รีวิว Subaru Legacy รุ่น5 มือสอง - รถญี่ปุ่นที่ให้ประสบการณ์ขับขี่ไม่เหมือนใคร

Subaru Legacy เปิดตัวในปี 2009

ถ้าคุณกำลังมองหารถญี่ปุ่นที่ “เข้าใจคนขับ” Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น รถรุ่นนี้อาจจะไม่ Mass เหมือน Toyota หรือ Honda แต่คนที่เคยขับจะรู้ดีว่ามันคือรถที่ให้ประสบการณ์ขับขี่ที่ไม่เหมือนรถญี่ปุ่นแบรนด์ไหน ๆ ทั้งในแง่การควบคุม การยึดเกาะถนน และฟีลลิ่งหลังพวงมาลัย

Legacy เจเนอเรชันที่ 5 เป็นรถโฟวิลที่มาพร้อมกับจุดเด่นอย่างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical AWD) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Subaru ให้ความมั่นใจทั้งตอนฝนตก ถนนเปียก หรือขับขึ้น-ลงเขา ขณะที่ห้องโดยสารก็กว้างขวางนั่งสบายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งยังมีตัวถังให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตูและวากอน 5 ประตู มันจึงเป็นรถที่เกิดมาเพื่อมอบความสบายในการเดินทางอย่างแท้จริง สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ตามแฟชั่น แต่เน้นใช้งานจริง ขับทุกวัน เดินทางไกลบ้างเป็นบางครั้ง Subaru Legacy ตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดี

แน่นอนว่า Subaru Legacy รุ่นที่ ฃ5 ก็เป็นรถที่มีอายุพอสมควรแล้ว การซื้อมือสองจึงต้องดูหลายปัจจัย ในบทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงจุดเด่น ข้อดี-ข้อด้อย รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวถัง ภายใน เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบต่าง ๆ รวมถึงปัญหาทั่วไปที่พบ และคำแนะนำในการบำรุงรักษา คนที่กำลังมองหา Legacy เจเนอเรชันที่ 5 รถมือสองไม่ควรพลาด

ภาพรวมของ Subaru Legacy เจน 5

Subaru Legacy เจน 5 เปิดตัวในปี 2009 และทำตลาดถึงปี 2014 ใช้รหัสตัวถังว่า BM (ซีดาน) และ BR (วากอน) รถรุ่นนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์แบรนด์ Subaru เนื่องจากเป็นรถโมเดลแรกที่ได้ใช้เกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT ซึ่งเกียร์ระบบนี้เป็นความภาคภูมิใจของค่ายดาวลูกไก่และกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่แบรนด์ได้กำหนดขึ้น นอกจากนี้ Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ NA ที่พัฒนาใหม่ และมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก

นอกจากระบบเกียร์ CVT ใหม่แล้ว Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถ Crossover โดยใช้คลัตช์ไฮดรอลิกแบบหลายแผ่นเพื่อเข้าเกียร์ ระบบนี้เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ทั่วไปมากกว่า แต่ยังคงรักษาลักษณะการขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Subaru เอาไว้

Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ยังมาพร้อมระบบปรับปรุงตัวถังรถที่เรียกว่า Dynamic Chassis Control Concept ซึ่งใช้เหล็กแรงดึงสูงในจุดสำคัญต่าง ๆ เพื่อให้มีความแข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบา โครงสร้างด้านหน้ามี Cradle Mount ที่แยกช่วงล่างและเครื่องยนต์ออกจากห้องโดยสารเพื่อให้ขับขี่ได้นุ่มนวลและเงียบยิ่งขึ้นโดยใช้ตัวยึดยาง สำหรับรุ่นนี้ ระบบกันสะเทือนหลังเปลี่ยนไปใช้แบบปีกนกคู่ โดยมีข้อต่อช่วงล่างทั้งหมดและเฟืองท้ายแยกจากซับเฟรมด้านหลังด้วยตัวยึดยางขนาดใหญ่เพื่อลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนที่เข้ามาในห้องโดยสาร

นอกจากหน้าตาภายนอกที่ทันสมัยตามยุคแล้ว ภายในห้องโดยสารของ Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ยังมีการปรับปรุงหลายส่วนด้วยการเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเข้ามามากมาย พร้อมกับงานตกแต่งภายในที่มีคุณภาพสูง ใส่ออปชันต่าง ๆ มาให้ครบตามยุคสมัย และที่ขาดไม่ได้คืออุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์, ระบบช่วยเบรก และระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มันเป็นรถที่เพียบพร้อมไปด้วยสมรรถนะ ความสบาย ความมั่นใจ และมีความปลอดภัยสูง

จุดเด่น Legacy คือรถโฟวิลไดร์แบบสมมาตร

ตัวถังและปัญหาการกัดกร่อน

ลักษณะตัวถัง

สำหรับคนที่กำลังมองหา Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 มือสอง หนึ่งในเรื่องที่ควรตรวจสอบให้ดีคือสภาพตัวถังและปัญหาเกี่ยวกับการกัดกร่อน แม้โดยรวมแล้วรถรุ่นนี้จะถือว่ามีความทนทานดี สนิมไม่ขึ้นง่ายถ้ารถถูกดูแลอย่างเหมาะสม แต่ก็ยังมีรายละเอียดบางจุดที่ไม่ควรมองข้าม เริ่มจากชั้นสีและเคลือบเงาของ Legacy ที่ค่อนข้างบาง หากเจอกับเศษหิน เศษทราย หรือการล้างรถแบบขัดถูแรง ๆ บ่อยครั้ง อาจทำให้ผิวสีหมองหรือเป็นรอยได้เร็ว

จุดที่ควรระวังเป็นพิเศษคือหลังคาซึ่งมีโอกาสเกิดสนิมได้เร็วกว่าจุดอื่น หากเกิดรอยแตกในชั้นสีแล้วปล่อยไว้ สนิมอาจเริ่มก่อตัวได้ง่าย โดยเฉพาะถ้ารถเคยผ่านการใช้งานในพื้นที่ชื้น หรือใกล้ทะเล

ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่มักถูกมองข้ามคือ เลนส์โปรเจกเตอร์ของไฟหน้าแบบซีนอน เมื่อใช้งานไปนาน ๆ เลนส์อาจเกิดอาการเหลืองหรือขุ่นมัว ซึ่งจะลดความสว่างของไฟหน้า ทำให้ทัศนวิสัยตอนกลางคืนแย่ลง การเปลี่ยนเลนส์หรือเปลี่ยนชุดไฟใหม่อาจเป็นทางออก แต่มีค่าใช้จ่ายพอสมควร

ปัญหาเซนเซอร์ความสูงของไฟหน้า

Legacy เจเนอเรชันที่ 5 มีระบบปรับระดับไฟหน้าอัตโนมัติ ซึ่งอาศัยเซนเซอร์วัดความสูงของรถบริเวณระบบกันสะเทือน ปัญหาคือเซนเซอร์ตัวนี้ค่อนข้างบอบบาง มีโอกาสเสียหายได้ตามอายุการใช้งานหรือเมื่อโดนโคลนและสิ่งสกปรกสะสม หากเซนเซอร์ทำงานผิดปกติ ไฟหน้าจะไม่ปรับตามระดับรถ ทำให้แสงไฟพุ่งสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ซึ่งอาจรบกวนผู้ใช้รถคันอื่นหรือมองเห็นทางไม่ชัดในตอนกลางคืน

วิธีดูแลเบื้องต้นคือหมั่นตรวจเช็ก ทำความสะอาด และทาจาระบีที่ข้อต่อเซนเซอร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุการใช้งาน แต่หากพบว่าเซนเซอร์เสียแล้วจริง ๆ ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่

เครื่องยนต์และปัญหาทั่วไป

Subaru Legacy ใช้เครื่องยนต์ Boxer ตระกูล EJ ทนทาน

Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เบนซิน 2.0 ลิตร และเบนซิน 2.5 ลิตร เทอร์โบ ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์เป็นเครื่อง Boxer ตระกูล EJ ที่ขึ้นชื่อของ Subaru ทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องความทนทานที่ไว้ใจได้ ให้กำลังแรงม้าแรงบิดที่ดี ขับสนุก ดูแลง่าย ไม่จุกจิก

เครื่องยนต์ EJ

เครื่องยนต์ EJ มีประวัติยาวนานและขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ถ้าดูแลดี ๆ ก็สามารถอยู่กันได้ยาว ๆ อย่างไรก็ตาม ก็มีจุดที่ต้องระวัง เช่น ปัญหาการกินน้ำมันเครื่อง หลายคนพบว่ารถอาจกินน้ำมันเครื่องได้มากถึงครึ่งลิตรทุก 1,000 กม. ซึ่งถ้าเริ่มเกินกว่านั้นก็อาจหมายถึงปัญหาใหญ่ เช่น แหวนลูกสูบสึก หรือซีลภายในมีปัญหา สิ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงได้คือการใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน OEM และเปลี่ยนถ่ายตามระยะไม่เกิน 8,000 กม. อย่าปล่อยให้น้ำมันเครื่องแห้ง

