Ford Focus เจน 3 มือสอง – ของดีที่คนมองข้าม แต่ต้องเลือกให้เป็น!

รถยนต์กลุ่ม C-Segment เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ได้รับความนิยมในตลาด รถกลุ่มนี้ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้หลากหลายทั้งในแง่ของขนาดตัวรถที่กำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ราคาไม่สูงจนเกินเอื้อม ให้สมรรถนะและฟีเจอร์ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง อีกทั้งยังมีต้นทุนการดูแลรักษาที่ไม่สูงเกินไป
รถกลุ่มนี้ครองพื้นที่สำคัญในตลาดรถยนต์ทั้งใหม่และมือสองมาหลายปี มันคือรถ Daily use ของหลายคนที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ ด้วยเหตุนี้ รถในกลุ่ม C-Segment จึงเป็นรถที่ผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่องความทนทานในระยะยาว และมีสมรรถนะที่ไว้ใจได้แม้ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน ใช้งานง่าย เชื่อถือได้ และไม่เรื่องมาก
หนึ่งในตัวแทนที่โดดเด่นของรถยนต์กลุ่ม C-Segment คือ Ford Focus โดยเฉพาะเจเนอเรชันที่ 3 (Mk3) ที่ผลิตขึ้นระหว่างปี 2011 - 2019 นี่คือรถ Global Model วางจำหน่ายในหลายตลาดทั่วโลกและมีการออกแบบให้สอดคล้องกับรสนิยมและความต้องการของผู้ขับขี่จากหลากหลายภูมิภาค
รถฟอร์ด Focus Mk3 ได้รับความนิยมจากจุดเด่นด้านรูปลักษณ์ที่ทันสมัย การควบคุมที่คล่องตัว ขับขี่สบาย และมีตัวเลือกหลากหลายทั้งแฮทช์แบ็กและซีดาน รวมถึงมีเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซลหลายความจุให้เลือกใช้ตามความต้องการ แม้จะดูลงตัวและน่าใช้อย่างมากในวันที่ยังใหม่เอี่ยม แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีพร้อมกับเลขไมล์บนหน้าปัดที่ทะลุแสนกิโลเมตร หลายคนเริ่มพบว่ามันไม่ใช่รถที่ “ไร้ที่ติ” อย่างที่เคยคิด
บทความนี้จะพาไปเจาะลึก ford focus รุ่น 3 ดูข้อดี ข้อเสีย ปัญหาที่พบ รวมถึงคำแนะนำในการดูแลรักษาสำหรับคนที่กำลังมองหารถรุ่นนี้มือสองไปใช้งาน เพื่อคุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด

สภาพภายนอกและตัวถังรถฟอร์ด Ford Focus รุ่น3
คุณภาพของสีและความต้านทานการกัดกร่อน
หนึ่งในจุดเด่นของ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 คือคุณภาพของสีและการป้องกันการเกิดสนิมที่ถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน Focus Mk3 ใช้กระบวนการเคลือบสีที่ค่อนข้างหนา ทำให้สีรถค่อนข้างทนทาน และมีการป้องกันการกัดกร่อนจากโรงงานที่ดีพอสมควร ปัญหาที่พบได้บ่อยคือสีบริเวณฝากระโปรงหน้าและบริเวณเหนือกระจกบังลมหน้ามีแนวโน้มจะหลุดลอกได้ง่ายเพราะมักจะโดนเศษหินหรือฝุ่นทรายกระแทกอย่างต่อเนื่อง บริเวณรอยต่อระหว่างกันชนหน้ากับบังโคลนก็เป็นอีกจุดที่สีมักจะหลุดล่อน ซึ่งอาจเกิดจากแรงกระแทกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการใช้งานประจำวันหรือจากการประกอบที่ไม่แน่นหนาเท่าที่ควร
อีกหนึ่งบริเวณที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษคือซุ้มล้อหลังและขอบพลาสติกตรงฝากระโปรงท้าย จุดเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเกิดรอยแยกหรือรอยแตกเมื่อใช้งานไปนาน ๆ โดยเฉพาะถ้ารถเคยผ่านการชนท้าย หรือมีการบรรทุกของหนักในห้องสัมภาระบ่อยครั้ง
สิ่งที่เจ้าของรถหลายคนพบเจอคือ ขอบฝากระโปรงท้ายที่มักเสียดสีกับกันชนหลังเล็กน้อยทุกครั้งที่ปิด แม้จะดูไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ก็ทำให้เกิดความรำคาญและมีโอกาสเกิดรอยถลอกจากการเสียดสี ทำให้ชั้นเคลือบสีบางลงและอาจทำให้สีหลุดได้
โคมไฟหน้าก็เป็นอีกจุดที่พบปัญหาเพราะทำจากพลาสติกที่ค่อนข้างบางและเปราะ เมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะพบว่ามีรอยขีดข่วน ขุ่นเหลือง หรือเริ่มรอยแตกลายงา ทำให้รูปลักษณ์ของรถโดยรวมดูเก่าลงอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์และการป้องกันความชื้น
แม้ว่า Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 จะมาพร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยมากขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า แต่ก็เจอปัญหาเรื่องความชื้นและน้ำเข้า ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบไฟได้ไม่น้อย ปัญหาหนึ่งที่เคยถูกรายงานบ่อยคือ น้ำซึมเข้าไปในกล่อง ECU นี่เป็นปัญหาที่ค่อนข้างอันตรายเพราะอาจทำให้ ECU เสียหายได้ ส่งผลใหญ่ต่อการทำงานของเครื่องยนต์อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีกรณีของน้ำยาฉีดกระจกหน้ารถรั่วเข้าไปในโมดูลควบคุมตัวถังซึ่งมักอยู่ใกล้กับบริเวณแผงฟิวส์ด้านคนขับ ปัญหานี้จะนำไปสู่ความผิดปกติของระบบไฟหลายจุด เช่น ระบบไฟหน้า, ไฟเลี้ยว, หรือระบบเซ็นทรัลล็อก ทำให้ทำงานบกพร่องหรือเกิดอาการรวน
เครื่องยนต์ของฟอร์ด โฟกัส รุ่น3

ฟอร์ด โฟกัส เจเนอเรชันที่ 3 เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เบนซิน 1.6 ลิตร กับ เบนซิน 2.0 ลิตร และไม่มีเครื่องดีเซลให้ใช้ จากนั้นมีการเปิดตัวเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Ecoboost มาแทนที่เบนซิน 2.0 ลิตร ตอนปรับโฉม Minorchange ปี 2016 ซึ่งได้การตอบรับที่ดีจากผู้ใช้จำนวนมาก
เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ใน Focus เจเนอเรชันที่ 3 มีกำลัง 125 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 159 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์ที่มีจุดเด่นด้านความประหยัดที่ทำได้ดีกว่า Focus Mk2 มาก เหมาะสำหรับใช้งานในเมืองทั่วไป เครื่องยนต์ค่อนข้างทน ไม่ค่อยจุกจิก ดูแลง่าย แต่ปัญหาที่เจอคือเสียงดังตอนสตาร์ทใหม่ ๆ ซึ่งถือว่าไม่น่ากังวลมากนัก สิ่งสำคัญคือผู้ใช้ควรหมั่นตรวจเช็กเครื่องยนต์ตามระยะ ปรับตั้งวาล์ว ตรวจสภาพระบบหล่อเย็น สายพาน และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตร
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ของ Focus เจเนอเรชันที่ 3 มีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร ให้การตอบสนองที่กระฉับกระเฉงมากขึ้น ทำอัตราเร่งได้รวดเร็ว ขับสนุกมากขึ้น หากดูแลดี ๆ เครื่องยนต์รุ่นนี้จะไม่พบปัญหาใหญ่ที่น่ากังวล จะมีเพียงชิ้นส่วนสิ้นเปลืองที่เสื่อมสภาพตามเวลา เช่น ยางแท่นเครื่อง สายพานหน้าเครื่อง หัวเทียน ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรสนใจดูแลเรื่องของเหลวต่าง ๆ ควรเปลี่ยนถ่ายตามระยะอย่าให้ขาด เครื่องยนต์รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ยาว ๆ ทะลุแสนกิโลเมตรแน่นอน
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Ecoboost
เครื่องยนต์ Ecoboost เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มากับคอนเซ็ปต์เครื่องความจุเล็กแต่ให้พละกำลังสูง ประหยัดน้ำมัน และปล่อยมลพิษต่ำ ติดตั้งใน Focus เจเนอเรชันที่ 3 รุ่น Minorchange ปี 2016 เครื่องยนต์รุ่นนี้มีเทอร์โบชาร์จมาช่วยปั่นไอดีเข้าห้องเผาไหม้ ทำให้มีพละกำลังสูงถึง 180 แรงม้า พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะได้ทั้งความแรงและความประหยัด แถมยังไม่พบปัญหาจุกจิกที่น่ากังวล หากใส่ใจดูแล เปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะ เช็กสภาพเครื่องยนต์อยู่เสมอ ก็สามารถใช้งานได้อีกยาว ๆ หลายปี

ระบบส่งกำลังของ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3
ปัญหาเกียร์ Powershift
เกียร์ Powershift ที่ใช้กับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ประจำรุ่น Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 ผู้ใช้หลายคนพบปัญหาเกียร์ทำงานไม่ราบเรียบ มีเสียงดังครืดคราดตอนเปลี่ยนเกียร์ช่วงความเร็วต่ำ ส่วนมากจะเจอในช่วงการจราจรติดขัดหรือขึ้นทางลาดชัน อีกหนึ่งปัญหาคือซีลเกียร์รั่ว สาเหตุมาจากการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ได้คุณภาพ
เหตุที่เกียร์ Powershift เกิดปัญหามากมายแบบนี้มาจากโครงสร้างและการออกแบบที่บกพร่อง รวมถึงชุดคลัทช์ที่เป็นแบบแห้ง ทำให้ตอนทำงานจะมีเสียงดังกว่าเกียร์แบบคลัทช์เปียก ทำผู้ขับได้ยินเสียงการทำงานของกลไกในห้องเกียร์ได้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเกียร์ Powershift เกิดขึ้นเฉพาะกับ Focus เจเนอเรชันที่ 3 บางลอต ไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นปัญหาคาราคาซังที่ผู้ใช้ต้องตามแก้ไม่จบ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และกรองเกียร์เป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงของความเสียหายได้ แต่ถ้าต้องเลือกรถมือสอง ควรพิจารณาถึงปัญหานี้ให้ถี่ถ้วนและตรวจเช็กให้แน่ใจว่าเกียร์ไม่มีปัญหาเหล่านี้

ระบบกันสะเทือนและพวงมาลัย
ระบบกันสะเทือน
ระบบกันสะเทือนของ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 โดยรวมถือว่าทนทานและออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี เสถียรภาพของตัวรถขณะเข้าโค้งและความหนึบของช่วงล่างเป็นหนึ่งในจุดขายที่หลายคนชื่นชม อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานไปถึงช่วงหลักแสนกิโลเมตรก็เริ่มมีชิ้นส่วนบางจุดที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ
- ลิงก์กันโคลงหลัง: เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนที่มักเริ่มเสื่อมสภาพก่อนเพื่อน อาการที่มักพบคือเสียงกระแทกเบา ๆ เมื่อวิ่งผ่านลูกระนาดหรือพื้นถนนขรุขระ ซึ่งการเปลี่ยนใหม่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ควรเตรียมงบประมาณเผื่อไว้
- ลูกปืนสตรัทหน้า: เป็นอีกจุดอ่อนที่พบได้บ่อยในรุ่นแรก ๆ ของ Focus Mk3 โดยเฉพาะในรถที่ใช้งานหนักบนถนนขรุขระ หรือขับลุยหลุมบ่อเป็นประจำ อาการเริ่มต้นมักเป็นเสียง "ครืด" หรือ "กรอบแกรบ" เมื่อหมุนพวงมาลัย
- บูชยาง: ก็มีโอกาสต้องเปลี่ยนหลังจากใช้รถเกิน 100,000 กิโลเมตร
ระบบพวงมาลัย
พวงมาลัยของ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวล แม่นยำ และตอบสนองดี เนื่องจากเป็นระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (EPS) ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีทั้งในเมืองและทางไกล แต่ก็มีจุดอ่อนคือส่วนควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่อาจเสียหายได้ง่ายหากเจอความชื้นมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น บูชพวงมาลัยหลวม หรือ เสียงดังจากรอกสายพาน ซึ่งอาจไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงแต่ก็สร้างความรำคาญอยู่ไม่น้อย

บทสรุป: Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 คุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่?
Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 เป็นรถที่มีรูปลักษณ์สวยทันสมัยพร้อมบุคลิกเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครในกลุ่ม C-Segment มันอาจไม่ใช่รถที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ควรมองข้าม โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับฟีลลิ่งในการขับขี่ สิ่งที่ Focus Mk3 ทำได้ดีมากคือเรื่อง Handling ของรถ ช่วงล่างดี มีความแน่น กระชับ เกาะถนนดี เข้าโค้งแล้วรู้สึกมั่นใจ และมีหลากหลายรุ่นย่อยให้เลือกตามงบประมาณ แต่ในอีกด้านหนึ่งรถรุ่นนี้ก็มีจุดที่ควรคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
จุดที่ต้องระวังในการซื้อฟอร์ดมือสอง
- เกียร์ Powershift แบบคลัตช์คู่: เป็นข้อเสียประจำรุ่นที่เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง โดยเฉพาะ Focus Mk3 ในรุ่นปีแรก ๆ มักเจอปัญหาเรื่องอาการเกียร์กระตุก มีเสียงดัง ไม่ราบรื่น เปลี่ยนเกียร์ไม่เนียน เกียร์รั่ว หรือเสียหายจนต้องเปลี่ยนชุดเกียร์ยกก้อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
- เครื่องยนต์ Ecoboost เทอร์โบ: แม้จะให้อัตราเร่งดีและประหยัดน้ำมัน แต่ก็ค่อนข้างจุกจิกกับคุณภาพน้ำมันและการดูแลรักษา ต้องหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ใช้ของเหลวที่ตรงตามสเปก ไม่งั้นมีสิทธิ์เจอเรื่องใหญ่
- ระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์: Focus Mk3 เป็นรถที่มีระบบไฟฟ้าค่อนข้างซับซ้อน มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เยอะ อาจเจอปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้ารวน ทำงานบกพร่อง ได้เป็นครั้งคราว
หากคุณกำลังคิดจะซื้อฟอร์ดมือสองอย่าดูแค่รูปลักษณ์และสภาพภายนอก แต่ควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย
- ประวัติการบำรุงรักษา: ควรเช็กประวัติการบำรุงรักษารถอย่างละเอียด ยิ่งรถมีประวัติเข้าศูนย์หรืออู่ดี ๆ สม่ำเสมอ ยิ่งน่าไว้ใจ
- ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว: ควรตรวจเช็กระบบช่วงล่างหน้า-หลังและระบบบังคับเลี้ยวให้ถี่ละเอียด รถรุ่นนี้แม้จะขับดี แต่ถ้าช่วงล่างเริ่มหลวมก็หมดความสนุกทันที
- เกียร์: ควรพิจารณาอย่างหนักหากรถคันที่เลือกเป็นรุ่นที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ Powershift 6 สปีด เพราะเจอปัญหากันเยอะ และแก้ไม่จบ ถ้าเป็นไปได้ควรเลี่ยงเกียร์รุ่นนี้ไปจะดีที่สุด
- ใต้ท้องรถและห้องเครื่อง: สนิม คราบน้ำมัน หรือคราบน้ำหล่อเย็น อาจบ่งบอกถึงการละเลยดูแลหรือปัญหาเรื้อรังที่เจ้าของเก่าไม่พูดถึง ควรตรวจเช็กใต้ท้องรถและห้องเครื่องให้ละเอียดเพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสอง
Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 เหมาะกับใคร?
Ford Focus เจเนอเรชันที่ 3 เหมาะสำหรับคนที่ชอบขับรถและพร้อมจะดูแลรถให้เหมือนเพื่อนคู่ใจ มันต้องการความเอาใจใส่มากกว่ารถญี่ปุ่นหลายรุ่นในกลุ่มเดียวกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกแบบที่รถญี่ปุ่นบางรุ่นให้ไม่ได้ ถ้าคุณต้องการรถที่ Handling ดี ห้องโดยสารเงียบและนั่งสบาย ดีไซน์ไม่เชย แถมยังมีราคาในตลาดมือสองที่เข้าถึงง่าย Focus Mk3 ถือว่าคุ้มค่าถ้าได้คันที่เจ้าของเก่าดูแลดี แต่ถ้าคุณมองหารถแบบที่ใช้ขับอย่างเดียวโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก หรือไม่อยากยุ่งกับเรื่องจุกจิกพวกเครื่องยนต์ เกียร์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ รถรุ่นนี้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด
ค้นหา Ford Focus Gen 3 (ปี2011–2019) มือสองที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่
เรารวบรวมประกาศขายจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว
เปรียบเทียบราคา ดูประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ
เช็คราคารถฟอร์ด4ประตู (ซีดาน) และ 5 ประตู (แฮทช์แบ็ก) มือสองในประเทศไทยได้ที่นี่ → ค้นหา Ford Focus เจน 3
- กรุงเทพมหานคร, 500 km
- ยี่ห้อ: Ford
- รุ่น: Focus
- ปี: 2012-2019
- แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod