Subaru Forester รุ่น 3 มือสอง–SUV สายลุยจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ยังน่าเล่นในปีนี้

รถซูบารุได้ชื่อว่าแบรนด์รถยนต์ที่เป็นตัวแทนของนิยาม “ความน่าเชื่อถือแบบญี่ปุ่น” รถยนต์ Subaru ทุกรุ่นสะท้อนจิตวิญญาณที่มุ่งเน้นพัฒนารถยนต์คุณภาพสูง ขับสนุก มีความทนทาน เชื่อถือได้ และมีความปลอดภัยสูง Subaru พัฒนารถเก๋งและรถ SUV คุณภาพเยี่ยมออกสู่ตลาดมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Forester รุ่นที่ 3 ที่เป็นการปฏิวัติทั้งในด้านการออกแบบ เทคโนโลยี และระบบขับเคลื่อนจากรุ่นก่อนหน้าแบบพลิกฝ่ามือ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทะมัดทะแมงตามแบบฉบับรถ SUV เต็มตัว ขนาดที่ใหญ่โตขึ้น เครื่องยนต์ทรงพลังมากขึ้น ช่วงล่างที่ปรับเซตมาอย่างดี ความสามารถในการลุยที่ดีขึ้น รวมทั้งใส่เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยมาครบครัน
สำหรับประเทศไทย Forester เจเนอเรชันที่ 3 พบเห็นได้น้อยเนื่องจากเป็นรถนำเข้าและมีราคาสูง เช่นเดียวกับตลาดมือสองที่มีให้เห็นแทบจะนับคันได้ การเป็นเจ้าของ suv subaru forester รุ่นนี้จึงไม่ง่าย อย่างไรก็ตาม Forester เจเนอเรชันที่ 3 ก็เป็นรถที่มีสมรรถนะดีและมีความทนทานตามมาตรฐานญี่ปุ่น เครื่องยนต์ boxer ของ Subaru ช่วยให้ SUV คันนี้ยังเป็นตัวเลือกน่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้รถ SUV แกร่ง ๆ ที่ไม่ตามกระแส
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงจุดเด่น ข้อดี-ข้อเสีย ปัญหาที่พบ ของ Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 ดูว่ามีจุดไหนบ้างที่ต้องระวัง และดูว่ารถรุ่นนี้ยังคุ้มค่าที่จะซื้อมือสองหรือไม่
ภาพรวมของ Forester เจน 3

Subaru Forester เจน 3 มีรหัสตัวถังว่า SH เปิดตัวในปี 2008 และทำตลาดถึงปี 2013 มีการปรับโฉม 1 ครั้งในปี 2011 ทีมการตลาดของ Subaru วางเป้าหมายให้ SUV รุ่นนี้เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้งานได้จริง ภายในกว้างขวาง และมีสมรรถนะที่เชื่อถือได้ จุดเด่นของ Forester รุ่นนี้คือขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ฐานล้อยาวขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทะมัดทะแมงในแบบรถ SUV และใช้เครื่องยนต์ Boxer แบบไม่มีระบบอัดอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้ SUV รุ่นนี้เป็นรถที่ทนทาน ดูแลง่าย และไม่จุกจิก
ทำไม Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 ถึงเป็นที่ถกเถียงกัน?

Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 เปิดตัวมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนหน้า ทำให้มีคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือตามมาในกลุ่มผู้ใช้ โดยบางคนยกย่อง Forester เจน 3 ว่าเป็นรถที่ดี ทนทาน ลุยออฟโรดได้จริง และมีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถขับขี่ได้ 300,000 – 400,000 กม. โดยไม่มีปัญหาใหญ่ ขณะที่ผู้ใช้บางกลุ่มโต้แย้งว่าคุณภาพงานประกอบลดลงจาก Forester รุ่นก่อนหน้าและดูพรีเมียมน้อยลง
ปัญหาด้านตัวถังของ Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3
สนิมกับโครงสร้างที่ไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร เป็น 2 ประเด็นหลักที่เจ้าของ Forester เจน 3 พูดถึงบ่อยที่สุด บางคนใช้งานแล้วไม่เจอปัญหาอะไร แต่หลายรายก็ประสบกับปัญหาแบบจริงจังจนต้องซ่อมหรือปรับแต่งเพื่อเสริมความแข็งแรงเพิ่มเติม
ปัญหาเรื่องสนิมเกิดขึ้นได้ง่ายในบริเวณตัวถังส่วนล่าง เช่น ขอบประตู ซุ้มล้อ และพื้นใต้ท้องรถ โดยเฉพาะคันที่ปล่อยปละละเลยและไม่ค่อยดูแล ถ้าปล่อยให้แผ่นพลาสติกครอบซุ้มล้อสะสมเศษโคลนหรือความชื้นนาน ๆ จะยิ่งเร่งให้เกิดการกัดกร่อนเร็วขึ้น บางคันที่ดูแลไม่ดีอาจพบสนิมกินจนทะลุเป็นรูใหญ่บริเวณซุ้มล้อหลังหรือขอบประตู ซึ่งแก้ไขได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง การหมั่นล้างทำความสะอาดใต้ท้องรถและตรวจเช็กสภาพแผ่นครอบพลาสติกจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่ใช้หรือคิดจะซื้อ Forester เจเนอเรชันที่ 3
อีกปัญหาหนึ่งที่พบใน Forester เจเนอเรชันที่ 3 คือโครงสร้างตัวถังที่ค่อนข้างเปราะบาง โดยเฉพาะคันที่ใช้งานสมบุกสมบัน หรือเจอการกระแทกบ่อย ๆ เช่น การปีนขอบถนนแรง ๆ หรือขับลุยหลุมบ่อ ตัวถังอาจบิดตัวจนทำให้ปิดประตูหลังไม่สนิท หรือในบางกรณีรุนแรงถึงขั้นเกิดรอยแตกร้าวรอบขอบประตูและฝากระโปรงหลัง นอกจากนี้บางคันยังเจอรอยพับหรือรอยบิดเบี้ยวที่โครงตัวถังด้วย
แนวทางแก้ไขที่ได้ผลคือการติดตั้งชุดโครงเสริมความแข็งแกร่งในจุดสำคัญ เช่น โครงเสริมใต้ช่วงล่างด้านหลัง ติดตั้งค้ำล่าง หรือติดตั้งค้ำโช้คหน้าเพื่อช่วยลดการบิดตัวของโครงสร้างตัวถัง ทำให้รถทนต่อแรงบิดตัวได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับคนใช้รถแบบลุยทางสมบุกสมบันหรือต้องรับน้ำหนักมาก ๆ เป็นประจำ

ปัญหาเครื่องยนต์ของ Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3
Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 มีตัวเลือกเครื่องยนต์ทั้งเบนซินธรรมดาและเบนซินเทอร์โบ ซึ่งแต่ละเครื่องยนต์มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกัน ใครสนใจ SUV รุ่นนี้ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจเพื่อจะได้เลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานและเข้าใจข้อควรระวังไว้แต่เนิ่น ๆ
เครื่องยนต์ EJ20 (รุ่นก่อนปรับโฉม)
Forester เจเนอเรชันที่ 3 รุ่นก่อนปรับโฉม ใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส EJ20 ความจุ 2.0 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ เครื่องยนต์รุ่นนี้ทนทานและเชื่อถือได้ จุดเด่นคืออึด ทน ซ่อมง่าย แต่ข้อเสียคือกำลังแรงม้าและแรงบิดไม่สูงนัก ทำให้มีอัตราเร่งค่อนข้างอืดและมีแนวโน้มเจอปัญหากินน้ำมันเครื่องหากละเลยการดูแล นอกจากนี้ หม้อน้ำที่สกปรกหรือไม่เคยได้ล้างเลยอาจทำให้เกิดอาการอุดตัน ทำให้เครื่องเกิดความร้อนสูงได้ จึงควรตรวจสอบระบบหล่ออยู่เย็นเสมอ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามรอบที่แนะนำ (ทุก 7,500 กม. หรือเร็วกว่านั้นถ้าใช้งานหนัก)
เครื่องยนต์ EJ25 (รุ่นปรับโฉม)
ปี 2011 Subaru ทำการปรับโฉม Forester เจเนอเรชันที่ 3 และเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส EJ25 ความจุ 2.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ ที่พัฒนาใหม่โดย เครื่องบล็อกนี้ใช้เพลาลูกเบี้ยวแบบเดี่ยว (SOHC) เพื่อให้เครื่องยนต์เดินเรียบขึ้น และมีแรงบิดช่วงต้นดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เครื่อง EJ25 มีประวัติเรื่องปัญหาปะเก็นฝาสูบรั่ว เจอบ่อยในรถที่ใช้งานในสภาพอากาศร้อนหรือใช้งานหนักต่อเนื่อง อาการที่พบบ่อยคือเครื่องยนต์ร้อนเกินจนเริ่มกินน้ำในหม้อน้ำ หรือมีควันไอเสียขาว การป้องกันทำได้ด้วยการหมั่นเช็กระดับน้ำในหม้อน้ำและระบบระบายความร้อน และอย่าละเลยสัญญาณผิดปกติต่าง ๆ
เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.5 ลิตร (XT)

สำหรับสายขับสนุก Forester เจเนอเรชันที่ 3 รุ่น XT มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลังแรงม้าและแรงบิดสูง ขับสนุกเร้าใจ แต่แลกมากับต้นทุนการดูแลที่สูงกว่าเครื่อง NA อีกข้อควรรู้คือคนใช้เครื่องยนต์เทอร์โบควรต้องให้ความสำคัญกับน้ำมันเครื่องมาก ๆ ถ้าน้ำมันเครื่องขาดหรือใช้ของคุณภาพไม่ดีก็อาจเป็นต้นเหตุให้เทอร์โบพังเร็ว ตามมาด้วยค่าซ่อมที่สูงเอาเรื่อง ดังนั้นถ้าจะเล่นรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ การบำรุงรักษาต้องไม่ขาดตกบกพร่อง เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ (แนะนำ 5,000 – 7,000 กม.) และใช้น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้มาตรฐาน API SN ขึ้นไป อายุการใช้งานโดยทั่วไปของเครื่องเทอร์โบอยู่ราว 150,000 กม. แต่ถ้าดูแลดีสามารถลากได้ไกลกว่านั้น
ปัญหากินน้ำมันเครื่อง
เครื่องยนต์ของ Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 รุ่นปรับโฉมใช้ลูกสูบน้ำหนักเบาและแหวนลูกสูบที่เล็กลง เมื่อใช้งานไปถึงหลักแสนกิโลเมตร อาจเจอปัญหากินน้ำมันเครื่อง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากซีลลูกสูบที่ไม่แน่นพอ ถ้าไม่รีบตรวจเช็กและทำการแก้ไขปัญหานี้อาจบานปลายจนต้องเปลี่ยนแหวนลูกสูบ หรือร้ายแรงที่สุดคือเครื่องพัง ต้องยกเครื่องใหม่ ดังนั้นเจ้าของรถ Forester รุ่นนี้ต้องขยันเช็กระดับน้ำมันเครื่องอยู่เสมอ เติมให้เต็มและเปลี่ยนตามรอบ เพื่อลดความเสี่ยงความเสียหายร้ายแรง
ระบบส่งกำลังและคลัทช์
เกียร์ธรรมดา vs เกียร์อัตโนมัติ
Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด โดยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด จะจับคู่กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เน้นความทนทานและเหมาะกับการใช้งานหนัก เช่น ออฟโรดหรือขึ้นเขา เพราะมีอัตราทดต่ำที่ช่วยลดภาระคลัทช์ ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ เมื่อเจอเส้นทางยาก
ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แม้จะไม่นุ่มนวลเท่าเกียร์ใหม่ ๆ ในยุคนี้ แต่ก็มีจุดเด่นที่ความเรียบง่ายและทนทานมาก ถ้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามกำหนดทุก 40,000 – 60,000 กม. ก็สามารถใช้งานเกียร์ลูกนี้ได้ยาว ๆ ถึง 200,000 กม. โดยไม่มีปัญหาใหญ่ แต่ถ้าเจ้าของรถละเลยเรื่องการบำรุงรักษา เกียร์อาจเสื่อมเร็วจนต้องยกเกียร์ใหม่ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่ถูกอย่างแน่นอน
ปัญหาเรื่องคลัตช์ในรถเกียร์ธรรมดา
Forester เจเนอเรชันที่ 3 เกียร์ธรรมดาหลายคันเมื่อเลขไมล์เกิน 150,000 – 170,000 กม. มักเริ่มมีเสียงที่ลูกปืนปล่อยคลัทช์หลวม หรือคลัตช์เริ่มหมด ต้องเปลี่ยนชุดคลัทช์ใหม่ ซึ่งเป็นงานซ่อมปกติในรถที่ใช้งานมานาน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ถ้ามีงบเผื่อไว้
ระบบกันสะเทือนและพวงมาลัย
แร็คพวงมาลัยไฟฟ้า vs ไฮดรอลิก
Forester เจเนอเรชันที่ 3 มีทั้งรุ่นพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฮดรอลิก (รุ่นปีต้น ๆ) และพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (รุ่นปีหลัง ๆ) ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน แร็คพวงมาลัยไฮดรอลิกมีแข็งแรงกว่า ทนต่อการใช้งานหนักได้ดี แต่ต้องคอยดูแลน้ำมันพวงมาลัยให้สะอาด ส่วนแร็คพวงมาลัยไฟฟ้ามีจุดเด่นที่ความเบาสบาย ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น แต่ในรุ่นปีแรก ๆ ที่ใช้แร็คไฟฟ้าก็มีปัญหาเรื่องเสียงดังตอนหมุนพวงมาลัย และในบางกรณีดจอปัญหาถึงขั้นแร็คพวงมาลัยรั่วซึม ตอบสนองไม่ดี จนต้องเปลี่ยนแร็คใหม่ยกชุด
อีกปัญหาที่เจอได้คือเซนเซอร์แรงบิดในแร็คไฟฟ้าพัง ทำให้รู้สึกว่าพวงมาลัยหนักเบาไม่เท่ากัน หรือหมุนพวงมาลัยแล้วมีอาการสะดุด การแก้ไขต้องเปลี่ยนเซนเซอร์หรือแร็คใหม่ ขึ้นอยู่กับอาหารที่พบและความเสียหาย
รถซูบารุ Subaru Forester รุ่น 3 ยังน่าเล่นอยู่ไหม?

Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 (SH) อาจไม่ใช่รถที่สมบูรณ์แบบไปทุกด้านแต่ก็ไม่ใช่รถที่ต้องกังวล จุดเด่นของ suv subaru รุ่นนี้คือความเป็นรถที่ครบเครื่อง ใช้งานได้หลากหลาย ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย ทัศนวิสัยดี ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไว้ใจได้ และมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ เหมาะทั้งการขับในเมือง เดินทางไกลต่างจังหวัด หรือแม้แต่ลุยทางดินในชนบทแบบไม่เกี่ยงเส้นทาง นี่คือรถประเภทที่ทำให้คุณอยากออกเดินทางไกล อยากพารถขึ้นเขาลงห้วย ไปไหนก็ได้ที่ใจต้องการ เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีชีวิตชีวามากกว่ารถ Crossover ญี่ปุ่นหลาย ๆ รุ่นในยุคเดียวกัน
แต่แน่นอนว่า Forester เจเนอเรชันที่ 3 ก็มีด้านที่ต้องระวังเหมือนกัน เช่น การบริโภคน้ำมันเครื่องมากกว่าปกติ (โดยเฉพาะรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์) ปัญหาปะเก็นฝาสูบรั่วในเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เทอร์โบ ปัญหาเกียร์อัตโนมัติในบางลอต และโรคประจำตัวอย่างสนิมที่ตัวถัง Forester เจเนอเรชันที่ 3 ไม่ใช่รถที่ซื้อแล้วขับอย่างเดียว แต่เจ้าของต้องดูแลเอาใจใส่และบำรุงรักษาตามรอบอย่างเคร่งครัด แต่ถ้าคุณให้เวลากับ Forester เจเนอเรชันที่ 3 รถรุ่นนี้ก็พร้อมตอบแทนคุณด้วยความน่าเชื่อถือและความสนุกในการขับขี่
Forester Forester เจเนอเรชันที่ 3 เหมาะกับใครบ้าง
Forester เจเนอเรชันที่ 3 เป็น Crossover ญี่ปุ่นที่มาพร้อมคาแรกเตอร์บางอย่างที่น่าสนใจ เหมาะกับคนที่รักการขับรถ ชอบรถ SUV ญี่ปุ่นคุณภาพสูงและมีจิตวิญญาณของรถสายลุยอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งยังเหมาะกับคนที่ไม่กลัวเรื่องการบำรุงรักษา มีงบเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลรถให้ดีอยู่เสมอ รวมถึงคนต้องการรถขับเคลื่อนสี่ล้อแท้ ๆ ที่ลุยได้จริงโดยไม่สูญเสียความสบายในชีวิตประจำวัน และเหมาะกับคนที่เบื่อ Crossover SUV ยุคใหม่ที่ดูเหมือน ๆ กันไปหมด ชอบความแตกต่าง อยากได้รถที่มีตัวตนชัดเจน
ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง Forester Forester เจเนอเรชันที่ 3
ถ้าคุณกำลังมองหารถ Crossover SUV ที่ขับออกจากเต็นท์แล้วใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องซ่อมหรือดูแลอะไรมากมาย Forester เจเนอเรชันที่ 3 อาจไม่ใช่ตัวเลือกดีที่สุด ตัวเลือกอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V อาจเหมาะกว่า เพราะเน้นความง่ายในการดูแลและการใช้งานแบบไม่จุกจิก
Forester เจเนอเรชันที่ 3 คือรถที่เน้นอารมณ์และการขับขี่มากกว่า อาจมีปัญหาจุกจิก ดูแลยาก หรือมีความไม่สมบูรณ์แบบอยู่บ้าง แต่ทั้งหมดก็เป็นเหมือนนิสัยประจำตัวของ SUV รุ่นนี้ คนชอบก็คือชอบไปเลย ส่วนคนที่มองว่าเป็นรถที่ดูแลยากก็อาจไม่สนใจและมองข้ามไป
คำแนะนำก่อนซื้อ Forester เจน 3 มือสอง
การเลือกซื้อ Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 มือสอง มีหลายอย่างที่ต้องพิจารณา เพราะรถรุ่นนี้มีทั้งจุดแข็งที่น่าหลงรัก และจุดอ่อนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าอยากได้รถที่ใช้งานได้ยาว ๆ และไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาจุกจิกภายหลัง นี่คือสิ่งที่ควรเช็กอย่างรอบคอบ
- ตรวจสอบการกินน้ำมันเครื่อง – เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ในรุ่นปรับโฉม Minorchange มีแนวโน้มเกิดปัญหาน้ำมันเครื่องหาย ควรถามเจ้าของเดิมเกี่ยวกับพฤติกรรมการเติมน้ำมันเครื่อง และสังเกตคราบน้ำมันหรือกลิ่นไหม้ผิดปกติ รวมถึงลองขอดูประวัติการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเพื่อประเมินประวัติการบำรุงรักษารถที่ผ่านมา
- เช็กประวัติการซ่อมเครื่องยนต์ – เครื่องยนต์ Boxer ของ Subaru มีชื่อเสียงเรื่องความทน แต่ถ้าเจอปะเก็นฝาสูบรั่วแล้วซ่อมไม่ดี อาจมีปัญหาซ้ำได้ ต้องเช็กให้แน่ใจว่าเคยซ่อมหรือยกเครื่องมาแล้วหรือไม่ หากมีประวัติการซ่อมใหญ่ควรเป็นการซ่อมจากอู่ที่มีประสบการณ์กับรถ Subaru โดยตรง
- สำรวจสภาพเกียร์ - ควรทดลองขับขี่จริงแล้วสังเกตดูว่าเกียร์ทำงานลื่นไหม มีอาการกระตุกหรือมีเสียงผิดปกติหรือเปล่า โดยเฉพาะเกียร์อัตโนมัติถ้ามีอาการเปลี่ยนเกียร์กระชากหรือเปลี่ยนช้า อาจหมายถึงปัญหาใหญ่ที่ต้องซ่อมยกชุด
- ตรวจหาสนิมที่ตัวถัง - Forester เจเนอเรชันที่ 3 ยังมีจุดอ่อนเรื่องสนิม โดยเฉพาะบริเวณขอบประตู ซุ้มล้อ และใต้ท้องรถ ควรเปิดฝากระโปรงหน้าและหลังแล้วตรวจเช็กตามขอบยางต่าง ๆ ด้วยตาเปล่า ถ้ามีสนิมกินลึกหรือทะลุ อาจต้องเตรียมงบซ่อมแซมเพิ่มอีกมาก
- เช็กสภาพช่วงล่างและศูนย์ล้อ - เอารถขึ้นลิฟต์เพื่อตรวจดูใต้ท้องรถและช่วงล่างให้ชัดเจนว่ามีโช้คอัพรั่วซึมหรือไม่ ลูกหมากหลวมไหม และตรวจสอบว่ายังตั้งศูนย์ตรงหรือเปล่า ถ้าขับแล้วรู้สึกรถไม่สมดุลหรือพวงมาลัยมีอาการเอียงซ้ายหรือขวา อาจต้องตั้งศูนย์พวงมาลัยใหม่หรือลงทุนอัปเกรดช่วงล่างใหม่ทั้งชุดเพื่อแก้ปัญหาแบบถาวร
สรุปรถซูบารุฟอเรสเตอร์
Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 3 เป็นรถ Crossover SUV ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ดีกว่ารถญี่ปุ่นในยุคเดียวกันหลายรุ่น ขับสนุก ช่วงล่างหนึบ ลุยได้จริง และยังให้ความมั่นใจในทุกเส้นทาง ถือเป็นรถที่ยังคงน่าใช้แม้จะมีอายุเกิน 10 ปีไปแล้วก็ตาม แต่ต้องแลกมาด้วยความเอาใจใส่และการดูแลบำรุงรักษามากกว่ารถทั่วไปสักหน่อย ถ้าเลือกรถมือสองแนะนำว่าให้ดูคันที่ปีใหม่ ๆ และได้รับการดูแลมาอย่างดี แล้วคุณจะรับรู้ได้ว่า Crossover SUV ยังคงเป็นเพื่อนคู่ใจที่พาคุณไปได้ทุกที่ พร้อมกับมอบความรู้สึกมั่นใจทุกการเดินทาง
ค้นหา Subaru Forester SH (2007–2013) มือสองคันที่ใช่สำหรับคุณ
เรารวบรวมประกาศขาย subaru forester มือสอง จาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว
เปรียบเทียบ subaru forester ราคามือสอง ดูประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ
subaru forester มือสองมากมายรอคุณอยู่ที่นี่ →ค้นหา Forester เจน3
- กรุงเทพมหานคร, 500 km
- ยี่ห้อ: Subaru
- รุ่น: Forester
- ปี: 2007-2013
- แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod