Mazda CX8 มือสอง : SUV 3 แถวที่คุ้มค่า นั่งสบายทั้งบ้าน

mazda cx8 ดูหรูหราและทันสมัยกว่ารถครอบครัวทั่วไป

Mazda CX-8 คือหนึ่งในรถ Crossover SUV ขนาดกลางที่ได้รับความสนใจไม่น้อยในตลาดเมืองไทย นับตั้งแต่เปิดตัวก็เรียกสายตาได้ทันทีด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว และกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ KODO Design เส้นสายบนตัวถังที่เฉียบคมประกอบกับสัดส่วนที่ลงตัว ทำให้ mazda cx8 ดูหรูหราและทันสมัยกว่ารถครอบครัวทั่วไป

จุดเด่นสำคัญของ CX-8 คือการเป็นรถแบบ 7 ที่นั่งที่ผสมผสานความอเนกประสงค์เข้ากับอารมณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน ซึ่งถือเป็นจุดขายหลักของแบรนด์ Mazda แม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ CX-8 ก็ยังคงให้ความรู้สึกคล่องตัวและตอบสนองได้ดีเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย ต่างจาก Crossover SUV หลายรุ่นที่มักรู้สึกเทอะทะหรือเฉื่อยชากว่า

แม้ CX-8 จะไม่ใช่ชื่อแรกที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงรถครอบครัวในกลุ่มนี้ เพราะต้องแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner หรือ Honda CR-V แต่ในแง่ของความคุ้มค่า CX-8 กลับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะในตลาดรถมือสองของไทยที่รุ่นนี้เริ่มมีให้เลือกมากขึ้นในราคาที่จับต้องได้

ด้วยดีไซน์ที่ยังไม่ตกยุค คุณภาพวัสดุภายในที่ใกล้เคียงรถยุโรป และระบบอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัย i-Activsense หรือห้องโดยสารที่เงียบสบาย CX-8 จึงเหมาะทั้งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล

ในแง่ความน่าเชื่อถือ มาสด้ามีชื่อเสียงมายาวนานในเรื่องคุณภาพการประกอบและความทนทานของเครื่องยนต์ แต่เช่นเดียวกับรถทุกคัน CX-8 ก็มีบางจุดที่ควรใส่ใจ เช่น การดูแลระบบช่วงล่างและเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งถ้าได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมก็สามารถใช้งานได้ยาวนานไม่มีปัญหา

สำหรับใครที่กำลังมองหารถ SUV มือสองที่ให้ทั้งความหรูหรา ความอเนกประสงค์ และการขับขี่ที่ดีเยี่ยม Mazda CX-8 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ควรอยู่ในลิสต์ของคุณอย่างแน่นอน ทั้งยังมาพร้อมความคุ้มค่าที่อาจทำให้คุณประหลาดใจเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกจุดเด่น ข้อดี-ข้อเสีย และปัญหาที่พบ พร้อมข้อควรรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษา และเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้ Mazda CX-8 ของคุณอยู่ในสภาพดีที่สุดไปอีกหลายปีข้างหน้า

มาสด้า cx8 ดีไซน์ภายนอกที่สะกดทุกสายตา

มาสด้า cx8 ออกแบบให้รถดูเคลื่อนไหวแม้จอดนิ่ง

Mazda CX-8 โดดเด่นทันทีตั้งแต่แรกเห็นด้วยรูปลักษณ์ที่สะท้อนความหรูหราและความสปอร์ตในแบบเดียวกัน ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้า Signature Wing ขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mazda ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ “KODO: Soul of Motion” ซึ่งเน้นเส้นสายที่ให้ความรู้สึกเหมือนรถกำลังเคลื่อนไหวตลอดเวลา แม้จะจอดอยู่กับที่ก็ตาม

ไฟหน้า LED ทรงเพรียวเฉียบช่วยเสริมบุคลิกให้ดูทันสมัยและเฉียบคม พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ตัวถังถูกออกแบบให้มีสัดส่วนที่สมดุล เน้นความลื่นไหลและสง่างาม เสริมด้วยซุ้มล้อขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงความพร้อมลุยในทุกสถานการณ์

มาสด้า cx8 เวอร์ชันไทยมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วที่เติมเต็มลุคพรีเมียมอย่างลงตัว โดยรวมแล้ว ดีไซน์ของ CX-8 ให้ภาพลักษณ์ที่ “เกินราคา” เมื่อเทียบกับ SUV ในกลุ่มเดียวกัน

CX8 ภายในหรูหรา ใช้งานได้จริง

CX8 ภายในใช้วัสดุหนังคุณภาพดี

เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสารของ Mazda CX-8 สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือบรรยากาศที่หรูหราและใส่ใจในรายละเอียด การจัดวางแผงคอนโซลหน้าเรียบง่ายแต่มีดีไซน์ พร้อมวัสดุคุณภาพดี เช่น หนังบุนุ่มบริเวณที่วางแขนและวัสดุตกแต่งแบบไม้หรือเมทัลลิก ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

ภายในมีให้เลือกทั้งแบบเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง (เบาะ 2-3-2) และเบาะ 3 แถว 6 ที่นั่ง (เบาะ 2-2-2 พร้อมเบาะกัปตันในแถวที่สอง) ซึ่งเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการความสะดวกและความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะในรุ่นเบาะกัปตันที่มีคอนโซลกลาง พร้อมที่เก็บของและที่วางแก้วแบบจัดเต็ม การเข้าถึงแถวที่สามก็ทำได้สะดวก

เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบระบายอากาศ (ในบางรุ่น) เพิ่มความสบายสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ขณะที่ห้องโดยสารเงียบเป็นพิเศษด้วยการเก็บเสียงที่ดีเยี่ยม ทำให้ cx8 เป็นรถครอบครัวที่เหมาะสำหรับการเดินทางไกลอย่างแท้จริง

เทคโนโลยีครบครัน ใช้งานง่าย

ระบบอินโฟเทนเมนต์ของ CX-8 ในรุ่นก่อนปรับโฉมมาพร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว และในรุ่นโฉมใหม่ได้อัปเกรดเป็นหน้าจอ 8 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านระบบ MZD Connect การควบคุมหน้าจอทำได้ผ่านปุ่มหมุนบนคอนโซลกลางที่ใช้งานง่ายในระหว่างขับรถ

หน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบกึ่งดิจิทัล พร้อมจอแสดงข้อมูลที่อ่านค่าได้ชัดเจน แสดงข้อมูลสำคัญ เช่น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ระบบช่วยขับขี่ หรือทิศทางจากระบบนำทางได้ครบครัน

โดยรวมแล้ว Mazda CX-8 เป็นรถ SUV ที่ออกแบบได้ลงตัวทั้งภายนอกและภายใน มีความหรูหราในแบบไม่โอ้อวด ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่เพียงพอสำหรับคนยุคใหม่ ซึ่งทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดรถ Crossover SUV ขนาดกลาง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถครอบครัวที่มีสไตล์และคุณภาพเหนือชั้นในราคาที่จับต้องได้

ตัวเลือกเครื่องยนต์ของ Mazda CX-8 ในประเทศไทย

Mazda CX-8 มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน

Mazda CX-8 ทำตลาดประเทศไทยประเทศไทย 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซิน Skyactiv-G 2.5 ลิตร และดีเซล Skyactiv-D 2.2 ลิตร เทอร์โบ แต่ละเครื่องยนต์มีจุดเด่นและปัญหาดังนี้

เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.5 ลิตร

Mazda CX-8 เครื่องยนต์เบนซินมีตัวเลือกในตลาด 3 รุ่นย่อย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 2.5 ลิตร ไม่มีเทอร์โบ ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection พร้อมระบบแปรผันวาล์วคู่ Dual S-VT ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 258 นิวตันเมตร

เครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 2.5 ลิตรได้พิสูจน์แล้วว่ามีความน่าเชื่อถือตั้งแต่เปิดตัว บล็อกเครื่องยนต์ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม และใช้โซ่ไทม์มิ่งที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้นานถึง 200,000 กม. โดยไม่ต้องเปลี่ยน ซึ่งช่วยลดความต้องการในการบำรุงรักษาอย่างมาก นอกจากนี้เครื่องยนต์ทำงานด้วยอัตราส่วนการอัด 13.0 : 1 สร้างสมรรถนะและประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยม ขณะเดียวกันก็ยังทำงานราบเรียบ นุ่มนวล และยังบำรุงรักษาง่าย

ข้อเสียหลัก ๆ ของเครื่องยนต์เบนซินรุ่นนี้คือค่อนข้างกินน้ำมัน โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่สภาพการจราจรติดขัดจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนที่สุด

เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 2.2 ลิตร

Mazda CX-8 เครื่องยนต์ดีเซลมีตัวเลือกในตลาด 2 รุ่นย่อย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 2.2 ลิตร พ่วงเทอร์โบ จ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection ผ่านราง Commonrail พร้อมระบบแปรผันวาล์วฝั่งไอเสีย VVT ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร

เครื่องยนต์ดีเซลของ Mazda CX-8 ได้รับการยอมรับเรื่องพละกำลังและแรงบิดที่ดี ตอบสนองฉับไว รถมีความกระฉับกระเฉงกว่ารุ่นเบนซิน ขณะเดียวกันก็ยังมีอัตราสิ้นเปลืองที่อยู่ในระดับน่าพอใจ แต่ปัญหาของเครื่องยนต์ดีเซลที่เจอกันหลายคันคือปัญหาน้ำดัน ซึ่งต้นตอมาจากการออกแบบเครื่องยนต์จากโรงงาน ปัญหานี้ส่งผลต่อระบบรายความร้อนเครื่องยนต์และอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เสียหายได้

อย่างไรก็ตาม ปัญหาน้ำดันสามารถแก้ได้ และปัจจุบันมีอู่เฉพาะทางมาสด้าที่เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหานี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นถ้าคุณมองหา CX-8 ดีเซลมือสอง อาจต้องเช็กประวัติการซ่อมบำรุงให้ละเอียดและมองหาอู่ซ่อมที่ไว้ใจได้เผื่อไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจ

ความน่าเชื่อถือและการบำรุงรักษาระบบส่งกำลัง

Mazda CX-8 ใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Skyactiv-Drive

Mazda CX-8 ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Skyactiv-Drive ซึ่งโดยรวมถือว่าเป็นระบบส่งกำลังที่เชื่อถือได้และทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว จุดเด่นของเกียร์ลูกนี้คือการผสานความนุ่มนวลของเกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter เข้ากับประสิทธิภาพของเกียร์คลัตช์คู่และเกียร์ธรรมดา ทำให้ทั้งตอบสนองไวและประหยัดน้ำมันได้ดีในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีชื่อเสียงเรื่องความทน แต่การบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่อง "ความร้อน" ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของเกียร์อัตโนมัติ ความร้อนสะสมเกินพิกัดจะเร่งการเสื่อมของน้ำมันเกียร์ ทำให้เกิดการสึกหรอภายในเร็วกว่าปกติ และอาจนำไปสู่ความเสียหายของชุดคลัตช์หรือแบริ่ง

CX-8 ใช้ตัวแลกเปลี่ยนความร้อน (heat exchanger) เพื่อควบคุมอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์ให้คงที่ แนะนำให้ตรวจเช็กหรือเปลี่ยนตัวนี้เมื่อใช้งานถึงระยะประมาณ 100,000 กม. และในบางกรณี เช่น ใช้รถในสภาพการจราจรติดขัดอย่างหนักหรือบรรทุกหนักเป็นประจำ การติดตั้งหม้อน้ำเสริมสำหรับน้ำมันเกียร์ (external ATF cooler) ก็สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบส่งกำลังได้อีกมาก

ส่วนหนึ่งที่ควรจับตาคือแบริ่งรองรับตรงกลางของเพลาขับและชุดคลัตช์ภายในที่อาจเกิดการสึกหรอภายใต้โหลดสูงหรือการขับขี่ที่ใช้กำลังมาก เช่น การเร่งแซงบ่อยครั้งหรือขับในทางชัน หากมีเสียงผิดปกติหรืออาการสั่นในช่วงเปลี่ยนเกียร์ อาจเป็นสัญญาณให้ควรตรวจสอบ

การดูแลรักษาน้ำมันเกียร์ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ โดยแม้ Mazda จะไม่ได้กำหนดระยะเวลาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อย่างชัดเจน แต่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการยืดอายุเกียร์ให้นานที่สุด แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 50,000 กิโลเมตร โดยใช้น้ำมันเกียร์ชนิด FZ (Mazda ATF-FZ) ประมาณ 4 – 5 ลิตรต่อครั้ง และควรเปิดอ่างน้ำมันเกียร์เพื่อล้างทำความสะอาดเต็มระบบ รวมถึงเปลี่ยนไส้กรองเกียร์ทุก 100,000 กม. หรือทุก 2 ครั้งของการเปลี่ยนน้ำมัน

การดูแลเกียร์ของ CX-8 ไม่ได้ยุ่งยากเกินไป แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ หากใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ รถของคุณจะยังคงเปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นไหลและให้ความมั่นใจในการขับขี่ไปได้อีกนานหลายแสนกิโลเมตร

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

mazda cx8 รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อใช้ระบบแบบ on-demand

Mazda CX-8 รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ใช้ระบบแบบ on-demand ที่อาศัยคลัตช์แม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งกำลังไปยังล้อหลังเมื่อจำเป็น ภายใต้สภาพการขับขี่ปกติรถจะใช้ล้อหน้าในการขับเคลื่อนเป็นหลักเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน แต่หากตรวจพบการลื่นไถลหรือสถานการณ์ที่ต้องการแรงยึดเกาะเพิ่ม เช่น ขึ้นทางลาดชันหรือขับบนถนนเปียก ระบบจะสั่งให้คลัตช์เชื่อมต่อเพลาหลังทันทีโดยอัตโนมัติ เพื่อกระจายแรงบิดและเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่

ระบบนี้ทำงานได้ดีและแทบไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนโหมด แต่เมื่อใช้งานไปถึงระยะ 100,000 กม. ขึ้นไป อาจเริ่มมีเสียงผิดปกติจากคลัตช์แม่เหล็กไฟฟ้า สาเหตุมักเกิดจากแบริ่งภายในเริ่มสึกหรอเนื่องจากจาระบีแห้งและปนเปื้อนอนุภาคจากการเสียดสีของชุดคลัตช์ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้แม้รถจะไม่เคยลุยหนัก

อีกปัญหาที่พบได้ในรถใช้แล้วคือน้ำรั่วเข้าสู่ชุดคลัตช์ซึ่งเกิดจากการออกแบบท่อระบายน้ำของคลัตช์ด้านขวา ที่เชื่อมกับห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง หากห้องสัมภาระมีน้ำเข้า—ไม่ว่าจะจากการรั่ว หกน้ำ หรือฝนตก—น้ำอาจไหลย้อนเข้าคลัตช์ได้โดยตรง นอกจากนี้ ยังมีช่องระบายอากาศของเฟืองท้ายที่หากรถจอดในน้ำลึกเป็นเวลานาน อาจดูดน้ำเข้าไปจนทำให้ภายในเกิดความเสียหายได้เช่นกัน

ถ้าแผงหน้าปัดแสดงไฟแจ้งเตือนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อาจเกิดจากสายไฟของโซลินอยด์คลัตช์ขาด มักจะขาดที่โคนสาย ถึงแม้จะฟังดูร้ายแรงแต่จริง ๆ แล้วสามารถซ่อมแซมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนยกชุด

ในส่วนของเฟืองท้ายหลังหากได้ยินเสียงหอนหรือครางอาจเป็นสัญญาณของแบริ่งที่เริ่มสึกหรอ โดยทั่วไปจะมีแบริ่งทั้งหมด 4 ตัวในเฟืองท้าย คือ 2 ตัวสำหรับเพลาขาเข้า และอีก 2 ตัวสำหรับเฟืองขับ แบริ่งที่ติดรถมาเดิมเป็นแบบลูกปืน (ball bearing) ซึ่งอาจมีอายุการใช้งานน้อยกว่าแบบลูกกลิ้ง (roller bearing) หากต้องถอดซ่อม ควรพิจารณาอัปเกรดไปใช้แบริ่งลูกกลิ้งคุณภาพสูง เพื่อความทนทานในระยะยาว

อีกแนวทางที่ช่วยยืดอายุระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเฟืองท้ายได้ดีคือการเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้ายทั้งด้านหน้าและหลังเป็นระยะ โดยใช้น้ำมัน Mazda SG1 ประมาณ 1 ลิตร ซึ่งเพียงพอต่อการเปลี่ยนในทั้งสองจุด การดูแลระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ CX-8 ไม่ได้ยุ่งยาก แต่หากใส่ใจสักนิด จะช่วยให้ระบบนี้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพไปอีกนานหลายปี

ข้อพิจารณาระบบเบรก

แม้ Mazda CX-8 จะเป็นรถครอบครัวที่ให้ความสบายในการขับขี่ แต่บางคันอาจเจอปัญหาเกี่ยวกับจานดิสก์เบรกบิดเบี้ยว โดยเฉพาะหากมีการเบรกอย่างหนักขณะขับด้วยความเร็วสูงบ่อย ๆ เช่น บนทางด่วน หรือในสถานการณ์เบรกกะทันหันต่อเนื่อง จานเบรกอาจเสียรูปจนทำให้พวงมาลัยสั่นขณะเบรก หรือเกิดเสียงผิดปกติ สาเหตุมาจากจานเบรกเดิมของรถค่อนข้างมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถและกำลังเครื่องยนต์ ซึ่งอาจมีความทนทานต่อความร้อนไม่มากพอ

ทางแก้ของผู้ใช้หลายคนคืออัปเกรดจานเบรกให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น ทนความร้อนดีขึ้น และมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนดีกว่า ตัวเลือกเหล่านี้ช่วยลดโอกาสจานเบรกบิดเบี้ยว โดยเฉพาะในสภาพใช้งานหนัก สำหรับสายขับสนุก CX-8 ยังสามารถอัปเกรดคาลิเปอร์เบรกเป็นแบบ 6 ลูกสูบ ซึ่งช่วยให้เบรกมั่นคงและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น แม้ขับด้วยน้ำหนักบรรทุกมากหรือในทางลาดชัน

ความทนทานของระบบช่วงล่าง

Mazda CX-8 ใช้ระบบช่วงล่างที่แข็งแรงและออกแบบมาให้รับน้ำหนักตัวรถที่มากกว่ารุ่น CX-5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม น้ำหนักตัวที่มากนี้ก็ส่งผลให้ชิ้นส่วนช่วงล่างสึกหรอเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะถ้าขับบนถนนที่ไม่เรียบหรือใช้งานบ่อยในเมืองที่มีการเบรกสลับเร่งอยู่บ่อย ๆ

ลูกหมากและบูชของแขนควบคุมหน้ามีแนวโน้มเสื่อมสภาพหลังจากใช้งานไป 60,000 – 100,000 กม. ซึ่งสามารถเปลี่ยนเฉพาะลูกหมากหรือบูชได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแขนทั้งชิ้น ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตภายนอกมีราคาเพียงประมาณหนึ่งในสามของของแท้

ลิงก์กันโคลงด้านหน้ามีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ 60,000 กม. หากเริ่มมีเสียงกุกกักขณะขับบนถนนขรุขระ ควรตรวจสอบทันที

สำหรับช่วงล่างด้านหลัง CX-8 ใช้ระบบมัลติลิงก์แบบ 4 แขน ซึ่งบูชของแขนวิชโบนด้านบนสามารถเปลี่ยนแยกได้ ส่วนแขนตามยาว (trailing arm) จะมาเป็นชุดประกอบทั้งชิ้น หากเสียหายต้องเปลี่ยนยกชิ้น

แบริ่งดุมล้อ (wheel hub bearing) ของ CX-8 เป็นอีกจุดที่ควรใส่ใจเพราะไม่มีอะไหล่เทียบเป็นทางเลือก โดยเฉพาะแบริ่งดุมล้อหน้าที่มีราคาสูงกว่าด้านหลัง และมักเริ่มมีเสียงรบกวนหรืออาการสั่นเมื่อถึงระยะราว ๆ 100,000 กม. โดยเฉพาะในรถที่ขับความเร็วสูงเป็นประจำ

