัด และพร้อมดูแลเรื่องระบบไอดีและ EGR เป็นพิเศษ

cx5 มือสองรถคันนี้เหมาะกับใคร?

Mazda CX-5 รุ่นแรกเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคนชอบขับรถ ชอบรถขับสนุก เกาะถนนดี ได้อารมณ์เหมือนขับรถซีดานแต่ได้คุณประโยชน์แบบรถ SUV รวมถึงคนที่ต้องการรถ SUV ที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวางสำหรับทุกคนในครอบครัวและมีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องการรถที่ไม่ซับซ้อน ดูแลง่าย เครื่องยนต์และเกียร์ทนทาน มีอะไหล่ทดแทนเยอะ

suv mazda cx 5 รุ่นแรกคือรถที่ยังทันสมัยในหลายด้านแม้อายุจะผ่านไปกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม ถ้าคุณเจอคันที่ประวัติดี ไม่เคยชนหนัก ดูแลมาดี และตรวจสภาพเรียบร้อย SUV รุ่นนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าใช้งาน ได้ทั้งขับสนุก ใช้งานได้จริง และดูแลไม่ยากจนเกินไป

ค้นหา cx5 มือสองรุ่นแรก (ปี 2011–2017) ที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่

เรารวบรวมประกาศขายจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เปรียบเทียบราคา ดูประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจได้ง่ายๆ

Mazda CX-5 รุ่นแรก มือสองมากมายรอคุณอยู่ที่นี่ →ค้นหามาสด้า cx5

  • กรุงเทพมหานคร, 500 km
  • ยี่ห้อ: Mazda
  • รุ่น: CX-5
  • ปี: 2011-2017
  • แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod




Mazda cx 5 เจน 1 มือสอง – ขับดีไหม? จุดเด่น จุดด้อย และสิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