Mazda3 รุ่นแรกมือสอง – ใช้งานจริงเป็นยังไง? คุ้มไหมในปีนี้

ช่วงต้นทศวรรษ 2000 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญครั้งหนึ่งของวงการยานยนต์ทั่วโลก Mazda ในตอนนั้นมีรถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่น 323 ทำตลาดอยู่ แต่ทางแบรนด์รู้ดีว่าเก๋งเล็กรุ่นนี้ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นหรือความจดจำมากนัก นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัว มาสด้า3 เจเนอเรชันแรก
mazda3 เจเนอเรชันที่ 1 ได้ชื่อรหัสตัวถังว่า BK เข้ามาทำตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กแทนที่ Mazda 323 มันถูกออกแบบมาเพื่อเจาะกลุ่มผู้ขับขี่วัยหนุ่มสาวที่มองหาความสนุก ความคล่องตัว และรูปลักษณ์ที่โดดเด่น Mazda 3 BK ได้ชื่อว่าเป็นรถที่มีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากชื่นชอบ แม้ว่าจะมากับเครื่องยนต์แบบธรรมดาที่ไม่มีระบบอัดอากาศ ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter ดั้งเดิม และมีภายในห้องโดยสารที่เรียบง่าย แต่สิ่งที่มาสด้า3 ทำได้ดีคือความน่าเชื่อถือ ดูแลรักษาง่าย และการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ
Mazda 3 BK เป็นรถที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันและผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นรถที่อึด ถึก ทน ไม่แพ้คู่แข่งร่วมรุ่น ในตลาดรถมือสองปัจจุบันก็ยังสามารถพบ Mazda 3 BK ที่วิ่งไปแล้วกว่า 150,000 กิโลเมตรในสภาพใหม่เอี่ยม อย่างไรก็ตาม รถที่มีอายุมากเกือบ 20 ปีย่อมมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามมาเสมอ บทความนี้จะมาเจาะลึกว่า Mazda 3 BK มีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง ควรสังเกตอะไรหากคิดจะซื้อมือสอง รวมถึงปัญหาที่พบบ่อย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่า Mazda 3 คันนี้เหมาะจะเป็นคู่ใจของคุณหรือไม่

ตัวถังภายนอกของมาสด้า3 เจเนอเรชันที่ 1
Mazda 3 BK มีทั้งตัวแบบซีดาน 4 ประตู และตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ทั้งสองรูปแบบตัวถังมีดีไซน์ด้านหน้ารถและท้ายรถที่แทบจะเหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากในยุคที่มันเปิดตัว และเป็นทางเลือกให้ผู้ซื้อได้ตัดสินใจตามความชอบ ถึงแม้ Mazda 3 BK จะมีเส้นสายที่ดูสปอร์ต ทันสมัย และได้รับคำชมเรื่องดีไซน์ไปไม่น้อย แต่เมื่อรถมีอายุมากขึ้น หลายคันเจอปัญหาเกี่ยวกับตัวถัง
ปัญหาเกี่ยวกับสนิมบนตัวถัง
Mazda 3 BK หลายคันมักเจอปัญหาสนิมที่ตัวถังโดยเฉพาะรถที่มีอายุใช้งานเกิน 15 ปี สะท้อนให้เห็นว่าตัวถังของ Mazda 3 ค่อนข้างเปราะบางต่อความชื้นและการกัดกร่อน โดยบริเวณที่มักเกิดสนิมและควรตรวจสอบเป็นพิเศษ ได้แก่
- ซุ้มล้อทั้งหน้าและหลัง (โดยเฉพาะด้านในที่โคลนสะสม)
- ขอบประตู โดยเฉพาะส่วนล่างที่น้ำมักจะขัง
- ขอบล่างของประตู (สเกิร์ตข้าง) ซึ่งมักมีคราบดินหรือเศษทรายสะสม
- พื้นตัวถังด้านล่าง โดยเฉพาะบริเวณใต้พรมปูพื้น ซึ่งความชื้นสามารถสะสมได้ง่ายหากพรมเปียก