เครื่องยนต์ร้อนเกินไปและปัญหาปะเก็นฝาสูบ

อีกจุดที่ต้องจับตาให้ดีคือปัญหาเรื่องปะเก็นฝาสูบ ซึ่งมีโอกาสพบได้ในเครื่องยนต์ EJ25 รุ่น 2.5 ลิตร เทอร์โบ ปัญหานี้อาจทำให้ปะเก็นฝาสูบเสียหายหรือฝาสูบบิดเบี้ยวได้ หากปล่อยไว้ไม่รีบแก้ค่าซ่อมจะสูงมาก เพื่อป้องกันปัญหานี้ควรทำความสะอาดและตรวจสอบระบบน้ำหล่อเย็นเป็นประจำ รวมถึงใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรดสูง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหล่อลื่นชิ้นส่วนและการระบายความร้อน

เครื่องยนต์ EJ25

สำหรับคนชอบความแรง Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 รุ่น 2.5 GT เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ด้านสมรรถนะได้ดีที่สุด โดยรุ่นนี้มากับขุมพลังเบนซิน 2.5 ลิตร เทอร์โบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร

ที่ 2,400 – 5,200 รอบ/นาที นอกจากจะให้กำลังสูงแล้ว เครื่องยนต์บล็อกนี้ยังมีความทนทานที่เชื่อถือได้ แต่อาจต้องพิถีพิถันในการดูแลสักหน่อย ผู้ใช้ควรหมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม และใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรดสูง และดูแลเรื่องน้ำหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ ก็จะใช้งานเครื่องยนต์ตัวนี้ได้ยาว ๆ โดยไม่เจอปัญหาใหญ่

ระบบส่งกำลังของ Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5

รถมือสอง Legacy ควรตรวจเช็คกับอู่ที่ชำนาญโดยเฉพาะก่อนซื้อ

Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ที่จำหน่ายในประเทศไทย รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร จะมาพร้อมกับเกียร์ Lineartronic CVT ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เทอร์โบ จะได้เกียร์อัตโนมัติทอร์คคอนเวอร์เตอร์ 5 สปีด E-5AT

ระบบเกียร์ Lineartronic CVT

เกียร์ Lineartronic CVT ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical AWD) ได้อย่างลื่นไหล ให้ทั้งความนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน และขับทางไกลได้แบบสบาย ๆ จุดอ่อนที่เจอกันบ่อยในเกียร์รุ่นนี้คือโซลินอยด์วาล์วไฮดรอลิก ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในระบบเกียร์ CVT หากเริ่มมีอาการกระตุก เปลี่ยนเกียร์ไม่เรียบ หรือมีไฟเตือนขึ้นบนหน้าปัดเมื่อวิ่งเกิน 200,000 กม. มีโอกาสสูงว่าโซลินอยด์เริ่มมีปัญหา การซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายพอสมควร และควรให้ช่างที่เชี่ยวชาญด้าน CVT ของ Subaru ดูแลโดยเฉพาะ

การสึกหรอของบูชทอร์คคอนเวอร์เตอร์

อีกปัญหาที่ผู้ใช้บางรายพบคือการสึกหรอของบูชในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ โดยเฉพาะในรุ่นปีแรก ๆ เกียร์ของ Lineartronic เมื่อบูชเริ่มหลวม อาจทำให้เครื่องดับตอนชะลอหรือหยุดนิ่งได้แบบไม่ทันตั้งตัว วิธีแก้คือเปลี่ยนบูชใหม่ หรืออัปเกรดเป็นชุดแบริ่งที่ทนทานมากขึ้น ซึ่งช่วยลดอาการสั่นและยืดอายุการใช้งานของระบบส่งกำลังได้

การบำรุงรักษาระบบเกียร์ Lineartronic CVT

เพื่อยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์ Lineartronic CVT จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เป็นประจำ โดยเปลี่ยนทุก ๆ 60,000 กม. สำหรับการเปลี่ยนบางส่วน และทำการเปลี่ยนถ่ายแบบเปิดอ่างน้ำมันเกียร์ทุก 100,000 กม.

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด

Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 รุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรเทอร์โบ จะใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติทอร์คคอนเวอร์เตอร์ 5 สปีด E-5AT ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าทนทาน ส่งต่อกำลังฉับไว และรองรับการขับขี่แบบดุดันได้ดีกว่าเกียร์ Lineartronic CVT อย่างไรก็ตาม เกียร์อาจพังไวหากละเลยเรื่องการดูแล ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสภาพน้ำมันเกียร์และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้ตรงเวลา

ปัญหาหม้อน้ำและระบบระบายความร้อน

จุดอ่อนของระบบระบายความร้อน

ระบบระบายความร้อนใน Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ถือว่าทำงานได้ดีในภาวะปกติ แต่ถ้าเจออากาศร้อนจัด วิ่งรถติด หรือปล่อยให้หม้อน้ำสกปรก ก็มีโอกาสที่ระบบจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติให้เห็น หนึ่งในจุดที่ต้องระวังคือออยคูลเลอร์ที่ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย แม้จะช่วยประหยัดพื้นที่และต้นทุนการผลิต แต่กลับลดประสิทธิภาพการระบายความร้อนโดยรวม โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน หรือเมื่อครีบหม้อน้ำอุดตันจากฝุ่นหรือแมลง

ถ้าระบบระบายความร้อนเริ่มมีปัญหา จะนำไปสู่ความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ และอาจจบลงที่ปะเก็นฝาสูบเสียหาย หรือฝาสูบโก่งซึ่งค่าซ่อมไม่น้อย การตรวจสอบและทำความสะอาดหม้อน้ำเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับยานพาหนะที่วิ่งไปแล้วมากกว่า 100,000 กม.

Subaru Legacy ให้ฟีลลิ่งการเหยียบที่มั่นใจตอบสนองดี

ระบบเบรกและการบำรุงรักษา

ปัญหาคาลิเปอร์เบรก

ระบบเบรกของ Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ให้ฟีลลิ่งการเหยียบที่มั่นใจและตอบสนองน้ำหนักได้ดี แต่ก็มีจุดที่ต้องใส่ใจโดยเฉพาะที่คาลิเปอร์เบรก เมื่อใช้งานไปนาน ๆ แล้วไม่ได้บำรุงรักษาหรือทำความสะอาดชิ้นส่วนต่าง ๆ คาลิเปอร์อาจเริ่มมีอาการฝืด ทำให้ความรู้สึกตอนเบรกไม่สม่ำเสมอ ผ้าเบรกสึกไม่เท่ากัน หรือมีเสียงดังตอนเหยียบเบรก

บทสรุป: Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 รถที่ใช่สำหรับคนที่รู้จักมันดีพอ

Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 อาจไม่ใช่รถที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าเข้าใจและรู้วิธีดูแล รถรุ่นนี้ก็พร้อมจะตอบแทนคุณด้วยฟีลลิ่งการขับที่รถญี่ปุ่นทั่วไปให้ไม่ได้ จุดแข็งของมันอยู่ที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตรที่มั่นใจได้ทุกสภาพถนน การควบคุมที่แม่นยำ และการขับขี่ที่นิ่งแบบรถยุโรปแต่ค่าดูแลแบบรถญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ยังมีข้อกังวลหลายประการ เช่น การบำรุงรักษาระบบเกียร์ Lineartronic CVT อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของเครื่องยนต์บางรุ่น สีรถบาง และการเก็บเสียงที่จำกัด แต่หากคุณเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร บำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ และตรวจสอบระบบส่งกำลังเป็นประจำ Legacy คันนี้ก็สามารถเป็นรถคู่ใจที่อยู่กับคุณได้ยาว ๆ แบบไม่เรื่องมาก

ซูบารุ เลกาซี่รถญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกนิ่งเหมือนรถยุโรป

Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 เป็นรถมือสองที่เหมาะกับใคร?

Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 คือรถญี่ปุ่นคุณภาพสูงที่ยังคงน่าขับอยู่ในปัจจุบันแม้จะมีอายุเกิน 10 ปีแล้วก็ตาม เหมาะกับคนมองหารถขับดีที่ไม่ได้ฮิตในกระแสแต่มีคุณภาพและบุคลิกชัดเจน รวมถึงคนที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • ให้ความสำคัญกับความมั่นใจและเสถียรภาพในทุกสภาพอากาศ
  • เต็มใจที่จะลงทุนดูแลมากกว่าแค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ๆ 10,000 กม.
  • ต้องการรถสเตชันวากอนหรือซีดานที่ทรงพลัง ไม่ได้ต้องการ SUV
  • ไม่เกี่ยงเรื่องการซ่อมบำรุง เพื่อให้ได้มาซึ่งความสนุกสนานในการขับขี่

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีคุณสมบัติตรงตามนี้ Legacy เจเนอเรชันที่ 5 คือรถที่ใช่สำหรับคุณ

ก่อนซื้อ Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 โปรดตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้

ก่อนตัดสินใจซื้อ Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 มือสอง มีบางจุดที่คุณควรตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้พลาดเจอค่าซ่อมหลักหมื่นหลังออกรถไม่นาน สิ่งที่ต้องพิจารณามีดังนี้

  • ตรวจสอบเกียร์ CVT อย่างละเอียด - เกียร์ Lineartronic CVT ให้การขับที่นุ่มนวลก็จริง แต่เมื่อผ่านการใช้งานมานานโดยไม่ได้รับการดูแล น้ำมันเกียร์ไม่เคยเปลี่ยน หรือวิ่งมาเกิน 150,000 กม. อาจเริ่มแสดงอาการกระตุก เปลี่ยนเกียร์ไม่ลื่น หรือมีเสียงผิดปกติ แนะนำให้ทดลองขับโดยใช้รอบเครื่องหลากหลายช่วง แล้วสังเกตอาการเปลี่ยนเกียร์ รวมถึงให้ช่างเช็กประวัติการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ด้วย
  • ตรวจสอบชุดคลัตช์ด้านหลัง - ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ Subaru ขึ้นชื่อเรื่องความเกาะถนนแต่ก็มีชิ้นส่วนที่ต้องดูแลเช่นกัน โดยเฉพาะชุดคลัตช์ด้านหลังซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการกระจายแรงขับ หากคลัตช์เริ่มทำงานผิดปกติ รถอาจมีอาการสั่นตอนเลี้ยวหรือถ่ายกำลังไม่สมดุล การตรวจสอบควรทำโดยช่างที่มีประสบการณ์กับระบบ AWD ของ Subaru โดยเฉพาะ
  • ตรวจสอบรอยรั่วในเครื่องยนต์และแร็คพวงมาลัย – แม้ว่าเครื่องยนต์ Boxer ของ Subaru จะทนทาน แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องซึมนิดรั่วหน่อย โดยเฉพาะในจุดเชื่อมต่อฝาครอบวาล์ว และบริเวณปะเก็นต่าง ๆ ให้ตรวจดูคราบน้ำมันที่พื้นหลังจอดค้างคืน หรือเปิดฝากระโปรงแล้วส่องหาจุดรั่วซึม นอกจากนี้ แร็คพวงมาลัยก็เป็นจุดที่อาจรั่วได้เช่นกัน ถ้าเริ่มรู้สึกหนักมือหรือมีเสียงขณะหมุนพวงมาลัย ให้ระวังไว้
  • ตรวจดูสนิมใต้ท้องรถ - จุดสุดท้ายที่หลายคนมองข้ามคือสนิมใต้ท้องรถ โดยเฉพาะในคันที่เคยใช้งานแถบชายทะเล หรือจอดในพื้นที่ชื้นนาน ๆ แนะนำให้ยกรถขึ้นตรวจสอบดูใต้ท้องรถอย่างละเอียด โดยเฉพาะโครงสร้างสำคัญอย่างคานกลาง จุดยึดช่วงล่าง และท่อไอเสีย หากเริ่มมีสนิมกินลึก ค่าซ่อมหรือจะไม่น้อยแน่นอน

Subaru Legacy เจเนอเรชันที่ 5 ยังเป็นรถที่สมดุลและเปี่ยมด้วยอารมณ์ซึ่งยังคงมอบความสุขหลังพวงมาลัยได้มากมาย แม้ในตลาดรถมือสองจะหายากและมีตัวเลือกน้อย แต่ถ้าเจอคันที่สภาพดี ดูแลดี และมีราคาเหมาะสม รถรุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ ถ้าชอบรถญี่ปุ่นคุณภาพดี ไม่อยากซ้ำใคร มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ไว้ใจได้ ช่วงล่างหนึบ ภายในกว้าง ระบบความปลอดภัยครบ และเหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกล Legacy เจเนอเรชันที่ 5 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทุกประการ

ค้นหา subaru มือสอง รุ่น5 (ปี 2009-2014) ที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่

เรารวบรวมประกาศขายจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เปรียบเทียบราคา ดูประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ ที่นี่ ค้นหารถซูบารุมือสอง

  • กรุงเทพมหานคร, 500 km
  • ยี่ห้อ: Subaru
  • รุ่น: Outback
  • ปี: 2007-2013
  • แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod








รีวิว Subaru Legacy รุ่น5 มือสอง - รถญี่ปุ่นที่ให้ประสบการณ์ขับขี่ไม่เหมือนใคร