Honda Step WGN รุ่น5 รถตู้มือสอง – มินิแวนประตูสไลด์สำหรับครอบครัว

Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 เป็นหนึ่งในรถประเภท Minivan จากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูงมากในตลาดรถมือสองของไทย ความโดดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 8 คน เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลหรือใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ยังขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและสมรรถนะที่ไว้ใจได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนเลือกซื้อเป็นรถตู้มือสอง

ในตลาดรถมือสองของไทย รุ่นนี้ได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่มองหารถ Minivan ที่มีความคุ้มค่าและคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ ความต้องการที่สูงส่งผลให้ honda stepwagon รุ่น 5 มีราคาขายต่อที่ค่อนข้างนิ่ง และยังหาอะไหล่ได้ไม่ยากเมื่อเทียบกับรถนำเข้ารุ่นอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม แต่ละปีและแต่ละรุ่นย่อยของ Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ก็มีรายละเอียดเฉพาะตัวที่ผู้ซื้อควรศึกษาให้ดี เช่น ระบบช่วงล่าง การเลือกใช้เครื่องยนต์ หรือฟีเจอร์ภายในที่อาจแตกต่างกันไป การตรวจสอบประวัติการใช้งานและการบำรุงรักษาของรถก่อนตัดสินใจซื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านสมรรถนะและความคุ้มค่าในระยะยาว

บทความนี้จะมาเจาะลึก Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 สำรวจข้อดี-ข้อเสีย จุดเด่น ปัญหาที่พบ รวมถึงคำแนะนำในการเลือกซื้อและบำรุงรักษา เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่กำลังมองหารถรุ่นนี้มือสองมาใช้งาน

ประวัติของ honda stepwagon เจน 5

Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2015 นับเป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งสำคัญของ Minivan ยอดนิยมจาก Honda รุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งภายนอกและภายในเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการใช้งานที่หลากหลาย ภายนอกของรถดูทันสมัยด้วยเส้นสายตัวถังที่เฉียบคมและสัดส่วนที่สมดุล ส่วนภายในก็ได้รับการออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 7 หรือ 8 คน ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย พร้อมพื้นที่ใช้สอยที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายตามลักษณะการใช้งาน

ในแง่ของระบบขับเคลื่อน Honda เลือกใช้แนวทางที่เรียบง่ายแต่เน้นประสิทธิภาพ โดยช่วงแรกของการผลิต Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์เพียงแบบเดียว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ช่วยลดความซับซ้อนในการผลิตและเพิ่มความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพและความทนทานของชิ้นส่วนหลัก ๆ ของรถ ผู้ใช้สามารถเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FF) และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในภูมิประเทศและสภาพถนนที่แตกต่างกัน

จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่เริ่มถูกนำมาใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนด้านหน้า และระบบช่วยควบคุมการทรงตัว ซึ่งทำให้ Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ไม่ได้เป็นเพียงรถครอบครัวที่นั่งได้หลายคนเท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่ตอบโจทย์ในด้านความปลอดภัยและสมรรถนะด้วย

ประตูท้าย Waku Waku Gate ที่เป็นเอกลักษณ์

หนึ่งในจุดขายที่โดดเด่นที่สุดของ Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 คือประตูท้ายแบบ Waku Waku Gate ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่หลายคนจดจำได้ทันทีเมื่อพูดถึงรุ่นนี้ คำว่า “Waku Waku” มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลคร่าว ๆ ได้ว่า “น่าตื่นเต้น” หรือ “น่ารื่นรมย์” สื่อถึงความสนุกและไอเดียสร้างสรรค์ในการออกแบบที่แปลกใหม่และยังตอบโจทย์การใช้งานจริงได้อย่างชาญฉลาด

ประตูท้ายระบบนี้มีความพิเศษตรงที่สามารถเปิดได้ 2 รูปแบบในบานเดียว แบบแรกคือการเปิดยกขึ้นด้านบนเหมือนกับประตูท้ายทั่วไป ซึ่งเหมาะสำหรับการเปิดกว้างเพื่อขนของหรือเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ส่วนแบบที่สองคือการเปิดด้านข้างในลักษณะประตูบานสวิง โดยแยกส่วนประตูออกจากกันในอัตราส่วนประมาณ 70:30 ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เข้าถึงห้องเก็บสัมภาระได้ง่ายขึ้นในสถานการณ์ที่จอดรถในที่แคบ หรือเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเปิดประตูขึ้นด้านบนได้เต็มที่ เช่น ในอาคารจอดรถที่มีเพดานต่ำ

นอกจากนี้ ประตู Waku Waku ยังมีอีกหนึ่งข้อดี คือช่วยให้ผู้โดยสารเข้า-ออกจากเบาะแถวหลังได้สะดวกมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเลื่อนเบาะแถวกลางไป-มา จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ เพราะลดความยุ่งยากในการเข้า-ออกจากรถ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานในชีวิตประจำวัน

แม้ว่าในภายหลัง Honda จะเลือกตัดระบบ Waku Waku Gate ออกในเจเนอเรชันถัดไป แต่ในหมู่ผู้ใช้ Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ยังคงพูดถึงประตูท้ายแบบนี้อยู่เสมอว่าเป็นฟีเจอร์ที่คิดมาเพื่อคนใช้งานจริงอย่างแท้จริง และกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้ Step WGN รุ่นนี้ยังคงได้รับความนิยมในตลาดรถมือสองจนถึงปัจจุบัน

เครื่องยนต์ L15B หัวใจสำคัญของ Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5

Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 มาพร้อมเครื่องยนต์พื้นฐานรหัส L15B ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้ โดยเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบฉีดเชื้อเพลิง Direct Injection และมีระบบ VTEC เครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีควบคู่กับประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่เหมาะสม จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งทำงานได้อย่างราบรื่น ให้แรงบิดต่อเนื่อง และช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ในสภาพการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งในเมืองหรือเดินทางไกล

แม้เครื่องยนต์ L15B จะมีเทคโนโลยีทันสมัยและให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่ค่อนข้างคล่องตัว แต่ก็มีรายละเอียดทางเทคนิคบางอย่างที่เจ้าของรถควรใส่ใจ โดยเฉพาะในแง่ของการดูแลรักษาระยะยาว ซึ่งอาจมีผลต่อความทนทานและสมรรถนะโดยรวมของรถ

หนึ่งในข้อสังเกตหลักของเครื่องยนต์ L15B คือ ไม่มีการติดตั้งระบบ Hydraulic Lifter มาให้ หมายความว่าระยะห่างวาล์วจะไม่ปรับอัตโนมัติ จึงจำเป็นต้องมีการปรับตั้งวาล์วเป็นระยะ การปรับตั้งวาล์วควรดำเนินการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์ยังคงเดินเรียบ เผาไหม้สมบูรณ์ และไม่เกิดปัญหาเสียงดังหรือกำลังตกในระยะยาว

อีกจุดที่ควรดูแลเป็นพิเศษคือชุดควบคุมลิ้นปีกผีเสื้อซึ่งมักมีคราบสะสมจากการเผาไหม้ เมื่อถึงรอบการบำรุงรักษาครั้งที่ 2 แนะนำให้ถอดออกมาทำความสะอาดเพื่อคงประสิทธิภาพการตอบสนองของคันเร่งให้เหมือนใหม่

ในส่วนของหัวเทียน รถรุ่นนี้ติดตั้งหัวเทียบแบบ Iridium มาจากโรงงาน ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานและจุดระเบิดได้เสถียร อย่างไรก็ตาม Honda แนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนทุกการตั้งวาล์วเพื่อให้ระบบจุดระเบิดยังคงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และควรเลือกใช้หัวเทียนเกรดเดียวกันจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ เช่น NGK หรือ Denso เพื่อคงมาตรฐานเดิมของเครื่องยนต์

การปรับโฉมในปี 2017 และเวอร์ชันไฮบริด

ปี 2017 Honda ได้ทำการปรับโฉม Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตสำคัญที่ไม่ได้มีแค่การปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้ทันสมัยขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มรุ่นระบบขับเคลื่อนไฮบริดเข้ามาในไลน์อัพอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญของ Honda ในการผลักดันเทคโนโลยีรักษ์โลกเข้าสู่กลุ่มรถ Minivan ขนาดกลาง

ระบบ Sport Hybrid i-MMD

Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 รุ่นไฮบริดมาพร้อมขุมพลังใหม่รหัส LFA ซึ่งเป็นการผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน R-Series แบบ NA ขนาด 2.0 ลิตร 145 แรงม้า กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว Honda เรียกระบบขับเคลื่อนนี้ว่า Sport Hybrid i-MMD ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้เปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด ได้แก่ EV ขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว, Hybrid Drive เครื่องยนต์ช่วยชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่, และ Engine Drive ขับด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

ระบบนี้เคยถูกนำไปใช้ในรถรุ่นใหญ่อย่าง Accord และ Odyssey มาก่อน และได้รับคำชมในเรื่องความประหยัดน้ำมันและความนุ่มนวลในการเปลี่ยนโหมดการทำงาน ตัวมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงถึง 181 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า E-CVT ที่ออกแบบมาสำหรับระบบไฮบริดโดยเฉพาะ ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบแรงดันสูง ติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถ เพื่อไม่ให้กระทบกับพื้นที่ห้องโดยสาร

จุดเด่นและข้อควรระวังของรุ่นไฮบริด

แม้ระบบ i-MMD จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบและประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นเบนซินเทอร์โบ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาหลายประการ

• แบตเตอรี่แรงดันสูง เป็นหัวใจของระบบนี้ ซึ่งมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ราว 200,000 กม. หากใกล้ถึงระยะนี้ ผู้ซื้อควรเตรียมงบประมาณสำหรับการเปลี่ยนหรือรีเฟรชแบตเตอรี่ไว้ด้วย

• เครื่องยนต์ R-series แม้จะถูกใช้อย่างแพร่หลายแต่มีรายงานว่าเครื่องยนต์มีอาการสะเทือนและเสียงรบกวนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงสตาร์ทตอนเครื่องเย็น เสียงคล้ายการเคาะที่ได้ยินนั้นเป็นลักษณะปกติของระบบ ไม่ได้บ่งบอกถึงความเสียหาย แต่อาจสร้างความไม่สบายใจให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคย

• ไม่ Hydraulic Lifter เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ L15B รุ่นไฮบริดนี้ก็ต้องการการตั้งวาล์วเป็นระยะ ซึ่งควรทำโดยช่างที่มีความรู้เฉพาะทาง

• คุณภาพเชื้อเพลิงและน้ำมันเครื่อง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับรุ่นไฮบริด การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำหรือไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามรอบ อาจทำให้เกิดปัญหาในระบบไอเสีย ตัว Catalytic converter และเซนเซอร์ออกซิเจนอาจเสียก่อนเวลาอันควร

แม้จะมีรายละเอียดที่ต้องดูแลมากขึ้น แต่ Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ในเวอร์ชันไฮบริดก็ยังคงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความประหยัดและเทคโนโลยี โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวที่ต้องการรถที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้งานและความคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งยังถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากในตลาดรถมือสองในปัจจุบัน

ปัญหาปั๊มเชื้อเพลิง Denso

มีการเรียกคืนรถยนต์กว่า 1 ล้านคันทั่วโลก สาเหตุเกิดจากข้อบกพร่องในปั๊มเชื้อเพลิงที่ผลิตโดย Denso ซึ่งถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งาน ปัญหานี้กระทบกับ Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ที่ผลิตระหว่างเดือนมิถุนายน 2017 ถึงกันยายน 2020 ด้วย

ความผิดปกติของปั๊มเชื้อเพลิงนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเพราะเกี่ยวข้องกับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นถึง 8 ราย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใหญ่อย่าง Toyota, Mazda, Subaru, Suzuki และ Daihatsu โดยตัวเลขรวมของรถที่ถูกเรียกคืนทั่วโลกอยู่ที่เกือบ 4 ล้านคันเลยทีเดียว

สาระสำคัญของปัญหาอยู่ที่ใบพัดภายในปั๊มเชื้อเพลิง ซึ่งอาจเสียรูปเมื่อโดนความชื้นหรือเปลี่ยนสภาพตามอุณหภูมิ เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นเครื่องยนต์อาจสตาร์ตไม่ติดหรือดับกลางทางโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเสี่ยงอย่างมากหากเกิดขึ้นขณะขับขี่บนถนนจริง Honda บันทึกการทำงานผิดปกติจากสาเหตุนี้ได้ถึง 422 ครั้งทั่วโลก แม้จะยังไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่เจ้าของรถควรตระหนักและตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถของตัวเองกับศูนย์บริการว่าอยู่ในข่ายหรือไม่

ระบบส่งกำลังและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ทุกคันมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่และประหยัดน้ำมันได้ดี แต่ต้องการการดูแลมากกว่าระบบเกียร์แบบเดิม ผู้ใช้ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40,000 กม. พร้อมกับเปลี่ยนไส้กรองทั้งภายในและภายนอกของระบบเกียร์ เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงของการสึกหรอ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเมื่อใช้รถไปถึงระยะ 70,000 – 90,000 กม. อาจเกิดคราบน้ำมันบาง ๆ บริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์ สาเหตุหลักมักมาจากซีลเพลาขับเริ่มเสื่อมสภาพ ในกรณีนี้ควรเปลี่ยนซีลทั้งสองข้างพร้อมกับแหวนซีลหลักไปเลยในครั้งเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาซ้ำซ้อนในอนาคต

ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ระบบส่งกำลังได้รับคำชมในเรื่องของความทนทาน ไม่ว่าจะใช้งานในสภาพถนนลื่น หิมะ หรือทางลาดชัน ก็ยังให้ความน่าเชื่อถือสูง ไม่พบปัญหาใหญ่จากผู้ใช้งาน แม้ในสภาพการใช้งานที่หนักหน่วง

ช่วงล่างและระบบกันสะเทือน

ช่วงล่างของ Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ถือว่าให้ความนุ่มนวลและยืดหยุ่นดีตามสไตล์รถ Minivan แต่ความทนทานของชิ้นส่วนบางตัวนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคัน ผู้ใช้บางคนพบปัญหาเสียงดังหรือความกระด้างที่ระยะเพียง 50,000 กม. ขณะที่บางคันสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเกินแสนกิโลเมตรโดยไม่มีปัญหาใด ๆ

หนึ่งในจุดอ่อนที่พบได้บ่อยคือเสียงเอี๊ยดจากบูชของโรลลิ่งบาร์ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยการเปลี่ยนเป็นบูชจากผู้ผลิตอิสระที่มีคุณภาพดีและราคาถูกกว่าของแท้ ส่วนบูชแขนควบคุมหน้าและเบ้ารองโช้คหน้าก็เป็นจุดที่มักเริ่มมีเสียงเคาะหรืออาการหลวมเมื่อรถผ่านระยะทาง 60,000 – 80,000 กม. หลายคนแนะนำให้เปลี่ยนเป็นอะไหล่จาก Honda Accord G8 ซึ่งทนกว่าแต่อาจต้องดัดแปลงเล็กน้อยโดยใช้สเปเซอร์ร่วมด้วย

ชิ้นส่วนอื่น ๆ เช่น ลิงก์กันโคลง มักเริ่มเสื่อมที่ระยะ 110,000 กม. ส่วนลูกหมากสามารถใช้งานได้ถึง 130,000 – 140,000 กม. ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไป

แต่อีกหนึ่งจุดที่ต้องระวังคือแร็คพวงมาลัยที่ยังคงเป็นปัญหาดั้งเดิมของรถ Honda หลายรุ่น โดยเฉพาะในเรื่องของเสียงดังและความหลวมเมื่อใช้งานไปนาน ๆ อย่างไรก็ตาม ในตลาดอะไหล่มือสองมีแร็คพวงมาลัยคุณภาพดีจากหลายเจ้าที่สามารถใช้ทดแทนได้ในราคาไม่แพงมาก

ระบบเบรก

ระบบเบรกของ Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ได้รับเสียงวิจารณ์หลากหลายจากผู้ใช้ บางคนพอใจในประสิทธิภาพที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้ดี ส่วนอีกกลุ่มกลับมองว่ามันมีแนวโน้มว่าเบรกร้อนเกินไปโดยเฉพาะเมื่อใช้ในภูมิอากาศร้อนหรือขับทางลาดชัน ขึ้น-ลงเขาบ่อย ๆ

โดยทั่วไป จานเบรกใช้งานได้ราว 100,000 กม. ส่วนผ้าเบรกมักต้องเปลี่ยนประมาณ 2 ครั้งในช่วงระยะนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าของบางรายที่ต้องการความมั่นใจมากขึ้นในการเบรก เลือกอัปเกรดเป็นชุดเบรกจาก Honda Elysion ทั้งตัวคาลิเปอร์ จานเบรก และผ้าเบรก ซึ่งแม้จะต้องดัดแปลงจุดยึดเล็กน้อย แต่ให้ประสิทธิภาพการเบรกที่ดีกว่าเดิมชัดเจน หากคุณกำลังมองหารถมือสอง ควรถามเจ้าของเดิมว่าเคยเปลี่ยนหรือปรับแต่งระบบเบรกหรือไม่ เพื่อให้รู้แนวทางดูแลต่อไปในอนาคต

น้ำมันเครื่องและเชื้อเพลิง

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ L15B หรือระบบไฮบริด LFA ทั้งสองแบบต่างต้องการน้ำมันเครื่องและเชื้อเพลิงคุณภาพดี เจ้าของหลายคนแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 5,000 กม. ถ้าใช้รถในเมืองหรือในสภาพจราจรติดขัด เพราะน้ำมันที่สะอาดช่วยยืดอายุเครื่องยนต์และระบบเทอร์โบ

แนะนำว่าควรใช้น้ำมันเครื่องแท้ของ Honda เพราะมีสารปรุงแต่งที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเครื่องยนต์รุ่นนี้ ส่วนเชื้อเพลิงควรเลือกเบนซินคุณภาพสูงและหลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันที่มีสารปนเปื้อนเนื่องจากหัวฉีดของ Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 ค่อนข้างบอบบาง แม้จะดูแลดีแต่หัวฉีดก็มักเริ่มเสื่อมที่ระยะ 90,000 – 100,000 กม. และอาจต้องเปลี่ยนใหม่

ระบบอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริม

ในภาพรวมระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ stepwagon เจน 5 ทำงานได้เสถียรพอสมควร แต่มีจุดที่พบปัญหาบ่อยคือโมดูลกล้องบนกระจกบังลมหน้าที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติและระบบเตือนการออกนอกเลน หากโมดูลนี้ร้อนจัดจะทำให้ระบบทำงานผิดพลาด แสดงข้อความแจ้งเตือนบนหน้าปัด และบันทึกรหัสข้อผิดพลาดในหน่วยความจำ

อีกหนึ่งสาเหตุที่พบบ่อยคือการติดตั้งระบบกันขโมยหรืออุปกรณ์เสริมที่ไม่ได้มาตรฐานจนไปรบกวนวงจรไฟฟ้าของรถโดยตรง แนะนำว่าหากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าเพิ่มเติมควรเลือกศูนย์หรือช่างที่มีความชำนาญเฉพาะทาง และรู้จักระบบไฟฟ้าของ Honda อย่างดี เพราะหากโมดูลกล้องเสียจะต้องเปลี่ยนทั้งชุด และไม่สามารถลบโค้ดผิดพลาดได้ด้วยการรีเซตทั่วไป

คุณภาพตัวถังและสี

ในภาพรวม ตัวถังของ Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 มีคุณภาพดี แข็งแรง และทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว แต่มีจุดที่ควรระวังคือบริเวณชายล่างของประตูหลังที่มักจะเกิดรอยบิ่นจากเศษหินที่กระเด็นจากล้อหน้าในขณะขับขี่ โดยเฉพาะรถคันที่ใช้งานในทางลูกรังหรือฝนตกบ่อย ๆ ทางแก้ที่ง่ายและได้ผลคือการติดตั้งบังโคลนที่ซุ้มล้อซึ่งจะช่วยลดเศษหินและโคลนที่กระเด็นขึ้นมาโดนตัวถังได้มาก

ส่วนองค์ประกอบโครเมียมภายนอก เช่น กรอบกระจังหน้า หรือมือจับประตู มีแนวโน้มจะหมองหรือหลุดลอกเมื่อใช้งานไปนาน ๆ หรือเจอสภาพอากาศร้อนจัด-เย็นจัดสลับกัน เจ้าของรถหลายรายแก้ไขด้วยการพ่นสีให้เข้ากับตัวรถ ซึ่งทั้งประหยัดและดูเรียบร้อย แต่ถ้าต้องการความหรูหราขึ้นอีกระดับการหุ้มฟิล์มใสหรือฟิล์มสีคุณภาพสูงก็เป็นอีกทางเลือกแม้ว่าจะมีต้นทุนสูงกว่า ส่วนการชุบโครเมียมใหม่ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับคนที่ต้องการงานบูรณะฟื้นฟูขั้นสูงซึ่งต้องใช้ช่างฝีมือและงบประมาณพอสมควร

ระยะห่างจากพื้นและการป้องกัน

ด้วยความที่ Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 พัฒนามาเพื่อถนนเมืองเป็นหลักจึงมีระยะห่างจากพื้น (ground clearance) ค่อนข้างต่ำ ทำให้ต้องระวังเมื่อต้องขับผ่านทางขรุขระหรือเนินลูกระนาด เจ้าของบางรายเลือกติดตั้งแผ่นรองโพลียูรีเทนหนา 10 - 20 มม. บนสปริงหลังและเสาโช้คหน้าเพื่อช่วยยกตัวรถให้สูงขึ้นเล็กน้อยโดยไม่กระทบความนุ่มนวลของช่วงล่าง

นอกจากนี้ การติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องเครื่องก็เป็นไอเดียที่ดี โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องขับในพื้นที่ขรุขระบ่อย ๆ เพราะจะช่วยป้องกันอ่างน้ำมันเครื่องและส่วนล่างของเครื่องยนต์จากการกระแทกกับหินหรือสิ่งกีดขวาง

แน่นอนครับ นี่คือข้อความที่เขียนใหม่ให้สมบูรณ์ อ่านลื่นไหล และมีเนื้อหาคำแนะนำการเลือกซื้อเพิ่มตามที่คุณต้องการ:

สรุป Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 มือสอง น่าใช้หรือไม่?

Honda Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 เป็นหนึ่งใน Minivan ที่ตอบโจทย์การใช้งานในฐานะรถครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยจุดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยภายใน ความสะดวกสบายในการเดินทาง และความน่าเชื่อถือแบบรถญี่ปุ่นแท้ ๆ ถึงแม้จะมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องดูแล เช่น ระบบไฮบริดที่ต้องการการบำรุงรักษาเฉพาะทาง หรือช่วงล่างที่อาจเริ่มมีเสียงบ้างหลังวิ่งเกิน 50,000 – 60,000 กม. แต่ถ้าดูแลตามรอบอย่างเคร่งครัด รถคันนี้ก็พร้อมจะอยู่กับคุณได้อีกยาวนานโดยไม่มีเรื่องจุกจิกให้หนักใจ

จุดที่ควรให้ความสำคัญคือการใช้ของเหลวและชิ้นส่วนที่มีคุณภาพ เช่น น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับสเปกรถ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ และการใช้เชื้อเพลิงที่มีคุณภาพ เพื่อยืดอายุหัวฉีดและระบบไอเสีย นอกจากนี้ควรใส่ใจสภาพของระบบเบรกและช่วงล่าง เพราะแม้จะเป็นรถครอบครัวแต่หลายคนก็ใช้งานหนักทั้งในเมืองและเดินทางไกล การดูแลให้ดีตั้งแต่แรกจะช่วยให้รถไม่มีอาการจุกจิกในระยะยาว

สำหรับคนที่กำลังมองหา Step WGN เจเนอเรชันที่ 5 มือสอง แนะนำให้เลือกคันที่มีประวัติการดูแลชัดเจน โดยเฉพาะรุ่นไฮบริด ควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่แรงดันสูงและฟังเสียงเครื่องยนต์ตอนสตาร์ตเย็นว่ามีเสียงวาล์วดังผิดปกติหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ว่าติดตั้งอย่างถูกวิธีหรือไม่ ควรตรวจสภาพภายนอก ภายใน ช่วงล่าง เบรก พวงมาลัย ให้รอบคอบ เป็นไปได้แนะนำให้ลองขับจริงเพื่อดูอาการต่าง ๆ และควรหลีกเลี่ยงคันที่มีการปรับแต่งระบบไฟเพราะอาจเกิดปัญหาย้อนหลังภายหลังจากซื้อมาแล้ว

หากคุณกำลังมองหารถ Minivan ครอบครัวที่พร้อมใช้งาน ยืดหยุ่น และดูแลง่ายในระยะยาว Step WGN รุ่นที่ 5 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าซื้อ ยิ่งถ้าคุณให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายใน ความนุ่มนวล และความทนทานตามแบบฉบับรถญี่ปุ่นแท้ ๆ รถรุ่นนี้ยังไม่เก่าเกินไปที่จะรับมาดูแล

ค้นหา honda stepwagon ราคามือสอง ที่ใช่สำหรับคุณ

เรารวบรวมประกาศขาย honda stepwgn จาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เลือกเช็คประเภทผู้ขาย แล้วเลือก stepwagon คันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ

พบกับ honda stepwgnมากมายที่นี่ →รถตู้มือสอง Honda Step WGN