โดยรวมแล้ว ระบบเบรกและช่วงล่างของ CX-8 ถือว่าออกแบบมาสำหรับการใช้งานจริงจังและรองรับครอบครัวใหญ่ได้ดี แต่หากใช้งานหนักหรือมีแผนจะซื้อรถมือสอง การตรวจสอบจุดเหล่านี้ก่อนซื้อและบำรุงรักษาให้เหมาะสม จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้มาก

อุปกรณ์ความปลอดภัย

Mazda CX-8 เวอร์ชันไทยมาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูงที่ครบครันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ประกอบด้วย

1. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go

2. ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ

3. ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนและระบบควบคุมให้รถอยู่ในเลน

4. ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา

5. ระบบเตือนการจราจรและช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง

6. ระบบแจ้งเตือนสมาธิผู้ขับขี่

7. ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ

รุ่นที่มีอุปกรณ์ตกแต่งระดับสูงมีเซนเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง, กล้อง 360 องศา ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นข้อพิจารณาด้านความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับผู้ซื้อที่เป็นครอบครัว

พื้นที่ภายในที่ใช้งานได้จริง

Mazda CX-8 มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและยืดหยุ่น เหมาะกับครอบครัวหรือผู้ที่ต้องการใช้งานแบบหลากหลาย ด้วยการจัดวางเบาะแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสารได้ 6 หรือ 7 คน ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและรูปแบบเบาะที่เลือก

ในรุ่นเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่งจะมีเบาะแถวกลางแบบยาวที่รองรับผู้โดยสารได้ 3 คน ส่วนรุ่นเบาะ 3 แถว 6 ที่นั่งจะได้เบาะแถวสองแบบกัปตันแยกสองฝั่ง พร้อมช่องทางเดินตรงกลางที่ช่วยให้เข้า-ออกเบาะแถวสามได้สะดวกยิ่งขึ้น การเลือกแบบกัปตันยังให้บรรยากาศที่หรูหรากว่า เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสบายในการเดินทาง

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายของ CX-8 อยู่ที่ประมาณ 209 ลิตรเมื่อยังไม่ได้พับเบาะแถวสาม ซึ่งเพียงพอสำหรับกระเป๋าเดินทางขนาดกลาง 2 ใบ หรือของใช้ประจำวันสำหรับครอบครัว หากต้องการพื้นที่เพิ่มเบาะแถวสามสามารถพับราบลงแบบ 50:50 ได้ ทำให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระมากพอสำหรับสัมภาระชิ้นใหญ่ เช่น รถเข็นเด็ก หรืออุปกรณ์แคมป์ปิ้ง

แม้จะเป็นรถ Crossover SUV ขนาดกลาง แต่ CX-8 ก็ออกแบบพื้นที่เบาะแถวสามได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ผู้ใหญ่ขนาดตัวมาตรฐานสามารถนั่งเบาะแถวสามได้ในการเดินทางระยะสั้น ๆ โดยไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป เบาะรองนั่งสูงพอที่จะไม่ดันเข่าจนชัน และมีพื้นที่ศีรษะพอสมควร

mazda cx8 ราคามือสองคุ้มค่าจับต้องได้

บทสรุป: Mazda CX-8 ตัวเลือก Crossover SUV สำหรับครอบครัวที่คุ้มค่า

Mazda CX-8 ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าและน่าจับตามองสำหรับคนที่กำลังมองหา Crossover SUV เบาะ 3 แถวที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องดีไซน์ ความสะดวกสบาย และสมรรถนะในการขับขี่ จุดเด่นของ CX-8 คือการผสมผสานระหว่างความหรูหราแบบพรีเมียม การออกแบบภายในที่ใช้งานได้จริง และเครื่องยนต์กับระบบส่งกำลังที่เชื่อถือได้ แม้จะมีรายละเอียดบางจุดที่ควรดูแลอย่างสม่ำเสมอ เช่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือระบบส่งกำลัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากหากเจ้าของรถใส่ใจในการบำรุงรักษา

สำหรับตลาดรถมือสองในไทย CX-8 เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยราคาที่ลดลงจนเข้าถึงง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับตอนเปิดตัวใหม่ ผนวกกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ Mazda ที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์ ความสปอร์ต ความพรีเมียม และสมรรถนะการควบคุมของรถ ทำให้ CX-8 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้รถครอบครัว 7 ที่นั่งที่เพียบพร้อมทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความสนุกในการขับขี่

หากคุณกำลังมองหารถครอบครัวที่ไม่จืดชืดเหมือนรถครอบครัวทั่วไป Mazda CX-8 คือคำตอบที่ควรอยู่ในลิสต์ เพราะมันไม่ได้แค่พาคุณจากจุด A ไป B แต่ยังทำให้ทุกการเดินทางมีสไตล์ และยังคงคุณภาพการใช้งานที่มั่นใจได้ในระยะยาว

เคล็ดลับการดูแลรักษา Mazda CX-8 สำหรับเจ้าของรถ

หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์ Mazda CX-8 หรือกำลังพิจารณาจะเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ และลดปัญหาจุกจิกในระยะยาวได้มาก ต่อไปนี้คือเคล็ดลับสำคัญที่ควรรู้

  • ติดฟิล์มใสกันรอยบริเวณหน้ารถ: เช่นกันชน ฝากระโปรง และกระจกมองข้าง เพื่อป้องกันรอยชิปจากเศษหิน โดยเฉพาะหากขับทางไกลหรือใช้งานบนถนนที่มีกรวดบ่อย
  • เปลี่ยนตัวแลกเปลี่ยนความร้อนของเกียร์ (heat exchanger): ประมาณทุก 100,000 กม. เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความร้อนสะสมที่อาจลดอายุเกียร์
  • เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 50,000 กม.: โดยใช้น้ำมันเกรดที่เหมาะสมกับ Mazda เช่น FZ เพื่อคงความลื่นไหลของระบบส่งกำลัง
  • อัปเกรดดิสก์เบรก: โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้งานหนักหรือขับขี่ในทางลาดชันบ่อย ดิสก์เบรกประสิทธิภาพสูงหรือแบรนด์ Aftermarket คุณภาพดีจะช่วยต้านความร้อนได้ดีกว่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกและช่วยให้ขับขี่มั่นใจมากขึ้น
  • ตรวจเช็กระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD): โดยเฉพาะในส่วนของเฟืองท้ายและคลัตช์แม่เหล็กไฟฟ้า หากมีคราบน้ำหรือเสียงผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของน้ำรั่วเข้า ซึ่งควรรีบแก้ไข
  • หมั่นตรวจสอบระบบช่วงล่าง: เช่น ลูกหมาก บูช และแบริ่งดุมล้อ ระหว่างการเข้าศูนย์ตามระยะ เพราะรถมีน้ำหนักมาก อาจเกิดการสึกหรอเร็วกว่ารถขนาดเล็ก
  • อัปเดตซอฟต์แวร์ระบบ MZD Connect อย่างสม่ำเสมอ: เพื่อเพิ่มความเสถียร ฟีเจอร์ใหม่ และความเข้ากันได้กับสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด

หากคุณใส่ใจรายละเอียดเหล่านี้และเข้ารับการบริการตามระยะอย่างสม่ำเสมอ Mazda CX-8 จะเป็นรถคู่ใจที่พร้อมลุยไปกับคุณได้อีกนาน ทั้งในแง่ความสบาย ความปลอดภัย และความมั่นใจในการใช้งานทุกวัน

ค้นหา Mazda cx-8 มือสองที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่

เรารวบรวมประกาศขายจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

Mazda cx-8 ได้ง่ายๆ เราเปรียบเทียบราคา ดูประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ

เช็ค mazda cx8 ราคามือสองในไทยได้ที่นี่ → mazda cx8 มือสอง

  • กรุงเทพมหานคร, 500 km
  • ยี่ห้อ: Mazda
  • รุ่น: CX-8
  • แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod