Nissan Tiida– คันเล็กแต่ครบ เครื่องดี น่าใช้คุ้มราคา

Nissan Tiida ถือเป็นรถยนต์ที่ยังคงได้รับความนิยมในตลาดรถมือสองของไทย แม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2006 และยุติการขายไปในปี 2014 แต่ชื่อของ nissan tiida ก็ยังติดอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่มองหารถนิสสันขนาดกะทัดรัดที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องความประหยัด ความทนทาน และค่าดูแลรักษาที่ไม่แพงจนเกินไป
ในช่วงที่วางจำหน่ายในไทยรถ nissan Tiida มีให้เลือกทั้งรุ่นnissan 4 ประตูซีดาน และแฮทช์แบ็ก nissan tiida 5 ประตูมาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน จุดเด่นอีกอย่างคือตัวเลือกเครื่องยนต์ที่มีทั้ง 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร สมรรถนะที่ได้ก็ถือว่าใช้งานได้ดีในเมืองและเดินทางไกล โดยความแรงอาจไม่ใช่จุดเด่น แต่เน้นความเรียบง่ายและความมั่นคงในการขับขี่
ในตลาดรถมือสองปัจจุบัน Nissan Tiida ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากได้รถใช้งานจริงจังโดยไม่ต้องจ่ายแพง ราคาย่อมเยา หารถสภาพดีได้ไม่ยาก และยังมีอะไหล่รองรับในท้องตลาดพอสมควร ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับรถรุ่นเก่าที่หลายคนมองข้ามไป
ถ้าคุณกำลังมองหารถมือสองที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย ไม่จุกจิก ลองมาทำความรู้จัก Nissan Tiida ให้มากขึ้นไปพร้อมกัน ในบทความนี้จะพาไปดูรายละเอียดจุดเด่น-จุดด้อย ไปจนถึงสิ่งที่ควรเช็กก่อนตัดสินใจซื้อ
ประวัติและภาพรวมของนิสสัน ทีด้า

Nissan Tiida เริ่มทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปี 2006 โดยเปิดตัวพร้อมกัน 2 รูปแบบตัวถัง ได้แก่ nissan 5 ประตูแฮทช์แบ็กและซีดาน 4 ประตูที่ ความหลากหลายของตัวถังช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคนเมืองที่ต้องการรถเล็กแต่ใช้งานได้จริง หรือคนที่มองหารถครอบครัวขนาดพอเหมาะในราคาจับต้องได้
ภายใต้ฝากระโปรง Nissan Tiida มาพร้อมทางเลือกขุมพลังเบนซิน 2 ขนาด ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 4 สูบ รหัส HR16DE ให้กำลัง 109 แรงม้า และเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รหัส MR18DE ให้กำลังสูงสุด 126 แรงม้า ทั้งสองเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และไม่จุกจิกในเรื่องการบำรุงรักษา
ในปี 2010 นิสสัน ทีด้าได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ทั้งในแง่ของดีไซน์ภายนอกที่มีการปรับให้ดูทันสมัยขึ้นเล็กน้อย และดีไซน์ภายในที่ออกแบบให้ทันสมัยขึ้น แม้จะไม่มีเทคโนโลยีหวือหวาแบบรถยุคใหม่ แต่ Nissan Tiida กลับมีจุดแข็งในด้านความเรียบง่าย ดูแลง่าย และใช้งานได้จริง โดยเฉพาะเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับราคามือสองในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าย่อมเยาอย่างมาก
หากคุณกำลังมองหารถมือสองที่ไว้ใจได้ ไม่จุกจิก และมีความคุ้มค่าในการใช้งานในชีวิตจริง Nissan Tiida อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม
เครื่องยนต์ของ Nissan Tiida ในไทย
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร HR16DE

เครื่องยนต์ nissan 1.6 ลิตร รหัส HR16DE ของ Nissan Tiida ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด เนื่องจากขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน เรียบง่าย และไม่จุกจิกในการดูแล ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างของเครื่องยนต์ญี่ปุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริง ไม่เน้นความแรง แต่เน้นความเสถียรและประหยัดในระยะยาว
เครื่องยนต์บล็อกนี้ใช้โซ่ไทม์มิ่งจึงไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย โซ่ชุดนี้โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานยาวนานเกิน 200,000 กม. หากได้รับการดูแลตามปกติและไม่มีสัญญาณยืดหรือเสียงดังผิดปกติจากฝาวาล์วก็ไม่จำเป็นต้องรีบเปลี่ยน
คำแนะนำในการดูแลเครื่องยนต์ HR16DE
- เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กม.
- เลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพดีและทำความสะอาดหัวฉีดเป็นประจำ
- ควรดูแลลิ้นปีกผีเสื้อให้อยู่ในสภาพสะอาด เพราะมีผลต่อรอบเดินเบาและอัตราเร่ง
- หากเกิดการจุดระเบิดผิดปกติ เช่น เครื่องสะดุดหรือเร่งไม่ขึ้น อย่าปล่อยไว้นานเพราะอาการอาจลุกลามจากหัวเทียนไปถึงคอยล์จุดระเบิดได้
อีกหนึ่งจุดที่ควรใส่ใจคือหัวสูบอะลูมิเนียมซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเมื่อต้องเปลี่ยนหัวเทียน ควรทำตอนเครื่องเย็นเท่านั้น และควรใช้ประแจปอนด์เพื่อหลีกเลี่ยงการทำเกลียวพังหรือหัวสูบร้าว
เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร MR18DE

เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร MR18DE ถือเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่ม Tiida แม้จะมีขนาดใหญ่กว่า แต่ก็ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่คล้ายกับ HR16DE และยังคงความเรียบง่ายในการดูแล ไม่พบปัญหาเรื้อรังด้านไทม์มิ่งหรือระบบวาล์วเช่นกัน แม้จะให้กำลังมากกว่าแต่ยังคงความประหยัดน้ำมันในระดับที่น่าพอใจ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากได้สมรรถนะเพิ่มขึ้นอีกนิดเพื่อการขับขี่ทางไกล หรือบรรทุกผู้โดยสารเต็มคัน
สิ่งที่ควรทราบสำหรับเครื่องยนต์ MR18DE คือเครื่องยนต์ไม่มีไฮดรอลิกลิฟเตอร์ หมายความว่าการปรับระยะวาล์วต้องทำด้วยมือเมื่อจำเป็น หากมีเสียง “ติ๊ก ๆ” ความถี่สูงจากฝาสูบ แสดงว่าอาจถึงเวลาตั้งวาล์วแล้ว การตั้งวาล์วต้องเปลี่ยน แผ่นปรับระยะ (Shim) ซึ่งมีราคาย่อมเยา และเป็นงานช่างที่สามารถทำได้ง่ายหากมีประสบการณ์ อีกจุดที่ควรตรวจสอบเป็นระยะคือ Catalytic Converter ซึ่งแม้จะมีความทนทานพอสมควร แต่ตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับท่อไอเสียมากอาจทำให้ร้อนจัด ถ้าเกิดการพังจะทำให้เศษวัสดุไหลย้อนเข้าเครื่องยนต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงในระยะยาว
ทั้งเครื่องยนต์ HR16DE และ MR18DE ถือเป็นเครื่องยนต์ที่เชื่อถือได้ หากดูแลดี มีประวัติการเซอร์วิสชัดเจน เครื่องทั้งสองสามารถใช้งานได้เกิน 300,000 กม. โดยไม่ต้องโอเวอร์ฮอล และนี่คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ Nissan Tiida ยังคงเป็นรถมือสองที่น่าใช้อย่างมาก
ระบบส่งกำลังของนิสสันทีด้า

นิสสันทีด้าที่ขายในไทยมาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกำลัง 2 แบบ ได้แก่ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่น จุดด้อย และช่วงอายุการใช้งานที่แตกต่างกันไป
เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
หนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดในบ้านเราคือ Tiida 1.6 ลิตรจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ซึ่งเกียร์ของ Nissan รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความอึด ถึก ทน เพราะถูกออกแบบมาตั้งแต่ยุค 1990 ให้รองรับเครื่องยนต์ได้ถึงขนาด 2.0 ลิตร แม้การเปลี่ยนเกียร์จะไม่ได้ฉับไวทันใจแต่สิ่งที่ได้มาคือความทนทานสูงมากและแทบไม่มีปัญหาจุกจิก บางคันใช้งานได้เกิน 300,000 กม. แบบไม่ต้องยกเกียร์ลูกใหม่ แผ่นคลัตช์ในทอร์กคอนเวอร์เตอร์ก็ทนทานอย่างมาก
ถ้าเกียร์เริ่มเปลี่ยนจังหวะแปลก ๆ หรือกระตุกบ้าง สาเหตุมักจะไม่ใช่เพราะชุดเกียร์เสีย แต่เกิดจากหน้าสัมผัสของตัวต้านทานลดแรงดันที่อยู่ใกล้แบตเตอรี่เกิดการออกซิเดชัน เพียงแค่ถอดออกมาทำความสะอาดก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
เกียร์ธรรมดา 5 สปีด
ในตลาดมือสอง รถ Nissan Tiida เกียร์ธรรมดาอาจจะหายากกว่า ซึ่งเกียร์ธรรมดาของ Tiida จัดว่ามีความน่าเชื่อถือสูง จุดที่ควรดูแลมีเพียงเรื่องการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 80,000 กม. และเกียร์สามารถใช้งานได้เกิน 200,000 กม. แบบสบาย ๆ หลังพ้นระยะทางนี้ไปแล้วอาการที่มักจะเริ่มเกิดขึ้นคือเกียร์หอนเวลาเข้าเกียร์ 1 หรือ 2 และอาการเข้าเกียร์ยากขึ้น เนื่องจากลูกปืนเพลาอินพุตและซิงโครไนเซอร์เริ่มสึกหรอ
ในส่วนของชุดคลัตช์อายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 120,000 – 150,000 กม. ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ แต่ปัญหาที่พบได้บ้างคือลูกสูบคลัชตัวล่างรั่วซึมหรือระบายอากาศผิดปกติ ทำให้แป้นคลัตช์เบาหรือจม แก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่เท่านั้น
ระบบกันสะเทือนและพวงมาลัย
ระบบกันสะเทือนและพวงมาลัยของ Nissan Tiida อาจไม่ได้โดดเด่นล้ำหน้ากว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน แต่ก็ถือว่ามีจุดแข็งด้านความทนทานและการบำรุงรักษาที่ไม่ซับซ้อน Tiida ใช้พวงมาลัยไฟฟ้าซึ่งโดยรวมแล้วถือว่ามีความน่าเชื่อถือสูง ไม่ค่อยเจอปัญหาในช่วงแรกของการใช้งาน แม้จะวิ่งผ่านถนนขรุขระก็ยังทนได้ดี ส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้ยาวถึง 150,000 กม. ก่อนที่จะเริ่มมีอาการหรือเสียงผิดปกติ
หนึ่งในจุดที่หลายคนมักพบคือข้อต่อ U Joint ของเพลาพวงมาลัยซึ่งอาจเริ่มมีปัญหาเมื่อใช้งานผ่าน 50,000 กม. โดยอาการที่สังเกตได้คือพวงมาลัยมีระยะฟรีมากขึ้นและได้ยินเสียงเคาะเบา ๆ เมื่อหมุนพวงมาลัยเวลาเลี้ยว อาการดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแร็คพวงมาลัยทั้งชุดเพราะสามารถเปลี่ยนเฉพาะข้อต่อเพลาพวงมาลัยได้ และร้านที่เชี่ยวชาญระบบพวงมาลัยก็สามารถจัดการให้ได้ไม่ยาก
ระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง
โครงสร้างระบบกันสะเทือนของ Tiida ค่อนข้างเรียบง่าย ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม การออกแบบนี้มีข้อดีตรงที่ประหยัดต้นทุนในการดูแลรักษาและมีอะไหล่รองรับในท้องตลาดมากมาย อย่างไรก็ตาม มีบางจุดที่ควรจับตามองเรื่องอายุการใช้งาน บูชปีกนกหน้าตัวหลังมักเริ่มเสื่อมสภาพช่วง 70,000 – 80,000 กม. บูชปีกนกหน้าตัวหน้าอยู่ได้ราว 150,000 กม. เบ้าโช้คหน้ามีอายุการใช้งานใกล้เคียงกับบูชปีกนกและควรเปลี่ยนพร้อมกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนลูกหมากปีกนกอยู่ได้ประมาณ 100,000 กม.
โดยทั่วไปแล้วอะไหล่กลุ่มนี้จะไม่แยกขายรายชิ้น ผู้ผลิตมักจัดขายพร้อมปีกนกทั้งชุด ซึ่งทำให้การเปลี่ยนครั้งเดียวได้ชิ้นส่วนใหม่ครบและง่ายต่อการซ่อม
โช้คอัพและชิ้นส่วนอื่นๆ
โช้คอัพหน้าและหลังของ Tiida มีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 100,000 – 150,000 กม. เหล็กกันโคลงและบูชกันโคลงมักเสื่อมเร็วกว่าชิ้นส่วนอื่น ๆ อายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 70,000 กิโลเมตร ส่วนลูกปืนล้ออยู่ได้นานราว 80,000 – 100,000 กม. ในกรณีที่ใช้ล้อและยางขนาดมาตรฐาน แต่หากเปลี่ยนไปใช้ล้อขนาดใหญ่ หรือออฟเซตลบมากเกินไป อายุการใช้งานจะสั้นลง และมีโอกาสเกิดเสียงหอนเร็วกว่าปกติ
สิ่งที่น่าสนใจคือการปรับจูนระบบกันสะเทือนในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ (หลังปี 2010) มีความต่างจากรุ่นก่อนหน้า โดย Tiida รุ่นก่อนปรับโฉม จะให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่นุ่มนวล สบาย เหมาะกับการใช้งานในเมืองหรือนั่งทางไกล ส่วนรุ่นหลังปรับโฉม ช่วงล่างจะเก็บแรงสะเทือนได้ดีขึ้น แข็งขึ้นนิด ๆ แต่ให้การควบคุมบนถนนขรุขระหรือทางลูกรังได้มั่นคงขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องขับผ่านถนนสภาพไม่สมบูรณ์บ่อย ๆ
โครงสร้างตัวถังและงานสีของรถนิสสัน

งานสีตัวถังของ Nissan Tiida คล้ายกับรถญี่ปุ่นทั่วไปในยุคเดียวกัน คือมีความเงางามเรียบเนียนแต่ชั้นสีค่อนข้างบางและเปราะบางต่อรอยขีดข่วน ทำให้ในรถที่ใช้งานมานานหลายปี มักพบรอยกะเทาะเล็ก ๆ จากเศษหินบนฝากระโปรงหรือซุ้มล้อได้เป็นเรื่องปกติ หากปล่อยให้รอยเหล่านี้ลึกจนถึงเนื้อเหล็กโดยไม่ซ่อมแซม อาจทำให้เกิดสนิมในภายหลัง โดยเฉพาะในจุดที่สีถูกขูดออกไปจนเห็นเนื้อโลหะ อย่างไรก็ตาม ถ้าดูแลอย่างเหมาะสม รอยเล็ก ๆ เหล่านี้สามารถขัดเคลือบหรือลงสีแต้มได้โดยไม่ต้องพ่นใหม่ทั้งชิ้น
ข้อดีของ Tiida คือโครงสร้างตัวถังได้รับการชุบสังกะสี (Galvanized) มาอย่างดีจึงทนต่อการกัดกร่อนได้ในระดับที่น่าพอใจ แม้จะเป็นรถที่ใช้งานมาแล้วกว่า 10 ปี หากไม่เคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมาก่อน ก็แทบจะไม่พบปัญหารูผุทะลุ จุดที่ควรตรวจสอบคือบริเวณ ขอบประตูซึ่งอยู่ใต้คิ้วพลาสติกตกแต่ง เพราะเป็นบริเวณที่มีโอกาสเกิดสนิมจากความชื้นสะสมได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว หากพบสนิมก็รีบกำจัดก่อนที่จะลุกลาม
อุปกรณ์ภายนอกและจุดเสี่ยง
เลนส์ไฟหน้าของ Nissan Tiida ทำจากพลาสติกซึ่งอาจมีอาการเหลืองและขุ่นมัวตามอายุใช้งานแต่โดยมากสามารถขัดคืนสภาพได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่น่ากังวลมากกว่าคือรอยแตกร้าวเล็ก ๆ ที่มักเกิดจากความร้อนหรือการเสื่อมสภาพของวัสดุ ขณะที่ไฟตัดหมอกก็มีความเปราะบางเป็นพิเศษเพราะติดตั้งในตำแหน่งต่ำใกล้กับพื้นถนน โดนหินดีดหรือกระแทกเล็ก ๆ ก็อาจร้าวหรือแตกได้ง่าย ควรตรวจสอบบ่อยหากต้องขับผ่านเส้นทางขรุขระเป็นประจำ

กันชนหน้า-หลังยึดกับตัวถังด้วยคลิปล็อกพลาสติกที่ค่อนข้างเปราะบาง ทำให้กันชนมีแนวโน้มห้อยหรือเบี้ยวได้ง่ายแม้จะถูกชนหรือกระแทกเบา ๆ ขณะที่กลไกล็อกประตูมีโอกาสอุดตันด้วยฝุ่นหรือเศษสนิมจากการใช้งานระยะยาวโดยเฉพาะในรถที่จอดกลางแจ้งหรือไม่ได้ล้างบ่อย หากระบบเซ็นทรัลล็อกเริ่มรวนหรือกดรีโมตไม่ติดอาจต้องเปิดดูและทำความสะอาด หรือเปลี่ยนมอเตอร์ภายใน
ภายในและระบบไฟฟ้า

แม้ดีไซน์ของ Nissan Tiida จะไม่ได้หวือหวาแต่วัสดุในห้องโดยสารก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูกลดต้นทุนจนเกินไป ทั้งแดชบอร์ด แผงประตู และเบาะนั่งให้สัมผัสที่แน่นและทนทานพอสมควร เบาะผ้าโดยเฉพาะรยังสามารถรักษาทรงไว้ได้แม้จะผ่านการใช้งานกว่า 100,000 กม. อย่างไรก็ตาม มีรายละเอียดเล็ก ๆ ที่พอจะเผยให้เห็นอายุของรถได้ เช่น เสียงลั่นของชิ้นส่วนพลาสติกที่อาจมีให้ได้ยินหลังใช้งานไปราว 5 ปี ซึ่งเป็นปัญหาเล็กน้อยที่แก้ไขได้ง่าย
Tiida ไม่มีปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้ามามากนักและไม่มีบอร์ดควบคุมกลางที่ซับซ้อนอย่างในรถยุคใหม่ นั่นคือข้อดีเพราะยิ่งเรียบง่ายก็ยิ่งมีจุดเสียหายน้อย แต่เมื่อใช้งานมานาน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็มักเป็นผลจากการเสื่อมของชิ้นส่วนตามเวลา ปัญหาที่พบได้คือปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยที่อาจกดไม่ติดหรือทำงานติด ๆ ขัด ๆ เมื่อวิ่งถึงระยะ 150,000 – 200,000 กม. สาเหตุหลักมาจากสายไฟภายในเริ่มเสื่อมสภาพ สามารถเปลี่ยนใหม่หรือซ่อมได้โดยไม่ต้องรื้อทั้งพวงมาลัย

มอเตอร์พัดลมแอร์อาจเริ่มส่งเสียงหอนจากการเสื่อมของสารหล่อลื่นในแกนพัดลม แก้ไขได้ด้วยการถอดออกมาหล่อลื่นใหม่ หรือหากพัดลมหยุดทำงานไปเลยในขณะที่หน้าจอควบคุมยังปกติ สาเหตุอาจอยู่ที่ตัวต้านทานมีปัญหา อีกหนึ่งปัญหาที่พบใน Tiida อายุหลายปีคือท่อแอร์บางจุดมีการรั่วซึม หากไม่รีบแก้ไขอาจต้องเปลี่ยนท่อยกชุดซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
นอกจากนี้ ผู้ใช้ Tiida หลายคนพบว่าหน้าจอเรือนไมล์และชุดควบคุมแอร์แบบดิจิทัลในรุ่นท็อปยังทำงานได้ดีแม้รถวิ่งไปถึงหลักแสนกิโลเมตร แต่ระบบเซ็นทรัลล็อกอาจเริ่มทำงานช้าหรือมีดีเลย์เล็กน้อยในรถที่ไม่เคยเปลี่ยนแบตเตอรี่รีโมตหรือมีฝุ่นสะสมในกลไกภายในประตู ส่วนกระจกไฟฟ้าและกระจกข้างปรับไฟฟ้ามีความทนทานและไม่ค่อยพบปัญหา

คำแนะนำการซื้อ Nissan Tiida มือสอง
หากคุณกำลังมองหารถมือสองรถราคาถูกที่เน้นความทนทาน ขับใช้งานได้จริง ไม่จุกจิก และค่าดูแลรักษาไม่แพง Nissan Tiida เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพื่อให้ได้ Nissan Tiida คุณภาพดี ไม่สร้างภาระเรื่องการซ่อมแซมภายหลัง ควรตรวจสอบรายละเอียดดังนี้
- ตรวจสภาพตัวถังและสีรถ: ใช้เครื่องวัดความหนาสีตรวจเช็กรอบคันว่ามีความหนาของชั้นสีสม่ำเสมอหรือไม่ หากเจอชั้นสีที่มีการพ่นมาหนาหรือบางกว่าจุดอื่น ๆ เป็นไปได้ที่รถคันนี้ผ่านการซ่อมสีมา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ารถผ่านการชนหนักจนเสียหายถึงโครงสร้างตัวถัง นอกจากนี้ควรตรวจดูจุดอ่อน เช่น ซุ้มล้อ, ขอบประตู, และฝากระโปรง ว่ามีสนิมหรือรอยผุหรือไม่
- ตรวจสอบเลขไมล์อย่างมีเหตุผล: ควรตั้งข้อสังเกตหากพบว่ารถมีเลขไมล์ต่ำผิดปกติในคันที่อายุมาก โดยเปรียบเทียบกับสภาพภายในของรอง เช่น เบาะพัง พวงมาลัยมันเงา หรือแป้นเบรกสึก หรือเป็นไปได้ควรขอประวัติการเข้าศูนย์เช็กระยะหรือประวัติการซ่อม
- ระบบทุกอย่างต้องใช้งานได้จริง: พวงมาลัย ปุ่มควบคุม เครื่องเสียง แอร์ พัดลม ไฟหน้า ไฟท้าย ระบบเซ็นทรัลล็อก ทุกอย่างควรทดลองใช้งานให้ครบ ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น แอร์ไม่เย็น เสียงพัดลมดัง หรือไฟหน้าสว่างไม่เท่ากัน อาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาเล็กที่ตามมาด้วยค่าใช้จ่าย
- เช็กระบบเกียร์และช่วงล่าง: ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ ต้องลองขับดูว่าเปลี่ยนเกียร์นิ่มหรือไม่ และต้องไม่มีอาการกระตุก ช่วงล่างควรแน่น ไม่มีเสียงเคาะหรือหอนตอนวิ่งผ่านถนนขรุขระ
สรุป Nissan Tiida มือสอง น่าใช้หรือไม่

Nissan Tiida อาจไม่ใช่รถที่มีภาพลักษณ์หวือหวา แต่เมื่อพูดถึงความคุ้มค่า ความเรียบง่าย การดูแลง่าย และสมรรถนะใช้งานจริง มันคือรถอีกรุ่นหนึ่งที่คุ้มค่าน่าใช้ หากคุณเจอคันที่ถูกดูแลมาอย่างดี ไม่เคยชนหนัก และไม่มีประวัติกรอเลขไมล์ การซื้อ Tiida มือสองสภาพดีสักคันถือเป็นการตัดสินใจที่ดี โดยข้อดีหลักของ Nissan Tiida มือสอง มีดังนี้
- บำรุงรักษาง่าย อะไหล่ nissan หาง่าย ไม่ต้องเข้าศูนย์ nissan ก็ซ่อมได้ทุกอู่
- ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงในเชิงเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง หรือระบบไฟฟ้า
- สมรรถนะและความประหยัดอยู่ในระดับดี ทั้งในเมืองและเดินทางไกล
- ราคาในตลาดไม่แรงเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้ จึงคุ้มค่าเงินสำหรับการใช้งานจริง
Nissan Tiida มือสองเป็นรถที่ตอบโจทย์คนมองหารถราคาถูก มองหาความเรียบง่ายแต่น่าเชื่อถือ มองหารถญี่ปุ่นขนาดเล็กที่ทนทานและมีค่าใช้จ่ายในการดูแลไม่สูง รถรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ขับในเมืองก็ดี วิ่งทางไกลก็ได้ หากดูแลตรงจุด เปลี่ยนของเหลวตามรอบ ใช้อะไหล่แท้หรือของเทียบคุณภาพดี Tiida ก็พร้อมจะอยู่กับคุณไปอีกนานหลายปีแบบไม่มีใหญ่มากวนใจ
ค้นหา Nissan Tiida (ปี 2007-2014) มือสองที่ใช่สำหรับคุณ
เรารวบรวมประกาศขายนิสสันทีด้ามือสองจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว
เปรียบเทียบราคาเช็คประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ
พบกับ รถราคาถูกมากมายที่นี่ →นิสสันทีด้า มือสอง
- กรุงเทพมหานคร, 500 km
- ยี่ห้อ: Nissan
- รุ่น: Tiida
- แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod