รีวิว Mitsubishi Lancer EX มือสอง – คอมแพ็กซีดานขับสนุก สไตล์จัดจ้าน ราคาจับต้องได้

mitsubishi lancer ex เปิดตัวในไทย2009

ถ้าพูดถึงรถคอมแพ็กซีดานที่ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน Mitsubishi Lancer EX คือหนึ่งในชื่อที่ยังไม่เลือนหายไปจากวงการรถยนต์เมืองไทยแม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม lancer ex เปิดตัวในไทยครั้งแรกช่วงปลายปี 2009 ด้วยรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากมิตซูบิชิ แลนเซอร์รุ่นก่อน ๆ อย่างชัดเจน เส้นสายตัวถังดูโฉบเฉี่ยวและสปอร์ตกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับการวางตำแหน่งให้เป็นซีดานสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากได้ความลงตัวทั้งเรื่องดีไซน์และสมรรถนะ

จุดเด่นของ Lancer EX อยู่ที่ดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและทรงพลัง ภายในมากับความกว้างขวางและการตกแต่งที่ดูพรีเมียมพอตัวสำหรับรถคลาสนี้ ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ก็มีให้เลือกทั้งแบบ 1.8 และ 2.0 ลิตร พร้อมระบบเกียร์ CVT พร้อมติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III แบบ 6 สปีด ที่ให้อารมณ์การขับขี่เหมือนเกียร์ธรรมดา ถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำพอสมควรในยุคนั้น

Lancer EX วางตำแหน่งให้เป็นซีดานที่ลงตัวทั้งดีไซน์และสมรรถนะ

แม้ Lancer EX จะเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนที่ Mitsubishi จะถอนตัวออกจากตลาดรถเก๋งในไทย แต่ความนิยมของซีดานรุ่นนี้ยังคงเหนียวแน่นโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มองหารถมือสองราคาสบายกระเป๋า ขับสนุก และแต่งต่อได้ไม่ยาก ด้วยหน้าตาของรถสวยตั้งแต่ออกจากโรงงาน ดูไม่เก่าและไม่ตกยุค ทั้งยังหาอะไหล่ได้ไม่ลำบากเท่าไร Lancer EX เลยยังครองใจใครหลายคนมาจนถึงตอนนี้

บทความนี้จะพามาเจาะลึก Mitsubishi Lancer EX สำรวจดูจุดเด่น ข้อดี-ข้อเสีย และปัญหาที่พบ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่สนใจซื้อรถรุ่นนี้มือสอง

ดีไซน์ภายนอก lancer ex ยังดูทันสมัยแม้ผ่านไปหลายปี

lancer ex เจน9 ดีไซน์โฉบเฉี่ยวและคล่องตัวแบบรถสปอร์ตซีดาน

Mitsubishi Lancer EX หรือ Lancer เจเนอเรชันที่ 9 (Lancer IX) มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ถือว่าล้ำยุคในช่วงที่เปิดตัว รูปลักษณ์โดยรวมดูโฉบเฉี่ยวและคล่องตัวแต่ก็แฝงความแข็งแกร่งในแบบรถสปอร์ตซีดาน เส้นสายบนตัวถังถูกออกแบบอย่างมีมิติ ช่วยขับให้รถดูปราดเปรียวมากกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ด้านหน้าดุดันด้วยกระจังหน้าทรง “Jet Fighter” ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mitsubishi ยุคนั้น ผสานกับไฟหน้าเรียวยาวที่ออกแบบให้ดูเฉียบคม ช่วยเสริมบุคลิกให้รถดูพุ่งทะยานแม้ในขณะจอดนิ่ง

แม้จะมีการไมเนอร์เชนจ์เล็กน้อยในปี 2011 แต่ภาพรวมของดีไซน์ภายนอกก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้เกือบทั้งหมด การปรับปรุงหลัก ๆ จะเน้นไปที่งานวิศวกรรม เช่น การปรับจูนช่วงล่างให้ขับขี่นุ่มนวลขึ้น การเสริมวัสดุกันเสียงภายในห้องโดยสารให้เก็บเสียงได้ดีขึ้น รวมถึงการอัปเกรดวัสดุและชิ้นส่วนบางจุดเพื่อยืดอายุการใช้งาน

แม้วันนี้จะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ดีไซน์ของ Lancer EX ก็ยังดูทันสมัย ไม่ตกยุค ยังคงมีคนหันมามองอยู่บ้างเวลารถคันนี้วิ่งบนถนน

สีตัวถังและปัญหาการกัดกร่อนที่ควรระวังใน Lancer EX

 มิตซูบิชิ แลนเซอร์  EX รอยต่อกระจกหน้ากับขอบหลังคามักเกิดปัญหาสีพอง

หนึ่งในจุดสังเกตของรถยนต์ญี่ปุ่นที่หลายคนคุ้นเคยกันดีคือชั้นสีเคลือบที่มักจะบางกว่ารถยุโรป ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการทนทานต่อรอยขีดข่วนและการกัดกร่อน สำหรับ mitsubishi lancer ex ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น โดยเฉพาะในจุดที่มักสัมผัสกับความชื้นหรือฝุ่นละอองบ่อย ๆ เช่น ขอบประตูหลัง ธรณีประตู และฝากระโปรงหน้า มักเริ่มมีร่องรอยของสนิมหรือสีบวมลอกให้เห็นก่อนบริเวณอื่น ๆ

จุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือบริเวณรอยต่อระหว่างกระจกหน้ากับขอบหลังคา เพราะมักเกิดปัญหาสีพองซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการกัดกร่อนจากด้านใน ถ้าปล่อยไว้นานอาจลุกลามกลายเป็นสนิมที่ต้องซ่อมแซมแบบเฉพาะทาง ดังนั้นการเคลือบสีและตรวจเช็กรอยรั่วของน้ำในจุดนี้อยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับรถที่จอดตากฝนหรือล้างรถบ่อย

อีกจุดหนึ่งที่เจ้าของ Lancer EX หลายคนเจอกันบ่อย คือไฟหน้าที่มัวลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักมาจากฝุ่น ทราย และแสงแดดที่สะสมและกัดผิวเลนส์จนกลายเป็นฝ้าขุ่น ทำให้ประสิทธิภาพของไฟส่องสว่างลดลงตามไปด้วย หลายคนจึงเลือกเปลี่ยนเป็นหลอดไฟ LED แทน ซึ่งไม่เพียงให้แสงที่ชัดเจนกว่าเดิม แต่ยังทนทานกว่าหลอดฮาโลเจนแบบเดิมพอสมควร ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ทั้งคุ้มค่าและช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืนไปพร้อมกัน

หากดูแลในจุดเล็ก ๆ เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ Lancer EX ก็ยังคงเป็นรถที่ดูดีและใช้งานได้อย่างมั่นใจไปอีกหลายปีเลยทีเดียว

ห้องโดยสารของมิตซูบิชิ แลนเซอร์ EX

mitsubishi lancer ex ห้องโดยสารดีไซน์เรียบเน้นการใช้งานจริงเป็นหลัก

ภายในของ Mitsubishi Lancer EX สะท้อนคาแรกเตอร์ของรถญี่ปุ่นยุคนั้นได้อย่างชัดเจนคือไม่ได้หรูหราอลังการแต่เน้นการใช้งานจริงเป็นหลัก ดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่าย ฟังก์ชันต่าง ๆ ถูกจัดวางในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวก ไม่ซับซ้อน แม้คนไม่ค่อยได้ขับรถก็สามารถเรียนรู้และใช้งานได้ไม่ยาก

วัสดุภายในที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแข็งซึ่งในช่วงแรกอาจดูทนทานแต่เมื่อรถมีอายุการใช้งานมากขึ้นมักจะเริ่มมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดตามจุดต่อของแผงต่าง ๆ หรือแตกร้าวจากอุณหภูมิร้อนจัด โดยเฉพาะในรถที่จอดกลางแจ้งเป็นประจำ ส่วนชิ้นส่วนที่มีการทำสี เช่น กรอบช่องแอร์หรือฐานเกียร์ มักจะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายจากการใช้งานทั่วไป

เบาะนั่งมาในโทนสีเข้มและใช้วัสดุผ้าหรือหนังสังเคราะห์ตามรุ่นย่อย จุดที่หลายคนสังเกตได้คือเบาะผ้ามักจะซีดเป็นสีเทาเร็ว หากใช้งานบ่อยหรือไม่ทำความสะอาดสม่ำเสมอ ส่วนเบาะที่หุ้มหนังสังเคราะห์ก็มีแนวโน้มจะแตกหรือลอก โดยเฉพาะตรงที่รองรับสะโพกหรือพนักพิงที่ต้องรับแรงเสียดสีบ่อย ๆ

ในด้านความทนทานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ปุ่มควบคุม เช่น ปุ่มแอร์หรือวิทยุ ที่ถูกใช้งานบ่อยมีโอกาสที่สารเคลือบผิวจะหลุดหรือสึกหรอจนดูเก่า ส่วนพวงมาลัยรุ่นที่มีปุ่มควบคุมมักจะเจอปัญหาปุ่มกดไม่ทำงาน ซึ่งสาเหตุมักมาจากหน้าสัมผัสที่อยู่ในคอลัมน์พวงมาลัยเสื่อมสภาพ โชคดีที่ชิ้นส่วนนี้สามารถเปลี่ยนได้ไม่ยากและราคาไม่สูงมาก

อีกหนึ่งจุดที่หลายคนพบเจอคือมอเตอร์พัดลมแอร์ที่อาจหยุดทำงานในบางคันเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ซึ่งจะอยู่หลังกล่องเก็บของฝั่งผู้โดยสาร โชคดีที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายโดยไม่ต้องรื้อภายในเยอะ

โดยรวมแล้วระบบไฟฟ้าของ Lancer EX ถือว่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาน อุปกรณ์บางชิ้นเช่นระบบยกกระจกไฟฟ้าก็อาจเริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะกลไกหรือมอเตอร์ที่ทำงานช้าลงหรือหยุดทำงานไปเลย อย่างไรก็ตาม อะไหล่พวกนี้ยังพอหาได้ง่ายในตลาด และซ่อมแซมได้ไม่ยาก

เครื่องยนต์ของแลนเซอร์ EX ในไทย

แลนเซอร์ EX ในไทยใช้เครื่องยนต์เบนซิน

Mitsubishi Lancer EX ที่ขายในเมืองไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เบนซิน 4 สูบ 1.8 ลิตร รหัส 4B10 ให้กำลังสูงสุด 139 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร รหัส 4B11 ให้กำลังสูงสุด 154 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 198 นิวตันเมตร ทั้งสองเครื่องยนต์ใช้เสื้อสูบอะลูมิเนียม ฝาครอบวาล์วแบบพลาสติกพิเศษ พร้อมโครงสร้างการวางท่อร่วมไอเสียไว้ด้านหลัง และมีการติดตั้งแผ่นสเตนเลสครอบท่อร่วมไอเสียโดยรอบเพื่อป้องกันความร้อน มาพร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วทั้งไอดีและไอเสียให้แปรผันสัมพันธ์กับอัตราเร่งในทุก ๆ รอบเครื่องยนต์และทุกสภาพการขับขี่ นอกจากนี้ยังรองรับน้ำมันทั้งเบนซิน 91 เบนซิน 95 แก๊สโซฮอล์ E10 และ E20 และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 4

เครื่องยนต์ตระกูล 4B ของ Mitsubishi มีชื่อเสียงด้านความทนทานและไม่จุกจิกหากได้รับการดูแลที่เหมาะสม หนึ่งในชิ้นส่วนที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้คือระบบโซ่ราวลิ้น (Timing Chain) ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้นานถึง 500,000 กม. โดยไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยเหมือนสายพานราวลิ้น อย่างไรก็ตามโซ่จะอยู่ได้ถึงระยะทางนั้นได้จริงก็ต่อเมื่อมีการดูแลจุดสำคัญอย่างตัวดึงโซ่ (Tensioner) และรางไกด์โซ่ (Chain Guide) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วทั้งสองจุดนี้จะเริ่มมีเสียงรบกวนให้ได้ยินหลังจากผ่านไปประมาณ 200,000 กม.

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่อยู่ในเครื่องยนต์ 4B คือระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดีให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ เพื่อให้ทั้งแรงบิดและอัตราเร่งดีขึ้นในทุกย่านความเร็ว จุดนี้ถือว่าเป็นระบบที่ไว้ใจได้มากพอสมควร แต่ก็มีโอกาสที่โซลินอยด์วาล์วหรือวาล์วคลัตช์ภายในระบบจะเริ่มมีอาการขัดข้องจากคราบสกปรกหรือน้ำมันเครื่องเก่า ซึ่งในหลายกรณีไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เพียงแค่ถอดมาล้างก็สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม

การดูแลรักษาเครื่องยนต์

การดูแลรักษาเครื่องยนต์ของแลนเซอร์ EX ไม่ได้ยุ่งยากหรือซับซ้อนมากนัก แต่ก็มีรายละเอียดบางอย่างที่ควรรู้เพื่อให้รถของคุณอยู่ในสภาพดีและใช้งานได้ยาวนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรุ่นที่ผ่านการใช้งานมาหลายปี การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาในอนาคตได้มาก

เริ่มจากระบบลิ้นปีกผีเสื้อซึ่งมีแนวโน้มจะสะสมคราบเขม่าและตะกอนคาร์บอนเมื่อวิ่งไประยะหนึ่ง แนะนำให้ทำความสะอาดทุก ๆ 50,000 กม. เพื่อให้ลิ้นเปิด-ปิดได้ลื่นไหลและเครื่องยนต์เดินเบาได้นิ่ง ไม่สั่น หรือเร่งแล้วสะดุด

สายพานหน้าเครื่องและลูกปืนลูกรอกก็เป็นอีกจุดที่ควรใส่ใจ โดยเฉพาะลูกรอกสายพานที่มักสึกหรอหรือมีเสียงดังมากกว่าตัวสายพานเอง หากเริ่มมีเสียง "หวีด" หรือ "ครืด ๆ" จากด้านหน้าของเครื่อง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน โดยตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา Mitsubishi ได้ปรับปรุงออกแบบลูกกลิ้งให้ทนทานมากขึ้น ซึ่งหากเปลี่ยนแล้วก็สามารถใช้งานได้อีกยาว

หัวเทียนก็เป็นอีกจุดสำคัญที่ควรเปลี่ยนตามระยะทุก 50,000 – 60,000 กม. อาการที่บ่งบอกว่าหัวเทียนเริ่มหมดสภาพคือเครื่องเดินเบาไม่นิ่ง สะดุด หรือมีเสียงผิดปกติในรอบต่ำ

ที่ระยะทาง 100,000 – 120,000 กม. เป็นจุดที่ควรตรวจสอบซีลเพลาข้อเหวี่ยงซึ่งหากเริ่มรั่วจะพบคราบน้ำมันใต้ท้องเครื่อง นอกจากนี้ยังควรเช็กระยะห่างของวาล์วด้วย ซึ่งเครื่องยนต์ 4B ใช้ระบบปรับด้วยแผ่นชิมแบบแมนนวล หากวาล์วห่างเกินจะทำให้เสียงเครื่องดังผิดปกติและอาจทำให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้ลดลง

อีกจุดที่หลายคนอาจมองข้ามแต่พบได้บ่อยคือปะเก็นคอท่อไอเสียซึ่งเมื่อเริ่มสึกหรอจะทำให้มีเสียงท่อไอเสียทุ้ม ๆ คล้ายเสียงเบสโผล่ขึ้นมา ทั้งที่ไม่ใช่ท่อแต่ง อะไหล่นี้ราคาไม่แพง และสามารถเปลี่ยนได้ง่ายโดยช่างทั่วไป

ถ้าเจ้าของรถดูแลตามระยะเหล่านี้ได้ครบถ้วน เครื่องยนต์ของ Lancer EX ก็จะพร้อมใช้งานได้ดีไปอีกหลายหมื่นกิโลเมตร ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการจุกจิกกวนใจแน่นอน

ระบบส่งกำลังของ Mitsubishi Lancer EX

แลนเซอร์ EX ในไทยใช้ CVT รหัส JF011E มีความทนทานสูง

Mitsubishi Lancer EX ทุกคันที่ขายในไทยจะมาพร้อมกับมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่องหรือ CVT รหัส JF011E โดยทั่วไปแล้วถือเป็นเกียร์ที่ค่อนข้างมีความทนทานพอสมควร หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจะมีอายุใช้งานที่ยาวนานและมักจะไม่มีปัญหาใหญ่ ๆ เกิดขึ้นก่อน 150,000 – 200,000 กม.

อย่างไรก็ตามเมื่อระยะใช้งานเริ่มมากขึ้นรถบางคันอาจเจออาการเกียร์ตอบสนองช้าลง หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยคือปัญหาที่วงจรควบคุมไฟฟ้าภายในชุดควบคุมวาล์วหรือบางครั้งเป็นแค่การบัดกรีจุดเชื่อมภายในที่เริ่มเสื่อม ปัญหานี้ซ่อมไม่ยากและไม่ต้องยกเกียร์เปลี่ยนใหม่ทั้งลูกแต่อย่างใด

จุดอ่อนหลักของเกียร์ CVT ใน Lancer EX คือความร้อนสะสม โดยเฉพาะในรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่ตัดระบบระบายความร้อน CVT แยกออก ทำให้ไม่มีหม้อน้ำเล็กสำหรับช่วยระบายความร้อนเกียร์โดยเฉพาะ ส่งผลให้เกียร์มีโอกาสร้อนเกินจนเกิดอาการสะดุด หรือในกรณีรุนแรงอาจทำให้สายพานโลหะภายในสึกหรอเร็วกว่าปกติ

สำหรับ Lancer EX รุ่นแรกก่อนปรับโฉม (ก่อนปี 2011) จะยังคงมีหม้อน้ำสำหรับระบายความร้อนเกียร์อยู่ แต่ตำแหน่งติดตั้งอยู่ด้านหน้าล่างใต้กันชนฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นจุดที่สกปรกง่ายและเสียหายจากการชนเล็ก ๆ ได้ง่ายมาก บางคันแค่โดนขอบฟุตบาทก็ทำให้หม้อน้ำนี้รั่วหรืออุดตันได้แล้ว เจ้าของรถที่เน้นใช้งานหนัก วิ่งทางไกล หรือเจอรถติดบ่อยควรตรวจเช็กจุดนี้บ่อย ๆ และพิจารณาติดตั้งออยล์เกียร์แบบแยกต่างหากเพื่อช่วยยืดอายุเกียร์

อีกปัญหาที่เจอในบางคันคือ น้ำมันเกียร์รั่วบริเวณข้อต่อของระบบระบายความร้อนภายนอก โดยเฉพาะท่อยางและแคลมป์ที่อาจเริ่มแข็งหรือแตกตามอายุการใช้งาน ซึ่งถ้าไม่ตรวจพบทันอาจทำให้น้ำมันเกียร์รั่วจนระดับลดต่ำ ส่งผลให้เกียร์เสียหายแบบถาวรได้ โดยระยะที่มักเริ่มพบปัญหานี้คือประมาณ 100,000 – 120,000 กม.

ระบบกันสะเทือน

หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากเมื่อ Mitsubishi Lancer EX เปิดตัวในตลาดคือเรื่องความทนทานของระบบกันสะเทือน มีเสียงจากผู้ใช้หลายคนว่าช่วงล่างสู้รุ่นเก่าไม่ได้ซึ่งความจริงก็มีส่วนอยู่ไม่น้อย เพราะระบบช่วงล่างของ Lancer EX ต้องมีการปรับปรุงหลายครั้งระหว่างวงจรการผลิต โดยเฉพาะในช่วง 3-4 ปีแรก

เริ่มจากลูกปืนล้อหลังซึ่งในรุ่นปีแรก ๆ มีอายุใช้งานค่อนข้างสั้น หลายคันเริ่มมีเสียงดังหรือหลวมตั้งแต่ประมาณ 60,000 – 70,000 กม. Mitsubishi จึงปรับปรุงชิ้นส่วนนี้ใหม่ในปี 2008 ให้ทนทานมากขึ้น ส่วนโช้คอัพหน้ารุ่นปีแรก ๆ ก็มีปัญหาเช่นกัน โดยเฉพาะรุ่นที่ใส่ยางกันฝุ่นแบบสั้นที่มักเสียก่อนกำหนด บางคันเจออาการโช้ครั่วซึมใน 30,000 กม. ซึ่งในปี 2011 และ 2014 ได้มีการอัปเกรดโช้คใหม่ให้ทนขึ้น

อีกหนึ่งจุดอ่อนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากโรงงานคือบูชตัวหลังของปีกนกหน้าซึ่งมีอายุใช้งานราว 60,000 กม. จากนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่มักเปลี่ยนเป็นบูชโลหะหรือบูชยูรีเทนเพื่อเพิ่มความทนทาน แต่ก็มักตามมาด้วยการสึกหรอของ ข้อต่อลูกหมากปีกนกที่ต้องเปลี่ยนในระยะ 30,000 – 40,000 กม. ถัดไป เป็นลูปการซ่อมช่วงล่างที่คนใช้ Lancer EX หลายคนคุ้นเคยกันดี

ชิ้นส่วนสิ้นเปลืองที่มักต้องเปลี่ยนบ่อยคือบูชและลิงก์กันโคลงน้า บูชจะทนใช้งานประมาณ 30,000 กม. ขณะที่ลิงก์กันโคลงหน้าอยู่ได้ราว 40,000 กม. เช่นเดียวกับเบ้าโช้คอัพหน้าที่หลายคนเจออาการเสียงดังหรือหลวมเร็วเกินคาด

ระบบเบรก

ระบบเบรกของ Mitsubishi Lancer EX โดยรวมถือว่าทำงานได้ดีในแง่ของสมรรถนะเบรก แต่จุดที่ต้องระวังคือการบำรุงรักษาไกด์คาลิเปอร์ซึ่งหากไม่ได้ทำความสะอาดและหล่อลื่นอย่างสม่ำเสมอ กลไกจะฝืด ทำให้ผ้าเบรกไม่คลายตัวหลังจากเบรก ส่งผลให้เกิดเสียงดัง ผ้าเบรกสึกไม่สม่ำเสมอ และจานเบรกมีโอกาสเสียรูปหรือร้อนเกินได้

โดยทั่วไปแล้ว ไกด์คาลิเปอร์จะเริ่มมีอาการหลวมหรือส่ายหลัง 40,000 – 50,000 กม. แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนไกด์ตัวใหม่ซึ่งราคาไม่สูงและสามารถทำได้โดยช่างทั่วไป

ในหมู่ผู้ใช้ยังมีความเห็นว่าเบรกของ Lancer EX ไม่ค่อยทนการใช้งานหนักหรือการขับขี่แบบดุดัน บางคนจึงแก้ปัญหาโดยอัปเกรดเป็นเบรกแต่งประสิทธิภาพสูง หรือถ้าประหยัดงบลงมาหน่อยก็เปลี่ยนไปใช้ชุดเบรกของ Mitsubishi Outlander ซึ่งมีขนาดใหญ่และระบายความร้อนได้ดีกว่า ช่วยเพิ่มอายุการในการใช้งานและลดอาการเบรกเฟดเวลาใช้งานต่อเนื่องหนัก ๆ

ระบบพวงมาลัย

พวงมาลัยของ Mitsubishi Lancer EX เป็นระบบพวงมาลัยแบบไฮดรอลิก ให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่หนักแน่นและแม่นยำแต่ก็มีข้อเสียในระยะยาวโดยเฉพาะปัญหาการรั่วซึมของน้ำมันพวงมาลัยซึ่งมักเริ่มจากจุดข้อต่อระหว่างท่อยางและท่อเหล็กในระบบแรงดันสูง เมื่อใช้งานนานเข้าท่อยางอาจเริ่มแข็งตัวหรือแตกร้าว ทำให้มีน้ำมันพวงมาลัยรั่วซึมใต้ท้องรถ และหากปล่อยไว้นานเกินไปก็อาจลุกลามถึงปั๊มพวงมาลัยได้

อีกจุดที่ควรระวังคือท่อย้อนกลับของน้ำมันพวงมาลัยซึ่งแม้จะไม่ได้รับแรงดันสูงเท่าท่อจ่ายแต่ก็มีโอกาสรั่วได้เช่นกัน โดยเฉพาะตรงจุดที่ยึดติดกับแร็คพวงมาลัยซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ความร้อนจากเครื่องยนต์มาโดนได้ง่าย เป็นการเร่งการเสื่อมสภาพของยางโดยตรง

สรุป Mitsubishi Lancer EX มือสองน่าใช้หรือไม่?

mitsubishi lancer ex มือสองมีจุดแข็งคือดูไม่เก่าแม้ผ่านมาหลายปี

Mitsubishi Lancer EX อาจไม่ได้เป็นรถที่ทนทานที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป นี่คือรถที่มีความคุ้มค่าอยู่พอตัวถ้าเลือกเครื่องยนต์ที่เหมาะสมและดูแลรักษาตามระยะอย่างสม่ำเสมอ

รุ่นที่น่าสนใจคือ mitsubishi lancer ex มือสอง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เพราะเป็นขุมพลังที่มีความสมดุลทั้งความแรง ความประหยัด และความทนทาน ถ้าเจ้าของเดิมดูแลดี เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ และไม่ปล่อยให้ความร้อนสะสมในระบบเกียร์ CVT รถคันนี้สามารถวิ่งได้เกิน 200,000 กม. โดยไม่งอแง

จุดแข็งของ Lancer EX คือ ดีไซน์ตัวรถที่ยังดูทันสมัยแม้จะผ่านมาเกิน 10 ปีแล้วก็ตาม ตัวถังยังดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว จับไปแต่งสวยได้หลายสไตล์ ช่วงล่างยังให้ฟีลการขับขี่ที่มั่นคง และที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาไม่ได้แพงอย่างที่หลายคนกลัว อะไหล่ยังมีให้เลือกหลากหลายทั้งของแท้และเทียบ ทั้งยังมีอู่เฉพาะทางและมีช่างที่เชี่ยวชาญในการซ่อมรถ Mitsubishi อยู่ไม่น้อย เพราะรถรุ่นนี้เคยได้รับความนิยมช่วงหนึ่งในบ้านเรา

สรุปง่าย ๆ ถ้าคุณกำลังมองหารถมือสองราคาจับต้องได้ที่มีบุคลิกดี หน้าตาไม่ตกยุค และไม่ได้กลัวเรื่องซ่อมจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ Lancer EX คันที่สภาพดีคือคำตอบที่คุ้มเกินราคา ขอแค่ไม่เลือกคันที่ถูกใช้งานหนักโดยไม่ดูแลหรือผ่านการดัดแปลงมาเกินความจำเป็น รถรุ่นนี้ก็ยังใช้งานได้อีกนานหลายปีและยังคงให้ประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพอใจไม่แพ้กัน

ค้นหา mitsubishi lancer ex มือสองที่ใช่สำหรับคุณ

เรารวบรวมประกาศขายmitsubishi lancer exจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เช็คประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ

พบกับlancer exมากมายที่นี่ →mitsubishi lancer ex มือสอง

  • กรุงเทพมหานคร, 500 km
  • ยี่ห้อ: Mitsubishi
  • รุ่น: Lancer
  • ปี: 2010-2025
  • แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod

รีวิว Mitsubishi Lancer EX มือสอง – คอมแพ็กซีดานขับสนุก สไตล์จัดจ้าน ราคาจับต้องได้