- ช่องใส่ยางอะไหล่ด้านท้าย ซึ่งมักจะมีน้ำซึมเข้าโดยไม่รู้ตัว
- ซับเฟรม หรือโครงสร้างรองด้านล่างของรถที่รับน้ำหนักจากเครื่องยนต์และช่วงล่าง
นอกจากนี้ยังมีจุดที่มักเกิดการกัดกร่อนจากด้านในซึ่งอันตรายกว่า เพราะเมื่อแผงตัวถังด้านในเริ่มขึ้นสนิมโดยที่มองไม่เห็นจากภายนอกก็อาจนำไปสู่การผุกร่อนจนเกิดรูรั่ว เช่น บริเวณจุดยึดบานประตูหรือซุ้มล้อ ซึ่งเป็นจุดที่ต้องรับแรงสั่นสะเทือนบ่อยครั้ง
ปัญหาที่ชั้นวางด้านหลังและเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด
ผู้ใช้มาสด้า 3 ตัวถังซีดานหลายคนพบปัญหาเสียงดัง "เอี๊ยดอ๊าด" รบกวนจากด้านท้ายห้องโดยสารเมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง โดยเสียงมักจะมาจากบริเวณชั้นวางของด้านหลัง ซึ่งเป็นจุดที่แผงเหล็กค่อนข้างบางและมีรอยต่อต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยเรียบร้อย หากรถผ่านการใช้งานบนถนนขรุขระหรือถูกใช้งานหนัก อาจเกิดการแตกร้าวหรือหลวมตรงจุดยึดพวกนี้ นำไปสู่เสียงรบกวนระหว่างขับขี่ เจ้าของรถสามารถแก้ไขได้ด้วยการขันนอตใหม่หรือเชื่อมจุดที่หลวม แต่หากปล่อยไว้นาน เสียงเหล่านี้อาจลามไปยังส่วนอื่นของตัวถังได้
สำหรับตัวถังแฮทช์แบ็กยังมีปัญหาเฉพาะจุดอีกหนึ่งอย่างคือหลังคาเหนือช่องเก็บสัมภาระด้านท้ายที่สีมักจะหลุดลอกออกจนเห็นชั้นสีรองพื้นด้านล่าง ปัญหานี้เจอได้ในรถที่จอดตากแดดบ่อยหรือมีการใช้สารเคลือบที่ไม่เหมาะสม เมื่อชั้นสีเริ่มหลุดออก ความชื้นและฝุ่นสามารถแทรกตัวเข้าไปทำให้เกิดการกัดกร่อนได้ง่าย และหากปล่อยไว้นานเกินไปก็อาจนำไปสู่การผุกร่อนของแผงหลังคาในที่สุด
เครื่องยนต์ของ มาสด้า 3 รุ่นแรก

สำหรับประเทศไทย Mazda3 เจเนอเรชันที่ 1 ทำตลาดใน 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซิน 1.6 ลิตร 105 แรงม้า และ เบนซิน 2.0 ลิตร 147 แรงม้า ทั้งสองเครื่องยนต์ได้รับการยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพและความทนทาน เป็นเครื่องยนต์ที่ดูแลรักษาง่ายและไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกถ้าบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เรามาดูรายละเอียดของเครื่องยนต์แต่ละรุ่น จุดเด่น-จุดด้อย และข้อควรระวังสำหรับคนที่กำลังมองหา Mazda 3 BK มือสองกัน
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรถือเป็นขนาดเครื่องยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านพละกำลังและความประหยัด เครื่องยนต์บล็อกนี้มีระบบวาล์วแปรผัน S-VT ให้กำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งเพียงพอสำหรับขับขี่ในเมืองและสามารถขับขี่ทางไกลได้อย่างมั่นใจ ข้อดีคือความสมดุลระหว่างพละกำลังและความประหยัด และหากดูแลดี ๆ เครื่องยนต์นี้ถือว่าทนและใช้งานได้นาน
ข้อควรระวังของเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรคือที่รอบเครื่องสูง ๆ อาจมีเสียงดังและแรงสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้น มักเจอปัญหากับเซนเซอร์ออกซิเจนและตัวเร่งปฏิกิริยาในรถที่ใช้งานในเมืองระยะสั้นบ่อย ๆ รุ่นเก่าบางคันอาจมีปัญหาโซ่ราวลิ้นยืด ต้องตรวจสอบหรือเปลี่ยนตามรอบ
