Nissan Teana มือสอง (L33) – ทางเลือกน่าใช้สำหรับคนมองหาความสบายระดับพรีเมียม

1.webp

Nissan Teana เจเนอเรชันที่ 3 หรือที่รู้จักกันในรหัสรุ่น L33 คือหนึ่งในความพยายามครั้งสำคัญของ Nissan ในการกลับมาทวงพื้นที่ในตลาดซีดานระดับพรีเมียมของประเทศไทย รถรุ่นนี้เปิดตัวในเมืองไทยเมื่อปี 2013 และทำตลาดถึงราว ๆ ปี 2020 โดยถูกวางตัวให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Toyota Camry และ Honda Accord ซึ่งเป็นสองแบรนด์เจ้าตลาดในขณะนั้น ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารที่หรูหรา และเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่ารุ่นก่อนหน้า (J32) อย่างชัดเจน ทำให้ Teana L33 กลายเป็นหนึ่งในรถที่น่าจับตาในช่วงเวลานั้น

แม้ว่า nissan teana L33 จะไม่ได้ครองส่วนแบ่งตลาดอย่างที่บริษัทหวังไว้ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ความนิยมของแบรนด์คู่แข่งที่เหนียวแน่น และภาพลักษณ์ของ Nissan ที่มักถูกมองว่าเน้นไปที่ความคุ้มค่ามากกว่าความหรูหรา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในซีดานที่ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล สบาย และมาพร้อมออปชันแน่น ๆ ในราคาที่สมเหตุสมผล

ในตลาดรถมือสองปัจจุบัน Nissan Teana L33 กลับมาได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่มองหารถซีดานขนาดกลางที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมโดยไม่ต้องจ่ายแพงเกินไป จุดเด่นอย่างช่วงล่างที่นุ่ม แน่น เครื่องยนต์ที่ให้กำลังดีพอสำหรับการใช้งานในเมืองและเดินทางไกล รวมถึงระบบอำนวยความสะดวกภายในที่ครบครัน ทำให้ Teana L33 กลายเป็นตัวเลือกที่น่าคบหา

สำหรับใครที่อยากได้รถซีดานที่ให้ทั้งความหรู ความคุ้ม และความสบายในราคาเอื้อมถึง บทความนี้จะพามาเจาะลึก Nissan Teana L33 ว่ามีจุดแข็งอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ ข้อดีข้อเสียมีอะไรที่ควรระวัง และควรเลือกรุ่นย่อยไหนถึงจะคุ้มค่าที่สุด ติดตามอ่านกันต่อได้ในบทความนี้

รากฐานทางเทคนิคและการสร้างนิสสันเทียน่า L33

6.webp

นิสสันเทียน่า L33 มีพื้นฐานมาจากแพลตฟอร์มของ Nissan Altima ที่ทำตลาดในอเมริกาเหนือ แต่ถูกปรับแต่งและพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ในภูมิภาคเอเชียรวมถึงประเทศไทยของเรา โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความสบายในการขับขี่ ความเงียบภายในห้องโดยสาร และความนุ่มนวลของช่วงล่าง

หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ Teana L33 คือโครงสร้างตัวถังที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มเติมจากเวอร์ชันอเมริกัน ซึ่งส่งผลให้การขับขี่มีความมั่นคงมากขึ้นโดยเฉพาะในความเร็วสูงและการเข้าโค้ง ส่วนระบบกันสะเทือนก็มีการปรับเซตใหม่หมด ช่วยให้รถคันนี้ให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่นุ่มแต่ยังคงความหนึบแน่น ต่างจากรถซีดานญี่ปุ่นทั่วไปที่มักจะเน้นความนุ่มเพียงอย่างเดียว

ในด้านของการเก็บเสียง Nissan ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน มีการเพิ่มฉนวนกันเสียงรอบคัน ทั้งบริเวณห้องเครื่อง ฝาประตู พื้นรถ และซุ้มล้อ ช่วยให้บรรยากาศภายในเงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือขับในเมืองที่มีเสียงรบกวนมาก

สำหรับขุมพลังของ Teana L33 ในไทยวางเครื่องยนต์เบนซินไว้ 2 ทางเลือกคือ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปทั้งในเมืองและนอกเมือง ทั้งสองเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ X-tronic CVT ซึ่งเป็นเกียร์ที่ Nissan ใช้ในรถหลายรุ่นมายาวนาน ได้รับการออกแบบให้รองรับแรงบิดได้สูง การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลและตอบสนองได้ดีในชีวิตประจำวัน

แม้จะผ่านเวลามาหลายปีแต่เทคโนโลยีและงานวิศวกรรมที่ใส่ลงใน Teana L33 ยังคงน่าประทับใจ รถรุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกที่น่าใช้ไม่น้อยเมื่อมองในมุมของรถมือสอง

เครื่องยนต์ของ Nissan Teana L33 ในไทย

นิสสัน เทียน่า L33 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร MR20DE

Nissan Teana L33 รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส MR20DE เป็นเครื่องยนต์บล็อก 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว 1,997 ซีซี กำลังอัด 10.0:1 หัวฉีด EGI กล่องสมองกล ECCS พร้อมระบบแปรผันวาล์ว CVTC ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที

เครื่องยนต์รุ่นนี้บรรจุอยู่ในหลายรุ่นย่อยของ Teana L33 เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงในไทย ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัด ดูแลง่าย ไม่จุกจิก แม้ว่าพละกำลังที่ทำได้อาจจะดูน้อยไปนิด ทำให้สมรรถนะของรถไม่กระฉับกระเฉงเท่าที่ควรแต่ก็แลกมาด้วยความทนทานและความเรียบง่าย ทำให้เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นช่างทั่วไปมักซ่อมได้ หากดูแลเป็นอย่างดี เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร MR20DE สามารถใช้งานได้ทะลุ 100,000 กม. โดยไม่มีปัญหาใหญ่ที่น่าปวดใจ

เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร QR25DE

Nissan Teana L33 รุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส QR25DE เป็นเครื่องยนต์บล็อก 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว 2,488 ซีซี กำลังอัด 10.0:1 มีระบบแปรผันวาล์ว CVTC ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 234 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์บล็อกนี้มีการปรับปรุงชิ้นส่วนสำคัญเช่นลูกสูบและโครงสร้างบล็อกเครื่องเพื่อเพิ่มความทนทานและลดปัญหาที่เคยเกิดในรุ่นเก่า ๆ เป็นเครื่องยนต์ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 300,000 กม. ถ้าได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แต่ถ้าถูกใช้งานหนักหรือได้รับการดูแลไม่สม่ำเสมอ ปัญหาก็อาจเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่ระยะทางประมาณ 100,000 กม.

ปัญหาหลักของเครื่องยนต์ QR25DE

  1. ปัญหาความร้อนสะสม (โอเวอร์ฮีต): เป็นหนึ่งในปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดซึ่งมักเกิดจากการอุดตันของหม้อน้ำทั้งจากฝุ่นภายนอกและตะกรันภายในระบบหล่อเย็น ผู้ใช้จึงควรตรวจเช็กและล้างหม้อน้ำทุก 50,000 กม. เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์
  2. ระบบเทอร์โมสตัท: เครื่องยนต์ QR25DE มีการออกแบบระบบควบคุมอุณหภูมิที่ซับซ้อนกว่าปกติ โดยมีเทอร์โมสตัทถึงสองตัว ตัวแรกอยู่ที่บล็อกเครื่องยนต์ และอีกตัวอยู่ในชุดจ่ายน้ำหล่อเย็นใกล้หัวสูบ เทอร์โมสตัทตัวที่สองจะยังไม่เปิดจนกว่าอุณหภูมิจะถึง 95°C ซึ่งอาจทำให้เกิดความต่างของอุณหภูมิระหว่างส่วนบนและล่างของเครื่องยนต์ ส่งผลให้การระบายความร้อนไม่สม่ำเสมอ และอาจกระทบต่อความทนทานในระยะยาว
  3. เรือนปีกผีเสื้อและไอน้ำมัน: เมื่อใช้งานไป 100,000 กม. เรือนปีกผีเสื้อจะเริ่มสะสมเขม่าน้ำมันและสิ่งสกปรก ส่งผลต่อการตอบสนองของเครื่องยนต์ ทำให้รอบเดินเบาไม่นิ่ง และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ควรทำความสะอาดเรือนปีกผีเสื้อทุก ๆ 40,000 – 60,000 กม. เพื่อคงประสิทธิภาพการทำงานที่ดี
  4. Catalytic converter และการสึกหรอของกระบอกสูบ: ในบางกรณี Catalytic converter อาจเริ่มเสื่อมสภาพและปล่อยเศษผงเข้าไปในห้องเผาไหม้ โดยเฉพาะในรถคันที่เติมน้ำมันคุณภาพต่ำหรือละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทำให้เกิดรอยขีดข่วนภายในกระบอกสูบ ส่งผลต่อแรงอัดและสมรรถนะของเครื่องยนต์ในระยะยาว
  5. โซ่ราวลิ้นยืด: อีกหนึ่งจุดที่พบได้เมื่อใช้งานไปถึงระยะประมาณ 200,000 กม. คือการยืดของโซ่ราวลิ้น แม้จะไม่มีเสียงเตือนชัดเจนแต่จะเริ่มสังเกตได้จากอาการเครื่องอืด แรงตก และกินน้ำมันมากขึ้น ในบางกรณีอาจเกิด error จากเซนเซอร์ตำแหน่งเพลาลูกเบี้ยว ซึ่งหากปล่อยไว้อาจกระทบกับการสตาร์ทเครื่องและการทำงานของระบบวาล์ว

ปัญหาระบบระบายความร้อนของ นิสสัน เทียน่า L33

หม้อน้ำของ Nissan Teana L33 มีแนวโน้มที่จะเกิดการอุดตันจากทั้งสิ่งสกปรกภายนอก เช่น ฝุ่น เศษแมลง และคราบตะกรันสะสมภายในท่อระบายความร้อน เมื่อเวลาผ่านไปจะส่งผลให้การถ่ายเทความร้อนทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์จึงเริ่มร้อนเกิน และถ้าปล่อยไว้นานโดยไม่ล้างหม้อน้ำตามระยะ อาจส่งผลให้ฝาสูบเสียรูปหรือปะเก็นฝาสูบชำรุดได้

ควรล้างระบบหม้อน้ำทุก ๆ 50,000 – 60,000 กม. หรือเป็นไปได้คือปีละ 1 ครั้งโดยใช้น้ำยาล้างระบบที่เหมาะสม และควรเติมน้ำยาหล่อเย็นที่มีคุณภาพเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเติมน้ำเปล่าล้วน เพราะจะเร่งการเกิดตะกรันภายในระบบ

อีกหนึ่งปัญหาคือปะเก็นฝาวาล์วรั่ว ซึ่งมีโอกาสเจอได้หลังจากผ่านการใช้งานไปนานราว 5 – 7 ปี ยางปะเก็นฝาวาล์วมักจะแข็งกรอบตามอายุการใช้งานทำให้เกิดการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง ซึ่งในกรณีของ Teana L33 น้ำมันอาจไหลลงไปในหลุมหัวเทียน ส่งผลให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องเดินไม่เรียบ สะดุด หรือไฟเครื่องโชว์

สัญญาณเตือนคือมีกลิ่นไหม้เบา ๆ ภายในห้องเครื่อง มีควันขาวจากฝากระโปรง เครื่องสั่นเมื่อเดินเบา หรือมีคราบน้ำมันในบริเวณคอยล์หัวเทียน แก้ไขได้ด้วยเปลี่ยนปะเก็นฝาวาล์ว และหากน้ำมันเข้าหัวเทียน ควรตรวจเช็กคอยล์และหัวเทียนร่วมด้วย เพราะอาจเสียหายจากการเปียกน้ำมัน

ระบบเกียร์ X-tronic CVT

นิสสัน เทียน่า L33 ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ X-tronic CVT

นิสสัน เทียน่า L33 ทั้ง 2 เครื่องยนต์ที่ขายในไทยมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ X-tronic CVT ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ขับขี่ โดยเฉพาะในเรื่องของความนุ่มนวล ความประหยัด และการตอบสนองในเมือง หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เกียร์ CVT ของ Teana L33 สามารถใช้งานได้ถึง 150,000 กม. หรือมากกว่าโดยไม่แสดงอาการผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ระบบเกียร์ X-tronic CVT เสียหายเร็วกว่าที่ควรส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการขับขี่ เช่น

  • การขับที่ความเร็วสูงเกิน 160 กม./ชม. ต่อเนื่อง
  • การออกตัวแรงบ่อย ๆ หรือการเหยียบคันเร่งคิ๊กดาวน์เป็นประจำ
  • การหมุนล้อฟรี (เช่น ตอนติดหล่ม) หรือการลากรถ
  • การไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์หรือเปลี่ยนช้าเกินไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถมือสอง ผู้ซื้อควรตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาให้ชัดเจน เพราะความเสียหายที่เกิดกับเกียร์ CVT มักเป็นแบบค่อย ๆ สะสมไปทีละนิด กว่าจะเห็นอาการชัด ๆ ก็อาจเข้าสู่ช่วงที่ต้องรื้อเกียร์ทั้งลูกมาโอเวอร์ฮอลแล้ว

ระบบกรองเกียร์และการบำรุงรักษาที่ไม่ควรมองข้าม

เกียร์ CVT ใน Teana ใช้ระบบกรองหลายชั้นเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากการสึกหรอของชิ้นส่วน เริ่มจากตัวกรองหยาบที่อยู่ในอ่างเกียร์ แม่เหล็กดักเศษโลหะที่ก้นอ่าง และตัวกรองละเอียดที่อยู่แยกออกมาติดกับห้องเกียร์ใกล้ชุดแลกเปลี่ยนความร้อน ชิ้นส่วนเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของระบบ และหลีกเลี่ยงความเสียหายสะสม

แม้ทางผู้ผลิตไม่ได้กำหนดระยะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่แน่นอนแต่จากประสบการณ์ผู้ใช้ทั่วไปและช่างมืออาชีพ แนะนำให้เปลี่ยนทุก 60,000 – 80,000 กม. หรือทุก 3 ปี เพื่อให้เกียร์อยู่กับรถไปนาน ๆ

อาการเสียที่พบบ่อยในเกียร์ X-tronic CVT ของ Teana L33

  • กระตุกและสั่นเบา ๆ ขณะขับ: เกิดจากการสึกหรอของบล็อกไฮดรอลิกภายในเกียร์ อาการมักเริ่มปรากฏหลัง 50,000 กม. และจะชัดเจนขึ้นเมื่อใกล้ 100,000 กม. ถ้าไม่แก้ไขอาจต้องเปลี่ยนทั้งชุดควบคุมไฮดรอลิก
  • สายพานหรือโซ่ลื่น: เกิดจากวาล์วควบคุมแรงดันน้ำมันในระบบเสื่อมคุณภาพจากน้ำมันเกียร์ที่สกปรก ทำให้สายพานหรือโซ่ไม่ถูกรัดแน่นกับพูลเลย์ส่งผลให้เกิดการลื่น สุดท้ายพูลเลย์จะเกิดรอยและสึกหรอร่วมกันกับส่วนอื่น ๆ ในระบบ
  • เสียงฮัมจากในเกียร์: เป็นอาการที่มักเกิดในรถที่ใช้งานมานาน (ระยะทาง 150,000 กม. ขึ้นไป) และมักเกี่ยวข้องกับการสึกหรอของแบริ่งที่อยู่ลึกภายในเกียร์ การเปลี่ยนแบริ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะต้องรื้อเกียร์แทบทั้งลูก จึงมักมาพร้อมกับการยกเครื่องเกียร์ทั้งชุด

ระบบกันสะเทือนและการควบคุม

นิสสัน เทียน่า L33 ระบบกันสะเทือนขับขี่ได้นุ่มหนึบ

หนึ่งในจุดแข็งที่ผู้ใช้หลายคนพูดถึงเมื่อพูดถึง Nissan Teana L33 คือความนุ่มและความหนึบของระบบกันสะเทือน ซึ่งไม่ใช่คำโฆษณาเกินจริงแต่อย่างใดเพราะรถรุ่นนี้ถูกปรับจูนมาอย่างละเอียดเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ในตลาดเอเชียรวมถึงไทย ที่ให้ความสำคัญกับความสบายในการเดินทาง แต่ก็ยังต้องการการควบคุมที่มั่นคงในทุกสภาพถนน

Teana L33 ที่ได้รับการเสริมความแข็งแรงของชิ้นส่วนช่วงล่าง มีการปรับสปริงกับโช้คอัพให้แข็งขึ้นเล็กน้อยจากเวอร์ชันอเมริกัน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและลดอาการโคลงในขณะเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนเร็ว ๆ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งค้ำโช้คหน้าเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างช่วงล่างอีกระดับ

กันสะเทือนด้านหลังเป็นระบบกันแบบมัลติลิงก์ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ที่นุ่มนวล พร้อมทั้งให้ความนิ่งและเกาะถนนในช่วงความเร็วสูง บูชยางในระบบช่วงล่างก็ได้รับการปรับปรุง โดยเฉพาะบูชของระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้ควบคุมทิศทางได้แม่นยำขึ้นแม้ในสถานการณ์ที่รถต้องรับภาระหนัก เช่น บรรทุกคนเต็มคันหรือเข้าโค้งแรง ๆ

อายุการใช้งานและการดูแล

โดยทั่วไประบบกันสะเทือนของ Teana L33 สามารถใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาจนถึงระยะทาง 100,000 กม. หรือมากกว่านั้น แต่ก็มีบางจุดที่ควรเริ่มตรวจสอบตั้งแต่ระยะประมาณ 80,000 กิโลเมตร ได้แก่ เบ้าโช้คอัพหน้าซึ่งอาจเริ่มมีเสียงดังหรือความรู้สึกกระด้างผิดปกติ และบูชยางพวงมาลัยที่อาจเริ่มแข็งตัวทำให้พวงมาลัยรู้สึกหลวมหรือไวเกินไป

ข่าวดีคือชิ้นส่วนต่าง ๆ ในระบบช่วงล่างของ Teana สามารถเปลี่ยนแยกกันได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยกชุดเหมือนรถบางรุ่น ทำให้ค่าซ่อมหรือค่าดูแลรักษาในระยะยาวอยู่ในระดับที่จับต้องได้ และไม่ทำให้เจ้าของรถปวดหัวโดยไม่จำเป็น

ระบบพวงมาลัยและเบรก

พวงมาลัยของ Teana L33 เป็นแบบแร็คแอนด์พิเนียน (Rack and Pinion) ที่ให้ความแม่นยำและตอบสนองได้ดี ซึ่งโดยรวมถือว่าทนทานมาก ไม่มีรายงานปัญหาสำคัญจากผู้ใช้ทั่วไป ส่วนข้อต่อลูกหมากก็แสดงให้เห็นถึงความทนทานที่ดี แม้จะใช้งานในสภาพถนนขรุขระก็ตาม

จุดเดียวที่ถูกพูดถึงบ่อยคือผ้าเบรกหน้าที่มีอายุการใช้งานสั้นกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน โดยมักจะต้องเปลี่ยนตอนระยะ 30,000 กม. โดยเฉพาะหากใช้งานในเมืองที่ต้องเบรกบ่อย ๆ หรือขับรถด้วยความเร็วแล้วหยุดกะทันหันเป็นประจำ

โครงสร้างตัวถังและงานสีของ Nissan Teana L33

ในด้านโครงสร้างภายนอก Nissan Teana L33 ใช้เทคโนโลยีการเคลือบกันสนิมแบบแกลวานิกสองด้านซึ่งหมายถึงการเคลือบสังกะสีทั้งด้านนอกและด้านในของแผ่นเหล็กตัวถัง โดยมีความหนาราว 10–12 ไมครอน ช่วยชะลอการเกิดสนิมได้ดีในสภาพการใช้งานทั่วไป อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานจริงโดยเฉพาะรถที่ขับทางไกลหรือใช้ความเร็วบนทางหลวงเป็นประจำ เศษหิน เศษทราย หรือสิ่งกระเด็นจากพื้นถนนอาจสร้างความเสียหายให้กับพื้นผิวสีได้ เมื่อสะเก็ดหินกระแทกลงบนตัวถังจนทะลุชั้นสีรองพื้นและชั้นเคลือบสังกะสีก็อาจนำไปสู่การเกิดสนิมได้หากไม่ได้รับการซ่อมแซม

นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากผู้ใช้บางรายเกี่ยวกับปัญหาสีพองหรือหลุดล่อนโดยเฉพาะในบริเวณฝาท้าย ซึ่งแม้จะพบไม่บ่อยแต่หากเกิดขึ้นตัวแทนจำหน่ายของ Nissan มักจะรับผิดชอบด้วยการพ่นสีใหม่ให้ภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน

สิ่งที่ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Teana L33 คือชิ้นส่วนโครเมียมที่ใช้ตกแต่งรอบคันไม่ว่าจะเป็นขอบหน้าต่าง ป้ายชื่อรุ่น หรือแถบตกแต่งที่มักจะลอกหรือหมองง่าย โดยเฉพาะในรถที่จอดกลางแดดนาน ๆ หรือไม่ได้เคลือบปกป้องไว้ตั้งแต่แรก

ภายในห้องโดยสาร

นิสสัน เทียน่า L33 ภายในหรูหราที่นั้งกว้างขวาง

เมื่อเข้ามานั่งในห้องโดยสารของ Nissan Teana L33 สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือความสบายทั้งจากวัสดุที่ใช้ การออกแบบเบาะ และการเก็บเสียงที่ทำได้ดีเกินมาตรฐานรถญี่ปุ่นทั่วไปในระดับเดียวกัน ภายในตกแต่งด้วยวัสดุที่ดูหรูพอสมควรไม่ว่าจะเป็นหนัง เบาะทรงใหญ่ พื้นที่วางขากว้าง ทั้งฝั่งผู้ขับและผู้โดยสารตอนหลัง โดยเฉพาะเบาะหลังที่รองรับได้เต็มแผ่นหลังและเอนได้ ทำให้การเดินทางไกลไม่เมื่อยล้าง่าย

ถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ในรถที่ดูแลดี ภายในยังดูเรียบร้อยและคงสภาพได้ดีอย่างน่าประทับใจ จุดที่อาจเห็นร่องรอยการใช้งานชัดที่สุดคือเบาะหนัง ซึ่งอาจมีรอยย่นตามอายุการใช้งานแต่ยังไม่ถึงขั้นแตกหรือหลุดลอกง่าย (ยกเว้นรถที่จอดกลางแดดบ่อย ๆ โดยไม่ใช้ม่านบังแดด)

ความสะดวกและฟีเจอร์มาตรฐาน

หนึ่งในจุดที่ทำให้ Teana L33 ดูคุ้มเกินราคาในตลาดมือสองคืออุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มาเกินหน้าคู่แข่งระดับเดียวกันหลายรุ่น รถรุ่นนี้ให้ระบบความปลอดภัยพื้นฐานมาครบตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น เช่น ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว VDC และถุงลมนิรภัยรอบคัน นอกจากนี้ยังมีระบบมัลติมีเดียใช้งานง่าย แม้จะไม่หวือหวาแบบจอสัมผัสยุคใหม่แต่มีฟังก์ชันที่จำเป็นครบทั้งวิทยุ เชื่อมต่อบลูทูธ กล้องมองหลัง และปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย

คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังมองหานิสสันเทียน่ามือสอง

ก่อนซื้อnissan teana มือสองต้องตรวจสอบว่าไม่มีปัญหาเกียร์ CVT

หากคุณกำลังมองหารถซีดานขนาดกลางมือสองที่นั่งสบาย ขับดี และให้ความรู้สึกหรูแบบไม่เว่อร์ Nissan Teana L33 คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งในด้านอุปกรณ์มาตรฐาน สมรรถนะ และความนุ่มนวลของช่วงล่าง อย่างไรก็ตาม ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ยังมีหลายจุดที่คุณควรรู้ไว้ล่วงหน้า เพื่อเลือกคันที่ใช่ และไม่ต้องตามแก้ปัญหาจุกจิกในภายหลัง

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนซื้อ Teana L33 มือสอง

  • ระยะทางไม่ใช่ทุกอย่าง: แม้ว่า Teana L33 จะเป็นรถที่อายุยังไม่เก่าเกินไปแต่หลายคันในตลาดมือสองมักมีระยะทางสะสมสูงกว่ารถทั่วไป เพราะส่วนใหญ่เคยถูกใช้เป็นรถประจำตำแหน่งในองค์กร หรือรถที่วิ่งทางไกลเป็นหลัก รถที่มีเลขไมล์น้อย ๆ จึงหาได้ค่อนข้างยาก และหากเจอก็ควรตรวจสอบให้ดีว่าไมล์ไม่ถูกกรอ
  • เลือกระหว่าง 2.0 กับ 2.5 อย่างไรดี: เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร MR20DE เป็นรุ่นที่พบมากที่สุด มีราคาซ่อมและค่าดูแลไม่สูง แต่อย่าลืมตรวจสอบสภาพเครื่องและระบบเกียร์ CVT อย่างละเอียด โดยเฉพาะอาการกระตุกหรือเปลี่ยนเกียร์ไม่ราบรื่น ส่วนรุ่น 2.5 ลิตร หายากกว่า ราคาสูงกว่า แต่ได้พละกำลังที่ดีกว่าชัดเจน และชุดขับเคลื่อนมีความทนทานสูงกว่า ถ้าไม่ติดเรื่องภาษีและค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ขับสนุก
  • รุ่นท็อปมีออปชันให้เล่นมากกว่า: รุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มากับฟีเจอร์ระดับพรีเมียม อาทิ เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่งฝั่งคนขับ และฟังก์ชัน Welcome Seat, ระบบนำทาง Navigator, เครื่องเสียง Bosch ลำโพง 9 ตำแหน่ง, เซนเซอร์กะระยะทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นต้น

ข้อดีของ Nissan Teana L33

  • ห้องโดยสารเงียบและนั่งสบาย: นิสสันเทียน่ามือสองเหมาะทั้งสำหรับคนขับและผู้โดยสาร โดยเฉพาะคนที่ต้องขับรถทางไกลบ่อย ๆ การเก็บเสียงทำได้ดี พื้นที่ภายในกว้างขวาง โดยเฉพาะเบาะหลังที่นั่งสบายไม่แพ้รถยุโรปราคาแพง
  • ช่วงล่างดี: ให้ความรู้สึกนุ่มหนึบ ขับง่ายแม้บนถนนที่ไม่เรียบ ช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับรถนาน ๆ
  • อุปกรณ์มาตรฐานจัดเต็ม: ระบบความปลอดภัยพื้นฐานอย่าง ABS, VDC, ถุงลมนิรภัยหลายจุด มาให้ตั้งแต่รุ่นล่าง ระบบมัลติมีเดียใช้งานง่าย และมีออปชันหลายอย่างที่หาไม่ได้ในรถคู่แข่งระดับเดียวกัน
  • ราคามือสองคุ้มค่า: หากเทียบกับสิ่งที่ได้ทั้งขนาดรถ อุปกรณ์ ฟีลลิ่งการขับ และภาพลักษณ์ ถือว่า Teana L33 มีความคุ้มค่าค่อนข้างสูงในตลาดมือสอง

จุดอ่อนที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ

  • ระบบเกียร์ CVT ต้องดูแลใกล้ชิด: ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ ไม่ควรปล่อยให้รอบสูงนาน หรือออกตัวแรง ๆ บ่อย หากเกียร์เริ่มกระตุกหรือรอบสวิง ต้องรีบเช็กก่อนจะลามถึงระบบภายใน
  • เครื่องยนต์ QR25DE มีจุดเปราะบาง: หากดูแลไม่ดีอาจเจอปัญหาเรื่องความร้อนเกิน น้ำมันรั่วลงหัวเทียน หรือโซ่ราวลิ้นยืดก่อนกำหนด ยิ่งรถที่เคยใช้หนัก หรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไม่สม่ำเสมอ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนซื้อ

สรุป L33 Nissan Teana มือสอง มือสอง น่าใช้หรือไม่

นิสสันเทียน่ามือสองอุปกรณ์มาตรฐานครบดูแลง่ายราคาดี

ถ้าคุณกำลังมองหาซีดานกลางที่นั่งสบาย อุปกรณ์ครบ และราคาจับต้องได้ Nissan Teana L33 ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะถ้าหาได้คันที่มีประวัติชัดเจน ระยะทางตรงตามจริง และไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์หรือเกียร์ CVT สิ่งสำคัญคือต้องไม่มองข้ามการตรวจเช็กก่อนซื้อทั้งเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และระบบช่วงล่าง พร้อมเตรียมงบไว้สำหรับการดูแลตามระยะ โดยเฉพาะน้ำมันเกียร์ CVT ที่ควรเปลี่ยนสม่ำเสมอ

ถ้าเลือกคันที่ดีและดูแลถูกวิธี L33 nissan teana มือสองจะตอบแทนคุณด้วยความนุ่ม เงียบ ขับดี และใช้งานได้อีกยาว ๆ อย่างสบายใจ ข้อเดียวที่ต้องจำไว้คือถ้าเกียร์ CVT เริ่มมีอาการแปลก ๆ เช่น กระตุก หรือส่งกำลังไม่ราบรื่น รีบพาไปให้ช่างเช็กทันที ยิ่งเจอเร็ว ซ่อมง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย ถ้าคุณเข้าใจรถรุ่นนี้และพร้อมดูแลตามที่มันต้องการ Teana L33 มือสองคือรถที่ดีและยังดูภูมิฐานได้อีกหลายปี

ค้นหา Nissan Teana L33 (ปี2014-2016 ) มือสองที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่

เรารวบรวมประกาศขายจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เปรียบเทียบราคา ดูประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ

เช็คนิสสัน เทียน่า L33 ในไทยได้ที่นี่ → nissan teana มือสอง

  • กรุงเทพมหานคร, 500 km
  • ยี่ห้อ: Nissan
  • รุ่น: Teana
  • ปี: 2013-2025
  • แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod



Nissan Teana มือสอง (L33) – ทางเลือกน่าใช้สำหรับคนมองหาความสบายระดับพรีเมียม