BMW Series 5 เจน 7 (G30) มือสอง - รถหรูสายผู้บริหาร คุ้มไหมในปีนี้?

หากพูดถึงรถยนต์ระดับผู้บริหารที่ผสมผสานความหรูหรา เทคโนโลยี และสมรรถนะไว้ได้อย่างลงตัว bmw series 5 คือหนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บวกกับการขับขี่ที่คงความสปอร์ตแบบฉบับ BMW ไว้ชัดเจน 5 Series ทำตลาดมายาวนานกว่า 50 ปีและมีด้วยกันถึง 8 เจเนอเรชัน ถือเป็นรถยนต์โมเดลหลักของแบรนด์ BMW ที่ไม่เคยหยุดพัฒนา หนึ่งในเจเนอเรชันที่ได้รับความนิยมและถูกพูดถึงมากที่สุดคือ 5 Series เจเนอเรชันที่ 7 รหัสตัวถัง G30 รถรุ่นนี้สามารถครองใจทั้งผู้บริหาร นักธุรกิจ และคนรักรถทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยที่ G30 กลายเป็นรุ่นยอดนิยมในตลาดรถหรูอย่างต่อเนื่อง

BMW 5 Series รหัสตัวถัง G30 เปิดตัวในไทยปี 2017 พร้อมกับเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญของ BMW ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี วิศวกรรม และงานออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนักด้วยโครงสร้าง CLAR Platform ที่ใช้วัสดุผสมระหว่างอะลูมิเนียมกับเหล็กกล้า การปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้น หรือแม้แต่ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่เข้ามายกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

รูปลักษณ์ภายนอกของ G30 ดูภูมิฐานแต่ไม่ทิ้งความสปอร์ต เส้นสายบนตัวถังเฉียบคมแต่ยังคงความโค้งมนที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม ด้านหน้ามาพร้อมกระจังไตคู่ขนาดใหญ่รับกับไฟหน้า LED ดีไซน์เฉียบคม ช่วยให้ตัวรถดูมีมิติและทันสมัย ส่วนภายในห้องโดยสารก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการออกแบบสุดทันสมัย มาพร้อมวัสดุคุณภาพสูง พื้นที่กว้างขวาง และเทคโนโลยีที่ครบทั้งหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัล ระบบเสียงคุณภาพสูง และระบบ iDrive ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนใช้งานได้ลื่นไหลและเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น

สำหรับตัวเลือกเครื่องยนต์ของ BMW 5 Series G30 ในบ้านเรามีตั้งแต่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลไปจนถึงรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เน้นการใช้งานแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและตอบโจทย์ผู้ใช้ที่แตกต่างกันออกไปสำหรับตลาดมือสอง 5 Series G30 คือหนึ่งในรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุดในกลุ่มรถซีดานยุโรปด้วยราคาที่ลดลงจากป้ายแดงหลายแสนบาทแต่ยังได้คุณภาพ ความหรูหรา และสมรรถนะระดับท็อป เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นในแบรนด์ BMW ที่ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดใจผู้ซื้อทั้งหน้าใหม่และนักสะสมรถ

บทความนี้จะพาไปเจาะลึก BMW 5 Series G30 ดูจุดเด่น ข้อดี-ข้อเสีย ปัญหาที่พบ พร้อมเทคนิคการเลือกซื้อรถมือสองให้คุ้มค่าและคำแนะนำในการบำรุงรักษา เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่กำลังเล็ง 5 Series G30 มือสองมาใช้งาน

ไลน์อัพเครื่องยนต์ของ BMW G30 ในไทย

เครื่องยนต์ดีเซล

BMW 5 Series G30 เริ่มต้นทำตลาดในประเทศไทยด้วยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลในรหัส 520d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง ขนาดความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร โดยรุ่นนี้สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 7.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 235 กม./ชม. ทั้งยังมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20 กม./ลิตร และปล่อย CO2 เฉลี่ย 132 กรัม/กม.

bmw g30 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลได้รับความนิยมในเมืองไทยและในตลาดมือสองก็มีตัวเลือกมากมายหลายรุ่น ที่เป็นเช่นนี้เพราะเครื่องยนต์รุ่นนี้มีความสมดุลที่ดีระหว่างพละกำลังและความประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีความเรียบง่าย ทนทาน ไม่จุกจิก ดูแลรักษาง่าย และมีค่าบำรุงรักษาที่อยู่ในระดับสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้ก็มีรายละเอียดบางอย่างที่ผู้ซื้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ

สิ่งสำคัญอันดับแรกคือระบบ EGR ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการปล่อยไอเสีย เครื่องยนต์ดีเซลของ BMW มีประวัติเกี่ยวกับตัวทำความเย็นของระบบ EGR ในบางล็อตการผลิต ซึ่ง BMW เองก็ได้มีการเรียกคืน (Recall) เพื่อแก้ไขโดยการเปลี่ยนอะไหล่ หากคุณกำลังมองหารถมือสอง ควรตรวจสอบก่อนว่าคันที่สนใจเคยเข้ารับการแก้ไขในแคมเปญเหล่านี้หรือไม่

อีกประเด็นที่เลี่ยงไม่ได้คือการสะสมของคราบเขม่าภายในท่อไอดี แม้ในรถที่มีระยะใช้งานเพียง 80,000 – 90,000 กม. ก็เจอปัญหานี้ได้ ส่งผลต่อการเผาไหม้และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ การล้างท่อไอดีจึงเป็นสิ่งที่ควรทำเมื่อใช้งานไปแล้ว 60,000 กม.

เครื่องยนต์ดีเซลของ BMW 5 Series G30 มีการใช้ระบบ AdBlue ที่ช่วยลดมลพิษของเครื่องยนต์ ผู้ใช้อาจพบการทำงานผิดปกติของเซนเซอร์หรือระบบหัวฉีดเมื่อใช้งานไปเกิน 100,000 กม. หากเกิดปัญหานี้อาจต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนบางรายการเพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

เครื่องยนต์ดีเซลของ BMW 5 Series G30 ยังมีจุดที่ควรจับตาเพิ่มเติม เช่น ตัวลดแรงสั่นสะเทือนของสายพานหน้าเครื่อง ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ช่วยลดแรงสะเทือนจากการหมุนของเครื่องยนต์ หากชำรุดจะมีเสียงผิดปกติหรือแรงสั่นสะเทือนแปลก ๆ จากบริเวณหน้ารถ โดยมักแสดงอาการเมื่อเครื่องยนต์ร้อนจัด อายุการใช้งานเฉลี่ยของชิ้นส่วนนี้แตกต่างกันไปในแต่ละคัน เริ่มตั้งแต่ 80,000 ไปจนถึง 200,000 กม.

นอกจากนี้ 5 Series G30 บางคันเมื่อใช้งานใกล้ถึง 100,000 กม. อาจพบการรั่วหรือแตกร้าวของท่ออินเตอร์คูลเลอร์ ซึ่งเป็นท่อที่ลำเลียงอากาศจากเทอร์โบเข้าสู่เครื่องยนต์ หากพบว่าท่อเสียหายหรือมีรอยรั่ว ควรเปลี่ยนทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบอัดอากาศ

เครื่องยนต์เบนซิน

BMW 5 Series G30 เครื่องยนต์เบนซินทำตลาดในรหัส 530i และเป็นรถนำเข้าทั้งคันจากต่างประเทศ โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นแบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ขนาดความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ให้สมรรถนะดีกว่าเครื่องดีเซล สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 6.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.5 กม./ลิตร และปล่อย CO2 เฉลี่ย 129 กรัม/กม.

เครื่องยนต์เบนซินของ 5 Series G30 มีรายงานว่าเจอปัญหาเกี่ยวกับตลับลูกปืนเข็มที่ใช้รองรับเพลาสมดุลบริเวณอ่างน้ำมันเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดเสียงผิดปกติหรือแรงสั่นสะเทือนในรอบเดินเบา อีกจุดที่ควรระวังคือยางแท่นเครื่องที่จะเริ่มสึกหรอเมื่อใช้งานไปประมาณ 100,000 กม. อาการที่พบบ่อยคือเสียงกระแทกเบา ๆ ขณะสตาร์ทรถ โดยเฉพาะในช่วงเครื่องเย็น แม้ว่าเครื่องจะยังทำงานได้ตามปกติหลังจากนั้น แต่อาการเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของยางรองเครื่องที่เสื่อมสภาพ

จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งของเครื่องยนต์รุ่นนี้คือโมดูลกรองน้ำมันเครื่องแบบพลาสติกที่รวมอยู่กับชุดแลกเปลี่ยนความร้อน เมื่อใช้งานนาน ๆ จะเสื่อมสภาพจากความร้อนสะสม ชิ้นส่วนนี้เริ่มมีความเสี่ยงที่จะเสียหายที่ระยะประมาณ 100,000 กม. และอาจรั่วหรือแตกได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า เจ้าของรถบางรายเลือกที่จะเปลี่ยนชิ้นส่วนนี้เพื่อป้องกันไว้ก่อนที่ระยะประมาณ 80,000 กม. เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจลุกลามไปยังระบบระบายความร้อนหรือน้ำมันเครื่อง

อีกระบบที่ไม่ควรมองข้ามคือระบบหล่อเย็นที่ประกอบด้วยปั๊มน้ำ ฝาถังพักน้ำ และตัวถังพักน้ำพลาสติกที่มักมีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อถึงระยะ 100,000 - 120,000 กม. ควรตรวจสอบสภาพโดยละเอียด เนื่องจากการรั่วซึมของน้ำหล่อเย็นอาจนำไปสู่ความร้อนสะสมในเครื่องยนต์และสร้างความเสียหายรุนแรงได้

เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

BMW 5 Series G30 มีการเปิดตัวรหัส 530e ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบในประเทศไทยและทำตลาดแทนรหัส 530i รุ่นนี้มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ พ่วงระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร เครื่องยนต์รุ่นนี้มีจุดเด่นที่ฟังก์ชัน XtraBoost ที่จะช่วยเพิ่มกำลังของรถชั่วขณะด้วยแรงบิดที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 100 - 250 นิวตันเมตร และให้พละกำลังสูงสุดเพิ่มเป็น 292 แรงม้า เรียกว่าเป็นทีเด็ดที่ซ่อนอยู่ของ 5 Series รุ่นนี้ สัมผัสมันได้เมื่อกดคันเร่งออกตัว หรือต้องการเร่งแซงอย่างรวดเร็ว

เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของ 5 Series G30 ได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพความแรงที่เหนือกว่าเครื่องดีเซล ทั้งยังขับขี่แบบไร้มลพิษได้ด้วยโหมดการใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนในระยะทางสูงสุดประมาณ 50 กม. แม้ระบบเครื่องยนต์จะมีความซับซ้อน ต้องการการดูแลที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ และไม่เหมาะกับการลองผิดลองถูกซ่อมเอง แต่เครื่องรุ่นนี้ก็ยังมีความทนทานและน่าเชื่อถือ หากเจ้าของรถดูแลดี ๆ สามารถใช้งานทะลุแสนกิโลเมตรโดยไม่เจอปัญหาใหญ่ หากคุณเจอ 5 Series G30 เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมือสองสภาพดี ปีไม่ลึก เลขไมล์น้อย ก็เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณา

ระบบส่งกำลังและช่วงล่าง

ระบบส่งกำลังของ BMW 5 Series G30 ที่ขายในไทยจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด เกียร์ลูกนี้ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและทนทาน ถือเป็นหนึ่งในชุดเกียร์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในรถกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน โดยทั่วไปแนะนำให้เปลี่ยนทุก 30,000 – 60,000 กม. โดยผู้ที่ขับขี่ในเมืองหรือแบบเน้นสมรรถนะควรเปลี่ยนบ่อยกว่าปกติ

สำหรับระบบช่วงล่าง BMW 5 Series G30 ถือว่าทำได้ดีและค่อนข้างทน ไม่ได้มีจุดอ่อนชัดเจน โดยส่วนที่มักเริ่มแสดงอาการก่อนคือ Silent Block ของปีกนกล่างด้านหน้า ซึ่งเมื่อเสื่อมจะมีเสียงเคาะเบา ๆ เวลาขับผ่านถนนขรุขระ แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก แต่ก็ต้องอาศัยช่างที่มีประสบการณ์ในการวินิจฉัย ลูกปืนล้อและโช้คอัพในรถรุ่นนี้มักมีอายุการใช้งานยาวนานถึงประมาณ 100,000 กม. หากไม่ได้ใช้งานแบบสมบุกสมบันเกินไป

โดยรวมแล้วระบบส่งกำลังและช่วงล่างของ 5 Series G30 ถือว่าแข็งแรงและไว้ใจได้ หากดูแลตามระยะและใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานโดยไม่มีเรื่องจุกจิกให้กวนใจมากนัก

ระบบไฟฟ้ารถbmw ซีรี่ย์5

หนึ่งในประเด็นที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษใน รถbmw 5 Series G30 คือระบบไฟหน้า LED ที่แม้จะให้แสงสว่างที่ดีและดูทันสมัย แต่ก็มีข้อสังเกตด้านความทนทาน ไฟหน้าของรถรุ่นนี้มีการออกแบบแนวนำแสง LED (LED Light guide) อยู่ค่อนข้างใกล้กับบล็อกไดโอด (LED Block) มากเกินไป ซึ่งเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ความร้อนสะสมสามารถทำให้แนวนำแสงละลายหรือเปลี่ยนรูป ส่งผลให้เกิดความเสียหายตามมา อาการที่เห็นได้ชัดคือไฟหน้ามืดลงหรือแสงกะพริบโดยไม่มีการแจ้งเตือนบนหน้าจอ

ในช่วงที่ยังอยู่ในการรับประกัน ผู้ผลิตมักเปลี่ยนไฟหน้าทั้งชุดให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้มีแนวโน้มจะกลับมาอีกหากไม่ได้แก้ไขสาเหตุเชิงโครงสร้าง ผู้เชี่ยวชาญบางรายจึงมีแนวทางซ่อมแบบถาวร โดยนอกจากจะเปลี่ยนเฉพาะบล็อกไดโอดแล้ว ยังมีการปรับตำแหน่งแนวนำแสงให้ห่างจากแหล่งความร้อนมากขึ้น ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานได้ชัดเจน

ห้องโดยสารและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

BMW 5 Series G30 มาพร้อมกับภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย การนั่งขับขี่และโดยสารทั่วไปให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมตามมาตรฐานรถ BMW แต่ก็ยังอีกหนึ่งจุดเล็ก ๆ ที่สร้างความรำคาญให้เจ้าของรถหลายคนคือปัญหาของเบาะนั่งฝั่งคนขับมีเสียงลั่นและมีอาการโยกเล็กน้อยเมื่อขยับตัว ซึ่งมักจะสังเกตได้เวลาเร่งหรือเบรกแรง ๆ แม้จะไม่ได้กระทบต่อความปลอดภัย แต่ก็ส่งผลต่อความรู้สึกพรีเมียมของตัวรถ ผู้ผลิตรับทราบปัญหานี้และได้ออกชุดซ่อมเฉพาะกิจมาเพื่อแก้ไขทั้งเสียงลั่นและความหลวมในจุดยึดเบาะ ซึ่งเมื่อซ่อมแล้วปัญหานี้มักไม่กลับมาอีก

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น เซนเซอร์จอดรถ กล้อง 360 องศา และระบบเปิดฝากระโปรงหลังแบบแฮนด์ฟรี ที่มีรายงานว่าอาจทำงานไม่เสถียรในบางคัน โดยเฉพาะเมื่อรถโดนน้ำหรือมีความชื้นสะสมมาก ๆ ระบบบางส่วนอาจทำงานผิดปกติเป็นครั้งคราว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากจุดเชื่อมต่อหรือสายไฟที่เริ่มเสื่อมสภาพตามกาลเวลา การตรวจสอบและทำความสะอาดขั้วต่อเหล่านี้เป็นประจำสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบได้

โดยรวมแล้วระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกของ G30 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ก็มีรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ควรเฝ้าระวังและแก้ไขให้ตรงจุดเพื่อรักษาประสบการณ์ใช้งานในระดับที่ควรจะเป็นของรถในกลุ่มนี้

คำแนะนำในการเลือก BMW 5 Series G30 มือสอง

ถ้าคุณกำลังมองหา BMW 5 Series G30 มือสอง สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือรุ่นย่อยและปีที่ผลิต เพราะแต่ละรุ่นมีรายละเอียดและอุปกรณ์ที่ต่างกันพอสมควร รุ่น 520d ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลได้รับความนิยมสูงจากความประหยัดและให้แรงบิดดีในรอบต่ำ เหมาะสำหรับขับขี่ทั้งในเมืองและวิ่งทางไกล ขณะที่รุ่น 530e ที่เป็นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงควบคู่กับความประหยัด ปล่อยไอเสียน้อย และขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ สำหรับใครที่เน้นเทคโนโลยี ควรมองหาคันที่ผลิตตั้งแต่ปี 2021 ขึ้นไปเพราะเป็นรุ่นปรับโฉม LCI จะได้หน้าตาภายนอกที่ทันสมัยและเทคโนโลยีที่เป็นปัจจุบัน รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้รับการอัปเกรดอย่างสมบูรณ์แล้ว เช่น Adaptive Cruise Control แบบ Stop & Go และระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ใช้งานลื่นขึ้น

อย่าลืมตรวจสอบประวัติการเข้าศูนย์ และดูว่ารถยังอยู่ในแพ็กเกจ BSI หรือไม่ เพราะนั่นช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้มาก การดูแลช่วงล่าง ไฟหน้า และระบบไฮบริดในบางรุ่นเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ

สิ่งสำคัญที่สุดคือให้ลองขับจริงก่อนซื้อเสมอ ฟังเสียงผิดปกติ และสังเกตการทำงานของเกียร์กับระบบเบรกให้ดี เป็นไปได้ควรพาผู้เชี่ยวชาญไปดูรถพร้อมกันด้วย เพื่อให้ช่วยตรวจเช็กในจุดต่าง ๆ ว่าสมบูรณ์พร้อมใช้งานหรือไม่ รถที่ภายนอกดูดีอย่างเดียวคงไม่พอ ถ้าจะซื้อ G30 มือสอง ควรได้รถที่ขับแล้วรู้สึกดีไปด้วย

สรุป bmw มือสอง G30 เป็นรถที่น่าขับหรือไม่

BMW 5 Series G30 เป็นหนึ่งในรถซีดานระดับพรีเมียมที่ผสมผสานความหรูหรา ความสบาย และสมรรถนะได้อย่างลงตัว มันให้ประสบการณ์ขับขี่ที่แน่น เฉียบ และมีความมั่นใจในทุกจังหวะของการควบคุม ไม่ว่าจะขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยตัวเอง มีคนขับรถให้ หรือใช้เดินทางไกลช่วงวันหยุด รถรุ่นนี้ก็ตอบสนองความต้องการได้ครบทุกอารมณ์

5 Series G30 เป็นรถที่ออกแบบมาให้รองรับผู้โดยสารได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมด้วยเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารที่ทันสมัย มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครอบคลุมและใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม รถระดับนี้ก็ต้องการการดูแลที่ใส่ใจเช่นกัน โดยเฉพาะหากคุณกำลังมองหาในตลาดมือสอง

สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการตรวจสอบประวัติการใช้งานและการเข้าศูนย์บริการ สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลควรให้ความสำคัญกับระบบ EGR และท่อไอดี ขณะที่รุ่นเบนซินมีความไวต่อคุณภาพน้ำมันและต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตรงตามระยะที่กำหนด ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดนั้นเป็นที่ยอมรับในเรื่องความทนทาน นุ่มนวล และส่งกำลังฉับไว เพียงแค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามรอบก็เพียงพอ

ช่วงล่างก็เป็นอีกจุดแข็งของรถรุ่นนี้ มันให้ฟีลลิ่งทั้งแน่น นุ่ม และรองรับการขับขี่ได้ดีแม้ใช้งานหนักในเมืองหรือบนทางหลวง ขณะที่ปัญหาเกี่ยวกับไฟหน้า LED อาจพบได้ในบางลอต สามารถแก้ไขให้จบได้

สรุปแล้ว bmw มือสอง G30 คือรถที่น่าขับอย่างแท้จริง หากคุณเลือกรถมือสองคันที่ผ่านการดูแลจากเจ้าของเดิมมาเป็นอย่างดีและพร้อมใส่ใจเรื่องการบำรุงรักษาต่อเนื่องด้วยตัวเอง รถคันนี้จะตอบแทนคุณด้วยประสบการณ์ขับขี่ที่สนุก หรูหรา และมั่นใจไปได้อีกหลายปี

ค้นหา bmw series 5 มือสองที่ใช่สำหรับคุณ

เรารวบรวมประกาศขาย bmw series 5 ราคามือสองจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เปรียบเทียบราคารถbmw เช็คประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ

พบกับ bmw series 5 มือสองมากมายที่นี่ →รถbmw ซีรี่ย์5 G30 มือสอง