Nissan X-Trail เจน 3 มือสอง– รถsuv คุ้มค่า ขับสบายเหมาะสำหรับคนหารถครอบครัว


Nissan X-Trail รถsuvญี่ปุ่นคุณภาพเยี่ยม

Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 (รหัสตัวถัง T32) ถือเป็นรถ Crossover SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมาตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างรอบด้าน เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2014 ก่อนจะได้รับการปรับโฉม Minor change ในปี 2019 นิสสัน เอกเทรล เจเนอเรชันที่ 3 เป็นรถที่มีจุดเด่นหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ภายในกว้างขวาง การขับขี่ที่นุ่มนวลและเหมาะสำหรับการเดินทางไกล ลุยได้ในบางครั้ง รวมถึงมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่ครบครันมากที่สุดรุ่นหนึ่งของรถยนต์ Nissan ที่ขายในประเทศไทย

X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพจากผู้ใช้ชาวไทยจำนวนมาก รถรุ่นนี้มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานรถญี่ปุ่น งานประกอบแข็งแรง แน่นหนา เครื่องยนต์มีตัวเลือกหลากหลายและให้พละกำลังเหมาะสมสำหรับการใช้งาน เกียร์ CVT ที่ทำงานนุ่มนวล มาพร้อมระบบช่วยขับขี่และอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูงมากมาย ถือเป็นรถที่น่าใช้มากที่สุดรุ่นหนึ่งของ Nissan แม้จะผ่านการใช้งานมาหลายกิโลเมตรแล้วก็ตาม

ในตลาดรถ x trail มือสอง เจน 3 ค่อนข้างมีให้เลือกเยอะทั้งรุ่นก่อนปรับโฉมและหลังปรับโฉม ที่สำคัญคือราคามือสองค่อนข้างดีมาก ๆ หากคุณเข้าใจจุดแข็ง-จุดอ่อนของรถรุ่นนี้และเลือกซื้ออย่างมีข้อมูล ก็จะช่วยให้คุณได้ Crossover SUV ญี่ปุ่นคุณภาพเยี่ยมในราคาสุดคุ้มที่หาไม่ได้ในแบรนด์เจ้าตลาด

บทความนี้จะพาไปสำรวจทุกแง่มุมของ Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ตั้งแต่รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2014 ไปจนถึงรุ่นปรับโฉมในช่วงปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดรถมือสองตอนนี้ มาดูกันว่า Crossover SUV รุ่นนี้มีจุดเด่น ข้อดี-ข้อเสีย ปัญหาที่พบบ่อย ข้อควรพิจารณา รวมถึงคำแนะนำในการบำรุงรักษาเบื้องต้น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนที่สุดก่อนตัดสินใจ

ภาพรวมของนิสสัน เอกเทรล รุ่น 3


นิสสัน เอกเทรล มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ

Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 หรือที่รู้จักกันในรหัสตัวถัง T32 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 และเข้าสู่ตลาดเมืองไทยในปี 2014 ก่อนจะอยู่ในสายการผลิตยาวนานจนถึงปี 2021 ถือเป็นช่วงเวลาที่ X-Trail ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะรถsuv ขนาดกลางสำหรับครอบครัวที่ให้ความสมดุลระหว่างความสะดวกสบาย ความอเนกประสงค์ และความสามารถในการขับขี่แบบสมบุกสมบันได้ในคันเดียว

X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมเครื่องยนต์เบนซินหลายประเภท จุดขายหลักคือการผสมผสานระหว่างดีไซน์ที่ทันสมัยกับความใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน โดยยังคงความน่าเชื่อถือแบบรถญี่ปุ่นแท้ ๆ

ในปี 2018 Nissan ได้ทำการปรับโฉม X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 เพื่อเพิ่มความสดใหม่ให้กับรุ่นนี้ โดยอัปเกรดดีไซน์ภายนอกด้วยไฟหน้าใหม่แบบ LED ที่ดีไซน์เฉียบคมมากขึ้น กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่ และไฟท้าย LED ที่ดูทันสมัยกว่าเดิม พร้อมกับปรับเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยหลายอย่างตามยุคสมัย อาทิ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน เป็นต้น ทำให้ X-Trail ในปีหลัง ๆ เป็นรถที่สมบูรณ์แบบทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ออปชัน และความปลอดภัย

ถึงแม้จะมีการอัปเกรดหลายจุด แต่ก็ต้องยอมรับว่าข้อบกพร่องบางอย่างจากรุ่นก่อนปรับโฉมยังคงติดตามมาด้วย เช่น ปัญหาเกี่ยวกับระบบเกียร์ X-Tronic CVT ที่ยังคงเป็นจุดอ่อนหลักในบางเครื่องยนต์ นอกจากนี้ ระบบช่วยขับขี่ต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามานั้นยังไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐานที่มีในรถทุกรุ่นย่อย ต้องเลือกรุ่นท็อปเท่านั้นจึงจะได้ครบ

อย่างไรก็ตาม Nissan ประเทศไทย ประสบกับปัญหาด้านความนิยมและยอดขายที่ลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับผลตอบรับของ X-Trail รุ่นปรับโฉมไม่ดีอย่างที่คาดหวัง ทำให้ Nissan ตัดสินใจยุติการทำตลาดรถยนต์ X-Trail ในประเทศไทยอย่างถาวรในปี 2020 ปัจจุบันไม่มี X-Trail รุ่นใหม่มาทำตลาดต่อ ทำให้ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 กลายเป็นรุ่นสุดท้ายของตระกูลไปโดยปริยาย

ดีไซน์ภายนอกและตัวถัง


นิสสัน เอกเทรล เคลือบสังกะสีบริเวณตัวถังกันสนิมได้ดีกว่าเดิม

คุณภาพของตัวถัง

โครงสร้างตัวถังของ Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 มีการเคลือบสังกะสี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถต้านทานสนิมได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะในจุดที่เสี่ยงสัมผัสน้ำหรือความชื้น อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสังเกตในเรื่องความบางของชั้นสีที่พ่นจากโรงงาน ซึ่งค่อนข้างไวต่อการเกิดรอยขีดข่วน โดยเฉพาะบริเวณชายล่างของประตู ซุ้มล้อ และขอบกันชน ที่มักสัมผัสกับกรวดทรายและเศษวัสดุจากพื้นถนนอยู่บ่อยครั้ง

หลังจากใช้งานไปได้ประมาณ 3 - 4 ปี เจ้าของรถหลายคนมักเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยขีดข่วนเล็ก ๆ แม้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในทันที แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล ก็อาจลุกลามได้ในระยะยาว จุดที่ควรระวังเป็นพิเศษคือ หลังคารถ เนื่องจากไม่ได้ผ่านการเคลือบสังกะสีเหมือนส่วนอื่น ๆ ของตัวถัง ดังนั้น หากมีเศษหินกระเด็นไปโดนจนสีถลอกแล้วไม่ได้ซ่อมแซมทันที พื้นผิวโลหะที่เปลือยอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของสนิมได้อย่างรวดเร็ว

ข้อดีที่ควรพูดถึงคือ ฝาท้ายของ X-Trail ทำจากวัสดุคอมโพสิตซึ่งช่วยลดน้ำหนักตัวรถและไม่เป็นสนิม อย่างไรก็ตาม ระบบตัวยึดของโช้คฝาท้ายหรือมอเตอร์ยกไฟฟ้า (ในรุ่นที่มี) อาจเกิดปัญหาได้เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ เช่น ยึดปิดประตูไม่สนิท ทำให้เกิดเสียงรบกวนเบา ๆ เวลารถวิ่ง

ปัญหาเกี่ยวกับวัสดุภายนอก

ในรุ่นก่อนปรับโฉมโดยเฉพาะช่วงปีแรก ๆ ของการผลิต (2013–2015) มีผู้ใช้จำนวนไม่น้อยที่พบว่าตราสัญลักษณ์ Nissan ด้านหน้ามีปัญหาสีลอก ซึ่งเมื่อสีชั้นบนหลุดออก จะเหลือแต่ฐานโครเมียมที่ดูหมอง ไม่สวยเหมือนตอนใหม่ ๆ แม้ว่าจะไม่ส่งผลต่อการใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเล็ก ๆ ที่ลดความประทับใจในเรื่องคุณภาพงานประกอบ บางคันอาจเคยได้รับการเปลี่ยนภายใต้การรับประกัน แต่ปัจจุบันตราสัญลักษณ์ใหม่สามารถหาซื้อและเปลี่ยนได้ง่ายตามศูนย์บริการหรือตลาดอะไหล่ทั่วไป

อีกจุดหนึ่งที่ควรตรวจสอบเป็นพิเศษหากคุณกำลังมองหา X-Trail มือสองก็คือแผงพลาสติกตกแต่งบริเวณฐานใบปัดน้ำฝน ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่เชื่อมระหว่างฝากระโปรงหน้ากับกระจกบังลมหน้า แผงชิ้นนี้มักจะเริ่มคลายตัวหรือหลุดจากตำแหน่งเมื่อใช้งานไปนาน ๆ เมื่อแผงนี้หลุดหรือบิดเบี้ยว อาจทำให้ฝุ่น เศษใบไม้ หรือแม้แต่ความชื้นเล็ดลอดเข้าไปสะสมในช่องระบายน้ำใต้กระจกหน้า ซึ่งถ้าปล่อยไว้โดยไม่ทำความสะอาด ก็อาจก่อให้เกิดการอุดตันหรือสนิมได้

คุณภาพภายในและวัสดุ


ภายใน Nissan X-Trail ตกแต่งสไตล์ รถsuv แบบญี่ปุ่นทั่วไป

คุณภาพวัสดุ

ภายในของ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 สะท้อนถึงการออกแบบแบบญี่ปุ่นทั่วไป ส่วนประกอบต่าง ๆ มีการใช้พลาสติกอ่อนจำนวนมาก ภาพรวมจึงดูไม่พรีเมียมเท่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ปัญหาที่เจอคือบางชิ้นส่วนเริ่มมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดตามอายุ มีการซีด และมีโอกาสเกิดริ้วรอยขีดข่วนได้ง่าย หากเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องความเนี๊ยบของงานตกแต่งภายในห้องโดยสารจะดูรู้ว่า Nissan ตั้งใจลดต้นทุนของงานตกแต่งภายในได้ชัดเจน นอกจากนี้ก็ยังค่อนข้างกั๊กในเรื่องของรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม

ปัญหาเบาะนั่งและระบบปรับไฟฟ้า

เบาะนั่งคนขับอาจเจอปัญหายุบตัวหรือไม่นุ่มแน่นเท่าตอนรถใหม่ ๆ เนื่องจากโฟมรองนั่งเสื่อมสภาพ ทำให้นั่งไม่สบายเท่าเดิม การติดตั้งที่หุ้มเบาะสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ นอกจากนี้ รถหลายคันยังเจอปัญหาเซนเซอร์อุณหภูมิภายนอกแสดงค่าที่สูงกว่าค่าจริงประมาณ 2 องศาเซลเซียส

โดยรวมแล้ว ระบบไฟฟ้าของ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 นั้นมีความน่าเชื่อถือ แม้ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับพัดลม แผ่นปิด HVAC และสายรัดพวงมาลัยเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ตัวต้านทานความร้อนที่ทำงานผิดปกติในระบบทำความร้อนและเครื่องปรับอากาศก็เป็นอีกจุดอ่อนที่ทราบกันดี

เครื่องยนต์ของ Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3


เครื่องยนต์เบนซิน  nissan x trail hybrid เปิดตัวในปี 2019

Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกทั้งหมด 3 เครื่องยนต์ ได้แก่

  • เครื่องยนต์เบนซิน MR20DD ความจุ 2.0 ลิตร กำลัง 144 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที
  • เครื่องยนต์เบนซิน QR25DE ความจุ 2.5 ลิตร กำลัง 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 233 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที
  • เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 2.0 ลิตร MR20DD ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 179 แรงม้า เครื่องยนต์นี้เปิดตัวมาพร้อมรุ่นปรับโฉมในปี 2019 เพื่อแทนที่เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเดิม

ทั้ง 3 เครื่องยนต์เป็นเครื่องเบนซินไม่มีระบบอัดอากาศ โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเบนซิน 2.0 ลิตร ซึ่งมีความประหยัดมากที่สุดและขึ้นชื่อในเรื่องความเรียบง่าย ทนทาน ดูแลง่าย ไม่จุกจิก สามารถใช้งานเกิน 200,000 กิโลเมตรได้สบาย ๆ หากดูแลอย่างเหมาะสม และยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดหากต้องการ X-Trail มือสองที่ใช้งานคุ้ม ๆ และไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจให้เจอมากนัก

ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 2.0 ลิตร มีระบบมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าจะให้พละกำลังและสมรรถนะดีกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความซับซ้อนของระบบและความยุ่งยากในการดูแลรักษาที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ

ขณะที่เครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All Mode 4X4-I ที่เลือกได้ทั้งแบบ 2WD, Auto และ Lock ให้กำลังแรงม้าและแรงบิดสูง เหมาะสำหรับคนที่เน้นขับขี่ทางไกล บรรทุกคนและสัมภาระเยอะ ๆ เดินทางท่องเที่ยวหรือขับขี่ขึ้น-ลงทางลาดชันบ่อย ๆ เครื่องยนต์รุ่นนี้ประหยัดน้อยที่สุด แต่ก็มีความทนทานและเชื่อถือได้ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก

ปัญหาทั่วไปและคำแนะนำในการบำรุงรักษา


nissan x trail มือสองมักเจอปัญหาไดชาร์จส่งเสียงดัง

ปัญหาระบบเกียร์ CVT

Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ทุกรุ่นมาพร้อมกับอัตโนมัติ X-Tronic CVT จุดเด่นคือการส่งกำลังที่ต่อเนื่อง นุ่มนวล ราบรื่นทุกจังหวะ แต่จุดที่ต้องพิจารณาให้หนักคือรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 2.0 ที่หลายคันเจอปัญหาเรื่องเกียร์ X-Tronic CVT มีอาการกระตุก ขับขี่ไม่ราบเรียบอย่างที่ควรจะเป็น หนักสุดคือปัญหาเกียร์พัง ต้องยกเปลี่ยนใหม่ทั้งลูก นี่ถือเป็นเป็นปัญหาใหญ่ประจำรุ่นที่ยังแก้ไม่จบ หากต้องการซื้อรถมือสองควรเลี่ยง nissan x trail hybrid ไว้จะดีที่สุด

เกียร์ X-Tronic CVT ของ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ยังต้องการการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ ที่สำคัญคือผู้ขับขี่ควรทำความเข้าใจว่าเกียร์ CVT นั้นออกแบบมาเพื่อเน้นความนุ่มนวลในการขับขี่เป็นหลัก จึงไม่เหมาะกับการขับขี่แบบดุดัน กดคันเร่งหนัก ๆ ลากรอบสูง ๆ หรือคิ๊กดาวน์เพื่อเร่งแซงบ่อย ๆ เพราะจะทำให้เกียร์สึกหรอเร็ว เกิดความร้อนสูง จนอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเกียร์พังก่อนวัยอันควร

ปัญหาเกี่ยวกับไฟฟ้า

ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ใน Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าของรถซึ่งมีสาเหตุมาจากขั้วต่อคุณภาพต่ำที่อาจสูญเสียการสัมผัสเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เกิดข้อผิดพลาดทางไฟฟ้า การเปลี่ยนขั้วต่อหรือการบัดกรีสายไฟมักจะแก้ปัญหาได้ นอกจากนี้ควรใส่ใจสายไฟใต้ฝากระโปรง โดยเฉพาะบริเวณกล่องฟิวส์ เนื่องจากข้อผิดพลาดในส่วนนี้อาจทำให้ระบบทำงานผิดปกติได้

ปัญหาไดชาร์จและพัดลม

X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 หลายคันที่ใช้ขับไปประมาณ 100,000 – 150,000 กิโลเมตร เจอปัญหาไดชาร์จส่งเสียงดัง ซึ่งบ่งบอกว่าถึงเวลาต้องซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่แล้ว นอกจากนี้บางคันเจอปัญหาพัดลมระบายความร้อนหยุดทำงาน ซึ่งควรต้องได้รับการซ่อมบำรุงอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันเครื่องยนต์เสียหาย

บทสรุป: Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 น่าซื้อหรือไม่?


x trail มือสองเหมาะทั้งใช้งานในเมืองและลุยถนนลูกรัง

Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 (T32) อาจไม่ใช่รถที่ดึงดูดทุกสายตาในลานจอด และก็ไม่ใช่รถที่มากับเทคโนโลยีล้ำยุคหรือดีไซน์สุดล้ำเหมือน Crossover ไฟฟ้าจากจีนในยุคนี้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความสมดุล X-Trail คือ Crossover SUV ที่คุณพึ่งพาได้ทั้งการขับขี่ปกติในเมือง เดินทางออกต่างจังหวัดพาครอบครัวไปเที่ยว หรือแม้แต่ลากสัมภาระขึ้นเขาในช่วงวันหยุดยาว มันอาจไม่โดดเด่นในเรื่องความแรงหรือความหรูหรา แต่ก็ให้ความมั่นใจได้ดีบนถนนทุกขรุขระ และผ่านการพิสูจน์แล้วว่าทนทานกับการใช้งานจริง

เมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ ๆ ที่ให้ออปชันและอุปกรณ์มาเยอะเต็มคัน X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องความทนทานในระยะยาวและความน่าเชื่อถือในด้านคุณภาพตามมาตรฐานรถญี่ปุ่น ทำให้มันยังเป็นตัวเลือกที่น่าคบ หากคุณให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือมากกว่าฟีเจอร์หวือหวา

จุดเด่นที่น่าชื่นชม

  • ภายในกว้าง: ห้องโดยสารของ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ค่อนข้างกว้างขวางและโปร่งสบาย นั่งได้เต็ม 5 คนแบบไม่เบียด และมีพื้นที่เก็บของด้านหลังขนาดใหญ่
  • ช่วงล่างยกสูงพอดี: ระยะห่างจากพื้นรถกำลังดี ทำให้ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ใช้งานได้ทั้งในเมืองและลุยบนถนนลูกรังหรือเส้นทางขรุขระที่มีน้ำขังได้อย่างสบายใจ
  • ค่าอะไหล่ไม่โหด: อะไหล่ของ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 หาไม่ยากและราคาค่อนข้างมิตร เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน
  • โครงสร้างตัวถังทนสนิม: แม้จะมีบางจุดที่ต้องระวัง แต่โดยรวมโครงสร้างของ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 มีความทนทานพอสมควรและเชื่อถือได้
  • เครื่องยนต์ดูแลง่าย: X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 รุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาทั้ง 2.0 และ 2.5 ลิตร ค่อนข้างมีความน่าเชื่อถือ ทนทาน ดูแลง่าย นอกจากนี้ยังมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีโหมดออฟโรดให้เล่นสนุก ๆ มันถูกพิสูจน์แล้วว่าแข็งแกร่งและใช้งานได้จริง

ข้อจำกัดที่ไม่ควรมองข้าม

  • เกียร์ CVT ต้องการการดูแล: เกียร์ CVT ของ X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 ไม่ได้แย่แต่ต้องการดูแลที่ดีเป็นพิเศษ ต้องเปลี่ยนน้ำมันตามระยะ และควรหลีกเลี่ยงการขับขี่แบบดุดัน
  • การป้องกันเสียงรบกวน: เสียงลมและเสียงจากพื้นถนนยังแทรกเข้ามาในห้องโดยสารชัดเจนกว่าที่ควร
  • วัสดุภายในไม่หรู: X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 รุ่นเริ่มต้นใช้วัสดุพื้นฐานที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างธรรมดา
  • ปัญหาไฟฟ้าเล็กๆ น้อยๆ: โดยเฉพาะในรุ่นปีแรก ๆ อาทิ ปุ่มควบคุมหรือระบบเซนเซอร์บางอย่างรวนเป็นครั้งคราว

แล้วควรซื้อไหม?

ถ้าคุณมองหา Crossover SUV ไซซ์กลางสำหรับใช้งานในครอบครัว เน้นความเรียบง่ายที่ใช้งานได้จริงมากกว่าโชว์ความหรูหรา Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 คือคำตอบที่คุ้มค่า รถรุ่นนี้ให้ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ และด้วยราคามือสองที่อยู่ในช่วง 3 แสนปลาย – 7 แสน ถือว่าไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับคุณภาพของตัวรถ นอกจากนี้ในตลาดรถมือสองก็ยังมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ คุณสามารถหา X-Trial เจเนอเรชันที่ 3 ปีใหม่ ๆ สภาพดี ๆ ได้ไม่ยาก

สิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อมือสอง

  • ตรวจสอบสภาพของเกียร์ CVT ให้ละเอียด ดูคันที่ไม่มีประวัติเรื่องการซ่อมเกียร์
  • ตรวจหาจุดสนิม โดยเฉพาะที่ขอบประตู รอยต่อ และใต้แผงพลาสติก
  • ตรวจสอบช่วงล่างและเพลาขับว่ามีเสียงดังหรือรอยรั่วหรือไม่
  • ดูประวัติการบำรุงรักษา และถ้าเป็นไปได้ พาช่างที่มีประสบการณ์ไปดูรถด้วย

หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 จะเป็นรถที่ไว้ใจได้และใช้งานได้ดีไปอีกหลายปี ถ้าคุณมองหา Crossover SUV แบรนด์ญี่ปุ่นที่ยังอายุไม่เก่ามาก เชื่อถือได้ ขับขี่ดี ภายในกว้าง มีระบบความปลอดภัยเยอะ ดูแลง่าย มีอะไหล่ซัพพอร์ตและราคาไม่สูงเกินไป X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ในตอนนี้

ค้นหา nissan x trail มือสอง เจน 3 (ปี 2013-2021) ที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่

เรารวบรวมประกาศขายจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เปรียบเทียบราคา ดูประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ

x trail มือสองมากมายรอคุณอยู่ที่นี่ → ค้นหา nissan x trail มือสอง

  • กรุงเทพมหานคร, 500 km
  • ยี่ห้อ: Nissan
  • รุ่น: X-Trail
  • ปี: 2014-2021
  • แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod






Nissan X-Trail เจน 3 มือสอง– รถsuv คุ้มค่า ขับสบายเหมาะสำหรับคนหารถครอบครัว