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์สำหรับคนที่ชอบความแรงขึ้นมาหน่อย ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที มีระบบวาล์วแปรผัน S-VT และใช้ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า ข้อดีของเครื่องยนต์บล็อกนี้คือให้กำลังแรงม้าและแรงบิดสูง ตอบสนองได้ดี เร่งแซงได้ดี และทำงานนุ่มนวล เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ต้องการสมรรถนะและความมั่นใจบนทางหลวง
ข้อควรระวังของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรคือค่อนข้างกินน้ำมันโดยเฉพาะเวลาขับขี่ในเมือง และอาจเจอปัญหาในระบบไอดี-ไอเสีย แนะนำให้ดูแลเครื่องยนต์อย่างเคร่งครัดและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนดในคู่มืออย่างสม่ำเสมอ
ข้อสรุปเกี่ยวกับเครื่องยนต์ Mazda 3 เจเนอเรชันที่ 1

เมื่อเลือกต้องเครื่องยนต์สำหรับ Mazda 3 BK ควรพิจารณาในด้านพละกำลัง ความประหยัด และการดูแลรักษา เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่บำรุงรักษาง่ายและไม่กินน้ำมันมากนักสำหรับขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ส่วนคนที่ต้องการความกระฉับกระเฉงขึ้นมาหน่อย เครื่องยนต์ 2.0 จะเหมาะกว่าแต่อาจต้องมีการบำรุงรักษาเพิ่มเติมเล็กน้อย
สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาควบคู่กันคืออายุของรถ เลขไมล์ และสภาพเครื่องยนต์ การบำรุงรักษาตามอย่างสม่ำเสมอตามระยะและการใช้งานแบบทะนุถนอมรถจะช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ลงได้
ระบบเกียร์ของ Mazda 3 เจเนอเรชันที่ 1
Mazda 3 BK ที่จำหน่ายในประเทศไทยติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มาเป็นมาตรฐานทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร เกียร์รุ่นนี้มีโหมดเปลี่ยนเกียร์ธรรมดา +/- สำหรับให้ผู้ขับขี่เลือกควบคุมเกียร์ด้วยตัวเอง ถือเป็นเกียร์ที่มีความทนทานและใช้งานได้ดีในภาพรวม ทั้งยังมีกลไกที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ดูแลรักษาง่าย และสามารถใช้งานได้นานหลายแสนกิโลเมตรหากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จุดที่มักเกิดปัญหาคือฝาครอบเกียร์ด้านหลังซึ่งเมื่อสึกหรอจะส่งผลต่อการทำงานของเกียร์ 3 และ 4 หรือมีอาการกระตุกขณะเปลี่ยนเกียร์
ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่ละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์หรือใช้รถในลักษณะที่รุนแรง เช่น กระทืบคันเร่งคิ๊กดาวน์บ่อย ๆ หรือใช้เกียร์แบบลากรอบค้างสูง ๆ บ่อย ๆ อาจทำให้เกียร์เสื่อมเร็วกว่าปกติ
ระบบกันสะเทือนและชิ้นส่วนอื่นๆ
Mazda 3 BK เป็นรถที่มีช่วงล่างแน่นเฟิร์มและไว้ใจได้รุ่นหนึ่งในยุคนั้น โครงสร้างช่วงล่างเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัทด้านหน้า และมัลติลิงก์ด้านหลัง ช่วยให้รถนุ่มนวลและเกาะถนนดี เข้าโค้งมั่นใจ ให้ความรู้สึกคล่องตัวและมั่นใจแม้เวลาขับด้วยความเร็วสูงและเข้าโค้ง จุดเด่นของระบบกันสะเทือนของ Mazda 3 BK คือช่วงล่างเซตมาค่อนข้างแน่นเฟิร์ม ขับสนุก ไม่ย้วย เกาะถนนดีเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นทั่วไปในกลุ่มเดียวกัน และมีเสถียรภาพมั่นคงที่ความเร็วสูง
อย่างไรก็ตาม ระบบกันสะเทือนของ Mazda 3 BK ก็มีจุดที่ต้องระวัง โดยเฉพาะในรถที่ใช้งานมานานหรือไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ปัญหาที่พบเจอได้แน่ ๆ คือการเสื่อมสภาพของอะไหล่ช่วงล่าง เช่น โช้คอัพ สปริง บูชปีกนก บูชกันโคลง รวมถึงอะไหล่เกี่ยวกับระบบบังคับเลี้ยว เช่น เพลาขับ ยางหุ้มเพลาขับ แร็คพวงมาลัย เป็นต้น โดยเฉพาะในรถที่วิ่งมาเกิน 150,000 กิโลเมตรหรือรถที่ขับขี่บนถนนขรุขระบ่อย ๆ หากรถมีเสียงดังกุกกักจากใต้ท้องขณะวิ่งช้า ๆ หรือเสียงดังขณะหักเลี้ยวพวงมาลัย หมายถึงสัญญาณของชิ้นส่วนช่วงล่างที่เริ่มเสื่อมสภาพ สามารถแก้ได้โดยการไล่เช็กช่วงล่างทั้งระบบและเปลี่ยนอะไหล่ตัวที่เสียใหม่
คุ้มหรือไม่ที่จะซื้อ Mazda 3 เจเนอเรชันที่ 1
รถมาสด้า3 BK เป็นรถญี่ปุ่นที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนที่สุดรุ่นหนึ่งในยุคเดียวกันทั้งในเรื่องของดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ และการบังคับควบคุม หากคุณกำลังมองหารถมือสองที่ขับสนุก ดูดีในแบบที่ไม่ตามกระแส และยังใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในงบประมาณไม่เกินหลักแสนกลาง ๆ
รถรุ่นนี้ถูกพัฒนาร่วมกับ Ford แต่ยังคงเอกลักษณ์แบบ Mazda ไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยที่แม่นยำ ฟีลลิ่งช่วงล่างที่แน่นกระชับและหนึบ รวมถึงเครื่องยนต์ที่เชื่อถือได้ ถ้าคุณเป็นคนชอบขับรถ นี่คือรถที่ตอบโจทย์ทั้งอารมณ์และเหตุผล
ข้อดีของ Mazda 3 เจเนอเรชันที่ 1
- สมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม: Mazda 3 BK มีพวงมาลัยคม ช่วงล่างแน่น เกาะถนนดี ให้ฟีลการขับที่มั่นใจทั้งในเมืองและนอกเมือง เหมาะกับคนชอบรถที่ให้ฟีลลิ่งขับดีแบบรถยุโรปแต่ดูแลง่าย ไม่จุกจิก แบบรถญี่ปุ่น
- ห้องโดยสารกว้างขวางและนั่งสบาย: แม้จะเป็นรถคอมแพ็กแต่ภายในของ Mazda 3 รุ่นแรกก็มีความกว้างขวางใช้ได้ พื้นที่ผู้โดยสารด้านหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระถือว่าเพียงพอสำหรับครอบครัวเล็ก ๆ 2 – 3 คน โดยรุ่นตัวถังแฮทช์แบ็กจะให้ความอเนกประสงค์มากขึ้น ขนสัมภาระได้มากขึ้น
- ความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์และเกียร์: เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 และ 2.0 ลิตร ของ Mazda 3 BK ถือว่ามือทนเท้า หากดูแลดี ๆ เปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะ ก็สามารถใช้งานได้อีกหลายปี
- ดีไซน์ที่ยังดูดีแม้ผ่านไปกว่า 20 ปี: เส้นสายภายนอกของ Mazda 3 BK มีความเรียบง่ายแต่แฝงความสปอร์ตอย่างลงตัว เป็นดีไซน์ที่ยังดูไม่ตกยุค แถมภายในห้องโดยสารก็ยังดูเรียบร้อยและไม่เก่าสำหรับรถอายุ 15 – 20 ปี
ข้อเสียที่ควรพิจารณา
- ช่วงล่างแน่นแต่ค่อนข้างแข็ง: หากใช้ในเมืองที่ถนนขรุขระบ่อย ๆ ช่วงล่างของ Mazda 3 BK อาจทำให้รู้สึกกระด้างบ้างบางครั้ง โดยเฉพาะในรุ่นที่ใส่ล้อใหญ่หรือเปลี่ยนโช้คไม่ตรงสเปกเดิม
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เริ่มล้าสมัย: ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเครื่องเสียง สวิตช์ต่าง ๆ หรือระบบไฟฟ้าบางจุด อาจเริ่มมีปัญหาให้ต้องตามแก้ โดยเฉพาะในรถที่ไม่เคยบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
- อะไหล่บางชิ้นแพง: อะไหล่ชิ้นส่วนตัวถังและช่วงล่างบางชิ้น เช่น โช้คอัพ ปีกนก กันโคลง เพลาขับ แร็คพวงมาลัย ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นมือสองหลายแบรนด์ เพราะหลายชิ้นต้องนำเข้าหรือหายากในตลาดมือสอง
สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจซื้อรถมาสด้า3
- สภาพช่วงล่าง: ให้ตรวจดูสภาพโดยรวมของช่วงล่าง รวมถึงพวกอะไหล่ช่วงล่างต่าง ๆ เช่น บูชปีกนก โช้คอัพ สปริง เหล็กกันโคลง รวมถึงเสียงหรืออาการสะเทือนขณะขับช้า ๆ ชิ้นส่วนเหล่านี้มักเริ่มเสื่อมหลังจาก 100,000 กม. ควรทำการเปลี่ยนใหม่ยกชุดเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดี
- ระบบพวงมาลัยและเบรก: ควรตรวจสอบว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ เบรกจมหรือไม่ หรือมีการรั่วซึมบริเวณคาลิเปอร์เบรกหรือไม่
- เสียงและแรงสั่นของเครื่องยนต์: เครื่องยนต์ควรเดินเรียบ เปลี่ยนเกียร์ได้สมูธ ไม่มีเสียงรบกวนแปลก ๆ ขณะออกตัวหรือเปลี่ยนเกียร์
- ประวัติการดูแลรักษา: หากรถมีสมุดบันทึกการซ่อมบำรุงและเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองตามระยะ เช่น สายพานหน้าเครื่อง หัวเทียน ผ้าเบรก น้ำมันเครื่อง จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้นว่ารถคันนั้น ๆ ผ่านการบำรุงรักษามาเป็นอย่างดี มีประวัติการเปลี่ยนอะไหล่และการซ่อมบำรุงชัดเจน สามารถใช้รถต่อไปได้อย่างไร้กังวล

รถมาสด้า3 รุ่นแรกเป็นรถอายุมากที่มีเอกลักษณ์และยังคนน่าใช้
ถ้าคุณกำลังมองหารถมือสองที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ขับสนุก แตกต่างไม่เหมือนใคร และไม่ติดเรื่องการดูแลรักษา Mazda 3 รุ่นแรกคือคำตอบที่ดี รถรุ่นนี้อาจไม่สมบูรณ์แบบไปทุกด้าน อาจต้องซ่อมบำรุงตามอายุบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางจุด แต่ในภาพรวมก็ยังคงเป็นรถที่น่าใช้และให้อารมณ์การขับขี่ที่หาได้ยากในรถญี่ปุ่นยุคเดียวกัน และถ้ายอมรับได้กับการดูแลและลงทุนเปลี่ยนอะไหล่ที่เสียเป็นระยะ Mazda 3 รุ่นแรกถือเป็นตัวเลือกที่ดีในตลาดรถมือสองที่ไม่ใช้แบรนด์เจ้าตลาด
ค้นหา mazda 3 มือสอง (ปี 2003–2009) คันที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่
เรารวบรวมประกาศขายจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว
เปรียบเทียบราคา ดูประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจได้ง่ายๆ
Mazda 3 BK มือสองมากมายรอคุณอยู่ที่นี่ → ค้นหา Mazda3 รุ่นแรก
- กรุงเทพมหานคร, 500 km
- ยี่ห้อ: Mazda
- รุ่น: 3
- ปี: 2003-2009
- แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod