Honda Accord G8 มือสอง - ขับดีแค่ไหน? มีอะไรที่ต้องรู้ก่อนซื้อ

ถ้าพูดถึงรถยนต์แบรนด์ Honda ในเมืองไทย เราจะเห็นได้ชัดว่าแบรนด์นี้มีไลน์อัพรถที่ค่อนข้างชัดเจนและไม่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็น City, Civic, Accord หรือ CR-V รถแต่ละรุ่นมีกลุ่มเป้าหมายของตัวเองชัดเจน พร้อมกับมีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งและจงรักภักดี สิ่งที่เชื่อมโยงรถยนต์ Honda กับผู้ใช้คือความน่าเชื่อถือของแบรนด์ บริการหลังการขาย รวมถึงคุณภาพของตัวรถที่หลายคนให้การยอมรับทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยี ไปจนถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ทันยุคทันสมัยและมีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ถ้ามีชื่อ Honda ก็มักจะได้รับความสนใจอยู่เสมอ
Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า Accord G8 เป็นหนึ่งในรถซีดานขนาดกลางที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดรถมือสองของประเทศไทย ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู ดูภูมิฐาน ไม่ตกยุค แม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2007 แต่รูปทรงยังดูดีอยู่ในปัจจุบัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายทั้งผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งที่หลายคนชื่นชอบ อีกทั้งยังมีงานประกอบที่แน่นหนา วัสดุภายในดูดีเกินราคาเมื่อเทียบกับรถยุคเดียวกัน Accord G8 ยังโดดเด่นเรื่องสมรรถนะ โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ที่ให้แรงบิดเหลือ ๆ สำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและขับขี่ทางไกล พร้อมกับความนุ่มนวลและความเงียบขณะขับขี่ที่หลายคนยกให้ใกล้เคียงรถยุโรป ราคามือสองตอนนี้ก็เริ่มจับต้องได้มากขึ้น อยู่ในช่วงประมาณสองแสนปลายถึงสามแสนต้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับใครที่อยากได้รถใช้งานจริงจัง ขับดี ดูดี โดยไม่ต้องจ่ายแพงเกินเหตุ
บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 ให้มากขึ้น สำรวจข้อดี ข้อเสีย ปัญหาที่พบ รวมถึงสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเมื่อจะเลือกรถรุ่นนี้มาใช้งาน คนที่สนใจหรือกำลังเล็ง Accord G8 ไม่ควรพลาด
ภาพรวมของ ฮอนด้าแอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 8
ฮอนด้า แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 8 เปิดตัวในไทยช่วงประมาณปลายปี 2007 และทำตลาดถึงปี 2013 โดยรุ่นนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจาก Accord เจเนอเรชันที่ 7 ครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่รูปลักษณ์หน้า เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ไปจนถึงวิศวกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ จุดเด่นของ Accord เจเนอเรชันที่ 8 คือตัวถังมีขนาดใหญ่ ดีไซน์ภายนอกทันสมัยและเฉียบคม ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง วัสดุและงานประกอบดูดีขึ้นอย่างชัดเจน เป็นรถที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมแบบไม่เวอร์เกินไป มีความภูมิฐานเหมาะกับทั้งผู้บริหารหรือคนที่อยากได้รถครอบครัวที่นั่งสบายทุกที่นั่ง
Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 รุ่นที่ขายในประเทศไทยมีเฉพาะตัวถังซีดาน 4 ประตู ทำตลาดด้วยกัน 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซิน 2.0 ลิตร เบนซิน 2.4 ลิตร และเบนซิน V6 3.5 ลิตร ที่นับว่าเป็นตัวแรงที่สุดรุ่นหนึ่งในยุคนั้น
ในปี 2011 Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 มีการปรับโฉม Minorchange ปรับดีไซน์ภายนอกของตัวรถใหม่ให้ทันสมัยตามยุคและเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบครันยิ่งขึ้น ถือเป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยและสร้างยอดขายได้อย่างมากมาย
Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 ยุติสายการผลิตในปี 2013 และส่งไม้ต่อให้กับ Accord เจเนอเรชันที่ 9 ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน ปัจจุบัน Accord G8 มีตัวเลือกมากมายในตลาดมือสอง ด้วยความที่รถยังไม่เก่ามาก รูปลักษณ์ภายนอกไม่ตกยุค ขับขี่ดี มีความสะดวกสบาย ทำให้มันยังเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน และด้วยราคามือสองในปัจจุบันที่อยู่ในช่วง 2 – 4 แสนบาท รถรุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ อีกรุ่นหนึ่งในตอนนี้
ตัวถังและภายนอกแอคคอร์ด

ตัวถังและภายนอกของ แอคคอร์ด เจเนอเรชันที่ 8 โดยรวมถือว่าทำมาได้ดีตามมาตรฐานรถญี่ปุ่น ถึงแม้จะไม่ได้เน้นความหรูหราแบบรถยุโรป แต่ก็ดูภูมิฐานและมีเส้นสายที่ยังดูทันสมัยอยู่จนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหารถมือสองมาใช้งาน มีจุดที่ควรสังเกตหลายจุดเช่นกัน
หนึ่งในจุดที่ต้องคำนึงถึงคือสีตัวถังของ Accord G8 มีความหนาในระดับปานกลาง หมายความว่าแม้สีจะดูเงางาม แต่ก็เกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายหากดูแลไม่ดี โดยเฉพาะฝากระโปรงหน้าที่มักมีรอยขีดข่วนหรือรอยกะเทาะเล็ก ๆ ที่เกิดจากเศษหินบนถนน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พบในรถรุ่นนี้
อีกจุดสังเกตคือแผงพลาสติกบริเวณฐานกระจกบังลมหน้าที่มักต้องถอดออกก่อนเมื่อมีการเปลี่ยนกระจกหน้าบานใหม่ ปัญหาที่เจอคือตัวยึดพลาสติกที่ล็อกชิ้นส่วนนี้มักแตกหักง่าย บางคันถึงขั้นหลุดหรือกระพือเวลาปะทะกับลมขณะขับขี่ความเร็วสูง
กระจังหน้าด้านบนของรถรุ่นปรับโฉม Minorchange ก็เป็นอีกจุดที่ต้องดูโดยเฉพาะคานขวางที่ยึดกระจัง บางคันมีรอยฉีกขาดจากแรงกดหรือความร้อนสะสม หากจำเป็นต้องเปลี่ยน ก็สามารถเลือกได้ทั้งอะไหล่แท้หรือของเทียบราคาประหยัด
กันชนหน้าก็มีปัญหาพบได้ทั่วไปคือมีช่องว่างเพิ่มขึ้นระหว่างไฟหน้ากับขอบกันชน โดยสาเหตุหลักมาจากแรงกระแทกเล็ก ๆ หรือการชนปะทะที่ไม่รุนแรง ทำให้ขายึดเสียรูป เช่นเดียวกับไฟตัดหมอกที่หมองและแตกได้ง่ายหากโดยกระแทกหรือโดนหินดีดใส่ แนะนำว่าควรติดฟิล์มใสกันหินไว้จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น
สำหรับ Accord G8 รุ่นที่มีซันรูฟอาจเจอปัญหาขอบยางกันน้ำรอบซันรูฟลอกหรือเสื่อม ซึ่งเกิดจากสนิมหรือการกัดกร่อนของกรอบยึดกระจก วิธีแก้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งหลังคา เพียงถอดกระจกออก ทำความสะอาดสนิมบนเฟรม ทาสารกันสนิม แล้วใส่ยางกลับเข้าที่ ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกหลายปี
นอกจากนี้บางคันอาจสังเกตเห็นรอยบุบบริเวณแผงหลังคาใกล้ซันรูฟ ซึ่งมักเกิดจากความยืดหยุ่นของโครงสร้างหลังคาที่ไม่แข็งพอ หากรถตกหลุมหรือกระแทกอย่างแรงขณะเปิดซันรูฟไว้ อาจเกิดรอยยุบถาวรได้ จุดนี้ไม่มีผลกับโครงสร้างความปลอดภัย แต่ก็ทำให้รถดูไม่สวย
ไฟท้ายของ Accord G8 บางคันมีปัญหาน้ำเข้า ทำให้เกิดฝ้าหรือมีหยดน้ำขังด้านใน แก้ไขได้โดยการถอดโคมไฟออก ทำให้แห้ง แล้วซีลขอบรอยต่อใหม่ให้แน่น ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายยังคงเป็นจุดแข็งของ Accord G8 เพราะให้พื้นที่ใช้งานเยอะพอสมควร ใส่กระเป๋าเดินทางหรือของชิ้นใหญ่ได้สบาย
ภายในและความสะดวกสบาย

ห้องโดยสารของ Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 ถือว่าออกแบบได้ลงตัวและใช้งานได้ดีตามสไตล์ Honda โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดวางปุ่มต่าง ๆ ทั้งตำแหน่งปุ่มควบคุม ระบบแอร์ วิทยุ หรือช่องเก็บของต่าง ๆ ที่ถูกจัดวางให้ใช้งานได้สะดวก ทำให้ Accord G8 เป็นรถที่ขับแล้วรู้สึกคุ้นมือได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม จุดที่หลายคนสังเกตได้เมื่อใช้งานรถมาเกินแสนกิโลเมตรคือวัสดุภายในห้องโดยสาร แม้จะดูเรียบร้อยและแข็งแรง แต่มีการใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างมากในหลายตำแหน่ง เช่น แผงประตู คอนโซลกลาง หรือฐานเกียร์ ทำให้รู้สึกไม่หรูเท่าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันโดยเฉพาะในรุ่นย่อยล่าง ๆ ที่ไม่มีวัสดุซอฟต์ทัชเสริม
เบาะหนังในรุ่นท็อปเมื่อใช้งานผ่านหลักแสนกิโลเมตรไปแล้วจะพบว่าเริ่มฉีกขาดหรือหนังลอก โดยเฉพาะบริเวณที่มีการขึ้น-ลงบ่อย ๆ เช่น ขอบเบาะฝั่งคนขับ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในรถระดับนี้ นอกจากนี้ ปลอกพวงมาลัยก็เป็นอีกจุดที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา เช่นเดียวกับโลโก้ Honda โครเมียมพวงมาลัยที่เริ่มลอก ทำให้ภายในดูเก่า
คันเกียร์อัตโนมัติมักจะมีร่องรอยการสึกหรอ เช่น ปลอกเกียร์แตก หัวเกียร์หลวม หรือมีเสียงก๊อกแก๊กเมื่อขยับ อันนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเจ้าของเดิมและระยะใช้งาน หากพบว่ามีปัญหาสามารถหาของมือสองหรือของแต่งมาเปลี่ยนได้ไม่ยาก
อีกจุดที่มักเป็นปัญหาคือไฟแบ็กไลท์ของปุ่มควบคุมต่าง ๆ ทั้งระบบแอร์ ปุ่มฝั่งซ้ายของพวงมาลัย หรือหน้าจอวิทยุ ที่มีโอกาสขาดหรือดับเมื่อรถเริ่มมีอายุเกิน 10 ปี โดยเฉพาะถ้ารถจอดกลางแดดบ่อย ๆ หรือใช้งานหนัก แต่ไม่ต้องกังวลมากเพราะสามารถถอดแผงออกและเปลี่ยนหลอด LED ธรรมดาได้ง่ายด้วยค่าใช้จ่ายไม่สูง
ใน Accord G8 บางคันโดยเฉพาะคันที่ใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิลดลงช่วงเช้า เช่น ภาคเหนือหรือบนเขา อาจพบปัญหา ระบบแอร์ทำงานไม่สม่ำเสมอ ลมเย็นออกจากฝั่งหนึ่งแต่ฝั่งอีกด้านกลับเป่าอุ่นหรือร้อน ซึ่งอาการนี้มักเกี่ยวข้องกับวาล์วควบคุมทิศทางลมเสื่อม การตรวจเช็กต้องพึ่งช่างที่มีประสบการณ์ แต่ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปอาจต้องรื้อแผงคอนโซลเพื่อเปลี่ยนชิ้นส่วนภายใน
เครื่องยนต์ของ Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8

เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร รหัส K24
เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร รหัส K24 ใน Accord G8 ที่ขายในประเทศไทย ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ตัวเครื่องให้แรงบิดดี ตอบสนองไว ขับดีทั้งในเมืองและทางไกล ปัญหาที่พบในเครื่องยนต์ตัวนี้คืออาการกินน้ำมันเครื่อง เจอได้ในคันที่ใช้งานมานาน ดูแลไม่ดี เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่สม่ำเสมอ กลับกัน ถ้าเจอคันที่ดูแลดี ๆ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันตามระยะก็จะแทบไม่มีปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องหายเลย
สาเหตุของอาการกินน้ำมันเครื่องส่วนใหญ่มาจากแหวนกวาดน้ำมันที่เริ่มตันจากคราบเขม่า เจอบ่อยในคันที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องล่าช้าหรือใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% เกรด API SN ขึ้นไป และควรหมั่นตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องเดือนละครั้ง แม้ว่ารถจะมีเซนเซอร์วัดระดับแต่ก็ไม่ควรพึ่งพาเพียงอย่างเดียว เพราะอาจแสดงค่าคลาดเคลื่อนได้เมื่อเซนเซอร์เริ่มเสื่อม
อีกหนึ่งปัญหาที่ควรระวังคือการสึกหรอของเพลาลูกเบี้ยวไอเสียซึ่งในบางคันอาจเจอรอยแตกลึกบริเวณลูกเบี้ยว เนื่องจากแรงกดจากกระเดื่องกดวาล์วที่ค่อนข้างสูง การปรับระยะห่างวาล์วทุก ๆ 40,000 กม. จะช่วยลดความเสี่ยงในจุดนี้ได้ และถ้าซื้อรถมือสองมา ควรให้ช่างเปิดฝาครอบวาล์วเพื่อตรวจสอบสภาพของเพลาลูกเบี้ยวก่อนใช้งานจริง
เสียงดังขณะสตาร์ทเย็น ๆ ก็เป็นอีกเรื่องที่เจ้าของ Accord G8 หลายคนพบ โดยต้นเหตุมักมาจากตัวปรับจังหวะวาล์วแปรผันที่เริ่มเสื่อมตามอายุการใช้งาน ปกติชิ้นส่วนนี้จะอยู่ได้ประมาณ 200,000 กม. ถ้าดูแลเครื่องยนต์ดีอาการเสียงดังจะช้าลงหรืออาจไม่เกิดขึ้นเลย
เสียงจากวาล์วระบบระบายอากาศห้องข้อเหวี่ยงก็เป็นอีกเสียงที่เจอบ้างในบางคัน และมักสับสนกับเสียงลูกรอกสายพาน ชิ้นส่วนนี้อยู่ด้านหลังขายึดไดชาร์จ และสามารถส่งผลต่ออัตราการกินน้ำมันเครื่องได้เช่นกันหากเสื่อมสภาพ การเปลี่ยนไม่ยากและราคาไม่สูง สุดท้ายคือโซ่ไทม์มิ่งซึ่งเป็นข้อดีของเครื่อง K24 เพราะมีความทนทานสูง และโดยทั่วไปสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 200,000 กม. โดยไม่ต้องเปลี่ยน เว้นแต่จะมีเสียงดังหรือปัญหาอื่นร่วมด้วย
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร รหัส R20
Accord G8 ยังมีรุ่นย่อยที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส R20 ให้กำลัง 156 แรงม้า เครื่องยนต์บล็อกนี้มีความเรียบง่าย ทนทาน และดูแลง่าย แม้จะไม่ได้แรงจัดแต่ก็เพียงพอสำหรับคนที่เน้นความประหยัด ขับขี่แบบไม่รีบร้อน ไม่เน้นทำความเร็ว จุดอ่อนหลักของเครื่อง R20 คือ Catalytic Converter ซึ่งเมื่อเสื่อมหรืออุดตันจะทำให้เครื่องยนต์อืดและกินน้ำมันมากขึ้น ในบางกรณีจะมีไฟ Check Engine โชว์บนหน้าปัด แนะนำให้ตรวจสอบด้วยเครื่อง OBD หากพบความผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์นี้ยังมีข้อดีตรงที่ไม่มีปัญหาเรื่องกินน้ำมันเครื่องหรือเพลาลูกเบี้ยวสึกแบบเครื่อง K24 และเหมาะกับคนที่ต้องการรถใช้งานเรียบง่าย ไม่จุกจิก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยสมรรถนะที่ด้อยกว่าและไม่มีรุ่นออปชันสูงให้เลือก
เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร
Accord G8 รุ่นท็อปที่ขายในประเทศไทยวางเครื่องเบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร 275 แรงม้า เครื่องยนต์ตัวนี้ให้แรงบิดมหาศาลในรอบต่ำ ขับสนุก เสียงเครื่องยนต์นุ่มลึก สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้อย่างรวดเร็วเทียบชั้นรถยุโรป มีความนุ่มนวลและพละกำลังที่มาแบบต่อเนื่อง แถมยังมาพร้อมเทคโนโลยี Variable Cylinder Management (VCM) ที่สามารถตัดการทำงานของบางสูบเพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี VCM ก็เป็นจุดที่ผู้ใช้บางรายพบปัญหาโดยเฉพาะในรถที่ใช้งานมานาน หากระบบนี้เริ่มรวนอาจทำให้เกิดอาการกระตุกหรือการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ในบางสูบ ส่งผลให้เกิดคราบเขม่าสะสม หรือทำให้น้ำมันเครื่องหาย กรณีนี้เจ้าของรถบางคันเลือกที่จะปิดระบบ VCM ด้วยชุดอุปกรณ์เสริมหรือรีแฟลชกล่อง ECU เพื่อให้เครื่องทำงานเต็ม 6 สูบตลอดเวลา แม้จะแลกกับความสิ้นเปลืองที่เพิ่มขึ้น
อีกข้อควรระวังคือเรื่องอุณหภูมิความร้อนสะสมในห้องเครื่อง เนื่องจากเครื่องยนต์ขนาดใหญ่และห้องเครื่องที่ค่อนข้างแน่น หากใช้รถในสภาพอากาศร้อนจัดหรือขับทางไกลบ่อย ควรหมั่นเช็กสภาพหม้อน้ำ พัดลม และระบบหล่อเย็นอยู่เสมอ
ระบบส่งกำลังของ Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8

Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 ทุกรุ่นที่ขายในประเทศไทยจะมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เกียร์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องการทำงานที่เรียบง่าย ทนทาน ดูแลง่าย หากดูแลบำรุงรักษาตามระยะก็สามารถใช้งานได้ยาวนานนับแสนกิโลเมตร เกียร์อัตโนมัติของ Accord G8 อาจจะเปลี่ยนเกียร์จะไม่ฉับไวแบบเกียร์รุ่นใหม่ ๆ และบางครั้งอาจมีจังหวะลังเลอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ให้ความนุ่มนวลและเชื่อถือได้ ทั้งยังไม่มีจุดอ่อนด้านโครงสร้างที่ร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชุดเฟือง ชุดวาล์วไฮดรอลิก หรือแม้แต่ทอร์กคอนเวอร์เตอร์ ต่างก็มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
เพื่อยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานที่สุด ผู้ขับขี่ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 40,000 กม. และควรหมั่นตรวจสอบสภาพโดยรวมของระบบอยู่เสมอ ประเภทน้ำมันเกียร์ที่แนะนำคือ Honda ATF-Z1 หรือจะใช้ DW-1 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่าก็ได้เช่นกัน แต่ควรทราบว่าในบางคันเมื่อเปลี่ยนมาใช้ DW-1 อาจพบอาการเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่ลื่นเท่าเดิม เช่น มีแรงกระตุกเล็กน้อยในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งมักเกิดในช่วงแรกหลังเปลี่ยน แต่จะดีขึ้นเมื่อใช้งานไปสักพัก
หากต้องการฟลัชชิ่งเกียร์ทั้งระบบสามารถทำได้โดยใช้วิธีไล่น้ำมันเก่าออกทางท่อที่ต่อเข้าหม้อน้ำเกียร์และเติมน้ำมันใหม่กลับเข้าไปทางเดียวกัน กระบวนการนี้จะใช้น้ำมันเกียร์ทั้งหมดประมาณ 8 – 10 ลิตร แนะนำว่าควรเปลี่ยนกรองเกียร์ทั้งตัวนอกและตัวในไปพร้อมกันด้วยเพื่อการทำงานที่สมบูรณ์ทั้งระบบ
ระบบกันสะเทือนและการควบคุม
ระบบกันสะเทือนของ Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 ถือว่าออกแบบมาได้ดีและมีความทนทานพอสมควร โดยด้านหน้าเป็นแบบ ปีกนกสองชั้นซึ่งให้การควบคุมที่แม่นยำและการเกาะถนนที่ดีกว่าระบบแมคเฟอร์สันสตรัทที่ใช้ใน Accord รุ่นถัดมา ส่วนด้านหลังเป็นระบบแบบมัลติลิงก์ 4 แขนต่อข้าง ให้สมดุลที่ดีระหว่างความนุ่มนวลและความมั่นคง
ปัญหาและจุดสึกหรอที่ควรเฝ้าระวัง
- ยางแท่นเครื่องฝั่งขวา - มักเริ่มเสื่อมเมื่อวิ่งเกิน 100,000 กิโลเมตร และหากเริ่มรู้สึกถึงแรงสั่นที่ความเร็วต่ำ (ไม่เกิน 40 กม./ชม.) ก็เป็นสัญญาณว่าอาจถึงเวลาต้องเปลี่ยน
- หัวเพลาขับ (CV Joint) - มีอายุใช้งานปานกลาง ด้านขวามักเสียก่อนด้านซ้าย สาเหตุเกิดการสึกหรอที่ผิวภายในจนกลายเป็นโพรงหรือแตกร้าว อาการที่เจอคือพวงมาลัยส่ายไป-มาและดูเบา ๆ ไม่นิ่ง เวลาขับเร็ว
- โช้คอัพหน้า – หากเสื่อมมักต้องเปลี่ยนพร้อมเบ้าโช้คด้านบนเนื่องจากรูศูนย์กลางอาจสึกหรอจนใช้งานต่อไม่ได้
- เหล็กกันโคลงและบูช - ใช้งานได้ราว 80,000–150,000 กม. โดยบูชยางสามารถเปลี่ยนแยกได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งชุด
- Silent Block - ด้านหลังมีอายุสั้นกว่าส่วนอื่นแต่สามารถเปลี่ยนแยกได้ในราคาย่อมเยา ส่วนลูกหมากของจานหมุนล้อเปลี่ยนแยกได้เช่นกัน แต่ลูกหมากของแขนบนขายเป็นชุด ไม่แยกขาย
- แขนบนของช่วงล่างหน้าและหลัง - มีความทนทานพอสมควร อายุเฉลี่ยประมาณ 120,000 กม. แต่เมื่อลูกหมากสึก ต้องเปลี่ยนทั้งชุด
ระบบพวงมาลัย

Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 ใช้แร็คพวงมาลัยไฟฟ้า EPS โดยติดตั้งมอเตอร์ไว้บนแร็คโดยตรง ไม่ได้อยู่บนแกนพวงมาลัยเหมือนรุ่นเก่า แร็คพวงมาลัยอาจมีเสียงเคาะเมื่อปลอกนำ (guide bushing) ฝั่งขวาสึกหรอ หากยังไม่เสียหายมาก อู่เฉพาะทางสามารถเปลี่ยนปลอกโดยไม่ต้องถอดแร็คออกจากตัวรถ แต่ถ้าตัวเรือนเริ่มหลวมอาจต้องเปลี่ยนหรือซ่อมชุดใหญ่
ชุดควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS module) มักติดตั้งอยู่หลังแผงหน้าปัดฝั่งผู้โดยสาร โดยเฉพาะในรุ่นปรับโฉม หากเสียต้องเปลี่ยนใหม่และตั้งค่าตำแหน่งศูนย์ของพวงมาลัยใหม่ด้วย
ระบบเซนเซอร์และช่วงล่างหลัง
Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 มีเซนเซอร์ตำแหน่งตัวถังทั้งหน้าและหลัง หากก้านเซนเซอร์หักหรือมีน้ำเข้าจนเสียจะส่งผลให้ระบบปรับไฟหน้าอัตโนมัติตั้งแสงไว้ต่ำสุดตลอดเวลา
ชุดกันสะเทือนหลังของ Accord G8 มีแขนควบคุมทั้งหมด 4 แขนต่อข้าง แขนบนลักษณะเป็นรูปตัว U คล้ายกันสะเทือนหน้า มักมีปัญหาที่ลูกหมากก่อนจุดอื่น ถ้าเสียต้องเปลี่ยนทั้งชุดเพราะไม่มีขายแยก นอกจากนี้ สปริงหลังของบางคันอาจเจอปัญหายุบตัว ทำให้ตอบสนองไม่ดีเหมือนเดิม แก้ไขได้โดยการเปลี่ยนสปริงใหม่ซึ่งหลายคันนิยมใส่สปริงแต่งที่ทนกว่าของศูนย์
บทสรุปของ honda accord มือสอง
Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 ยังคงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะ ความสบาย และความเชื่อถือได้ แม้ว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร จะมีจุดอ่อนอยู่บ้าง เช่น อาการกินน้ำมันเครื่อง และปัญหาเรื่องเพลาลูกเบี้ยวไอเสีย แต่โดยรวมแล้ว รถรุ่นนี้ยังคงให้ความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว
หากคุณกำลังพิจารณาจะซื้อ Accord G8 มือสอง นี่คือจุดสำคัญที่ควรตรวจสอบ
- ตัวถัง: ตรวจดูสภาพภายนอกตัวรถ หาดูว่ามีร่องรอยสนิมในจุดสำคัญ ๆ หรือไม่ เช่น บริเวณชายล่างของประตู คิ้วกระจก เสาหน้า และรอบกระจังหน้า
- หลังคาซันรูฟ (ถ้ามี): ตรวจสอบการทำงานว่าปิดเปิดได้ราบรื่นหรือไม่ และต้องไม่มีน้ำรั่วหรือสนิมสะสม
- เครื่องยนต์: เช็กระดับน้ำมันเครื่องว่าลดลงผิดปกติหรือไม่ รวมถึงฟังเสียงรบกวนจากเพลาลูกเบี้ยว
- เกียร์อัตโนมัติ: ทดลองขับในทุกโหมด ทั้ง D, S และ M เพื่อให้แน่ใจว่าตอบสนองได้ราบรื่น ไม่กระตุก
- การสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสาร: หากมีอาการสั่นในช่วงความเร็วต่ำหรือกลาง อาจมาจากยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ
- พวงมาลัย: ลองหมุนดูว่ามีระยะฟรีหรือเสียงเคาะผิดปกติหรือไม่ ปัญหาที่เจอมักเกี่ยวกับหัวเพลาขับเสื่อมสภาพ และยางหุ้มเพลาขับฉีกขาด
- ช่วงล่าง: ควรตรวจสภาพชิ้นส่วนช่วงล่างอย่างละเอียด เช่น โช้คอัพ สปริง กันโคลง ลูกหมาก และบูชยางต่าง ๆ หากพบว่าเริ่มหลวมหรือเสื่อมสภาพ ควรพิจารณาเปลี่ยนอะไหล่ทันทีเพื่อการขับขี่ที่ดี
Honda Accord เจเนอเรชันที่ 8 ยังคงเป็นรถซีดาน D-Segment ที่น่าใช้ ด้วยความที่ราคามือสองไม่แรงมากและเป็นแบรนด์ Honda ซึ่งการันตีได้ถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของตัวรถได้ระดับหนึ่งอยู่แล้ว นอกจากนี้ Accord G8 ยังเป็นรถที่ขับดี เครื่องยนต์มีกำลังเหมาะสม การควบคุมที่แม่นยำ ภายในกว้าง นั่งสบาย อะไหล่หาได้ง่าย และระบบพื้นฐานที่ไว้ใจได้ หากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม รถคันนี้สามารถอยู่กับคุณได้อีกหลายปี เหมาะสำหรับคนที่มองหารถใช้งานจริงจังโดยไม่ต้องจ่ายเกินจำเป็น
ค้นหา Honda Accord รุ่น 8 (2007-2013) ที่ใช่สำหรับคุณ
เรารวบรวมประกาศขาย Honda Accord มือสองจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว
เปรียบเทียบ honda accord ราคา มือสอง เช็คประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ
พบกับฮอนด้าแอคคอร์ดมากมายที่นี่ →ฮอนด้า แอคคอร์ด มือสอง
- กรุงเทพมหานคร, 500 km
- ยี่ห้อ: Honda
- รุ่น: Accord
- ปี: 2007-2013
- แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod