Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 – ตัวเลือกรถมือสองคุณภาพดีสำหรับคนอยากแตกต่าง

Ford Focus Gen 2 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2004

Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Ford ในช่วงเวลาที่ทำตลาดอยู่ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 และกลายเป็นที่ชื่นชอบอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ใช้รถด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูดี ระบบกันสะเทือนที่พัฒนาอย่างประณีต การควบคุมที่แม่นยำ และตัวเลือกเครื่องยนต์กับตัวถังที่หลากหลาย ทำให้ Focus Mk2 เป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงได้อย่างรอบด้าน

เมื่อเทียบกับ Focus เจเนอเรชันที่ 3 ที่เน้นความล้ำสมัยแต่ซับซ้อนและดูแลยาก Focus Mk2 ยืนพื้นด้วยความเรียบง่ายที่น่าเชื่อถือ มันเป็นรถที่ใช้งานง่าย ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และให้ประสบการณ์ขับขี่ดีโดยไม่ต้องจ่ายแพงไม่ว่าจะเป็นรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู หรือซีดาน 4 ประตู

สำหรับตลาดรถมือสอง Focus เจเนอเรชันที่ 2 กลายเป็น Rare item เนื่องจากค่อนข้างหายากและมีน้อย แต่ด้วยดีไซน์และองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างทำให้รถรุ่นนี้ยังคงเป็นที่ต้องการของคนไม่ชอบความจำเจ ไม่อยากตามใคร ไม่เน้นแบรนด์เจ้าตลาด แต่อยากได้รถที่ใช้งานได้จริง ราคามือสองไม่แพง ภายในกว้าง จุของได้เยอะ และนั่งสบาย

บทความนี้จะพาไปรู้จัก Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 ให้ลึกยิ่งขึ้น ดูจุดแข็ง จุดอ่อน และปัญหาที่เจอ พร้อมคำแนะนำว่าควรเลือกรุ่นไหน รวมถึงวิธีดูแลรักษา หากคุณกำลังมองหารถมือสองหน้าตาอินเตอร์ที่ราคาไม่แรง ขับดี ดูแลง่าย และยังมีเสน่ห์เฉพาะตัว Ford Focus รุ่นที่ 2 เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนในตอนนี้

ฟอร์ด โฟกัส เจเนอเรชันที่ 2 ดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูดี

ปัญหาภายนอกและตัวถังฟอร์ด โฟกัส เจน2

ฟอร์ด โฟกัส เจเนอเรชันที่ 2 ขึ้นชื่อเรื่องตัวถังภายนอกที่แข็งแรงทนทาน ซึ่งหลายคนยอมรับว่าตัวถังและโครงสร้างของรถรุ่นนี้แข็งแกร่งกว่ารถญี่ปุ่นในยุคเดียวกันหลาย ๆ รุ่น นอกจากนี้ยังทนต่อการกัดกร่อนและสนิมได้ดี แต่ก็ยังมีจุดอ่อนบางตำแหน่งที่ควรจับตามอง โดยเฉพาะเมื่อสีหรือชั้นเคลือบได้รับความเสียหาย จุดที่มักเกิดสนิมบ่อยได้แก่

  • ขอบล่างของประตูทุกบาน
  • กาบบันได
  • ขอบซุ้มล้อหลัง

พื้นผิวใต้บังโคลนพลาสติกและชิ้นส่วนตกแต่งต่าง ๆ

สนิมมักเริ่มจากรอยถลอกหรือรอยหินกระเด็นเล็ก ๆ ที่อาจมองไม่เห็น ดังนั้นควรหมั่นตรวจเช็กบริเวณเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรถที่จอดตากฝนเป็นประจำหรือวิ่งผ่านถนนที่น้ำท่วมขังบ่อย ๆ หรือมีการใช้งานใกล้ชายทะเล เมื่อรถมีอายุมากแนะนำให้เคลือบกันสนิมใต้ท้องรถรถซึ่งจะช่วยป้องกันสนิมและความเสียหายส่วนอื่น ๆ ได้ในระยะยาว


ปัญหาแผงหน้าปัดและระบบอิเล็กทรอนิกส์

Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 ในรุ่นก่อนปรับโฉมมักพบปัญหาที่แผงหน้าปัดทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเริ่มจากจอแสดงผลแสดงข้อมูลคลาดเคลื่อน ไปจนถึงระบบ CAN Bus ทำงานผิดพลาด ส่งผลให้สตาร์ทรถไม่ติดในบางครั้ง สาเหตุหลักมักมาจากรอยบัดกรีภายในแผงวงจรที่แตกร้าวตามอายุการใช้งาน ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการถอดแผงหน้าปัดมาซ่อมด้วยการใช้หัวแร้งบัดกรีใหม่ให้แน่นหนาอีกครั้ง หากทำเองไม่ถนัดสามารถให้ร้านซ่อมระบบอิเล็กทรอนิกส์รถยนต์ทำให้ได้

ระบบทำความร้อนและระบายความร้อน

อีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยใน Focus เจเนอเรชันที่ 2 คือการรั่วซึมของน้ำหล่อเย็นบริเวณท่อที่เชื่อมต่อกับแกนฮีตเตอร์ สัญญาณเตือนที่สังเกตได้ง่ายที่สุดคือพรมบริเวณเท้าฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าจะเปียกชื้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน จุดที่รั่วมักอยู่ตรงข้อต่อหรือโอริงที่เสื่อมสภาพจากความร้อนและอายุการใช้งาน การซ่อมสามารถเริ่มได้จากการเปลี่ยนโอริงใหม่ หรือหากปัญหาหนักกว่า ก็อาจต้องเปลี่ยนแกนฮีตเตอร์ทั้งชิ้น ซึ่งอาจต้องรื้อแผงคอนโซลในบางกรณี


ฟอร์ดโฟกัสในไทยมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 ทำตลาดในประเทศไทยทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยมีตัวเลือกถึง 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซิน 1.8 ลิตร เบนซิน 2.0 ลิตร และดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทุกเครื่องยนต์มีทั้งจุดเด่นและปัญหาแตกต่างกัน

เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร

เครื่องยนต์เบนซิน Duratec HE ใน Focus Mk2 ได้รับการยอมรับว่ามีความทนทานและเชื่อถือได้ แถมให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม เครื่องยนต์ โดยรุ่นความจุ 1.8 ลิตร ให้กำลัง 125 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 165 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์รุ่นนี้ถ้าดูแลดี ๆ ก็แทบไม่มีปัญหาใหญ่ให้ปวดหัว จุดที่ต้องให้ความสำคัญคือพวกท่อยางต่าง ๆ ที่อาจจะปริแตก ทำให้เกิดการรั่วซึมเมื่อผ่านการใช้งานมานาน และควรตรวจสอบและเปลี่ยนสายพานหน้าเครื่องทุก 80,000 กิโลเมตร เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ อีกจุดที่ควรใส่ใจคือคุณภาพของน้ำมันเครื่อง การใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีสามารถช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนและลดเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยเมื่อเครื่องยนต์เริ่มมีอายุมาก

เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร

เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ใน Focus Mk2 ให้กำลังเพิ่มขึ้นเป็น 145 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ตอบโจทย์คนต้องการพละกำลังที่มากขึ้น ให้แรงบิดดีในรอบต้นถึงกลาง ขับสนุกมากขึ้น อัตราเร่งมาไวกว่าเครื่อง 1.8 ลิตร จุดที่ต้องใส่ใจคือการทำงานของลิ้นเร่งไฟฟ้าและฝาครอบวาล์วซึ่งมักเกิดการรั่วซึมตามอายุการใช้งาน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหากินน้ำมันมากกว่าปกติ

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ เป็นรุ่นท็อปของไลน์อัพ ให้กำลัง 136 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือใช้เทคโนโลยีช่วยลดเสียงและการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา และใช้เทอร์โบแปรผัน ทำให้รถมีสมรรถนะดี อัตราเร่งฉับไว ปล่อยไอเสียต่ำ จุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบเป็นประจำคือสายพานราวลิ้นและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ลูกรอกหรือปั๊มน้ำ เพราะหากสายพานขาดกลางทาง ความเสียหายที่ตามมาอาจรุนแรงจนถึงขั้นต้องยกเครื่องใหม่

ระบบเกียร์อัตโนมัติ

Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 เครื่องยนต์เบนซินทั้ง 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร ติดตั้งมาคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Torque Converter 4 สปีด มีโหมด Sequential Shift +/- สำหรับควบคุมการเปลี่ยนเกียร์เอง เกียร์ลูกนี้ทำงานได้ดี แต่รถหลายคันที่ใช้งานเกินแสนกิโลเมตรเจออาการกระตุกในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ สาเหตุมาจากวาล์วบอดี้ที่สึกหรอเมื่อใช้งานไปนาน ๆ หากไม่รีบแก้ไขอาจลุกลามไปสู่การเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก อีกข้อที่ควรรู้คือเกียร์รุ่นนี้ไม่เหมาะกับการลากรอบสูงหรือใช้งานหนักบ่อย ๆ การขับปกติตามจังหวะจะช่วยถนอมเกียร์ได้มากกว่า

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร จะมาคู่กับเกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 สปีด ซึ่งเป็นเกียร์ระบบ Dual Clutch ที่มีความซับซ้อนกว่า จุดเด่นคือความนุ่มนวลต่อเนื่องในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง แต่ก็ต้องการดูแลรักษาที่เข้มงวดมากกว่า

เพื่อยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์และป้องกันความเสียหายที่ไม่จำเป็น แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 60,000 กิโลเมตร พร้อมกับตรวจเช็กสภาพน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ หากเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำหรือมีกลิ่นไหม้ ควรเปลี่ยนทันที

ระบบระบายความร้อน

ระบบหล่อเย็นของ ฟอร์ดโฟกัสเจเนอเรชันที่ 2 โดยรวมจะไม่ได้มีปัญหาใหญ่ที่น่ากังวล แต่ก็มีจุดที่ควรระวังโดยเฉพาะการรั่วซึมของน้ำหล่อเย็นที่มักพบในจุดต่อของท่อยางหม้อน้ำกับถังพักน้ำสำรอง หรือบริเวณที่ท่อผ่านผนังห้องเครื่อง สาเหตุหลักคือโอริงตามจุดต่อเหล่านี้ เมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะเริ่มแห้ง แข็ง และแตกร้าว ทำให้น้ำหล่อเย็นรั่วออกมา ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้ระบบหล่อเย็นทำงานผิดปกติ และอาจส่งผลถึงความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ แนะนำให้ตรวจสอบโอริงและสายยางต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการเปลี่ยนถังพักน้ำสำรองก่อนที่มันจะหมดอายุการใช้งาน เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่ไม่จำเป็น และช่วยให้รถของคุณพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์

ford focus มือสอง อะไหล่หาง่ายมีอู่รับซ่อมโดยเฉพาะ

ระบบกันสะเทือน

Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 มาพร้อมระบบกันสะเทือนที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูง จุดเด่นของระบบนี้คือความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและความมั่นคงในการควบคุมรถ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดขายหลักของ Focus ในยุคนี้เลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ก็มีจุดที่ควรระวังเช่นกัน

  • ด้านหน้า: จุดอ่อนที่พบได้บ่อยคือข้อต่อกันโคลงมักสึกหรอเร็วกว่าชิ้นส่วนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้รถในสภาพถนนไม่เรียบ อาการที่สังเกตได้คือเสียงกระแทกหรือกุกกักจากล้อหน้าเมื่อลงหลุมหรือเลี้ยวแรง ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าควรเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นนี้
  • ด้านหลัง: ระบบกันสะเทือนด้านหลังของ Focus Mk2 ค่อนข้างทนทาน แต่แขนควบคุมอาจเสื่อมสภาพเมื่อรถวิ่งไปถึง 200,000 กิโลเมตร บูชยางบริเวณแขนควบคุมก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรหมั่นตรวจสอบ เพราะหากสึกหรอจนหลวมจะส่งผลต่อความมั่นคงของรถ และอาจทำให้ท้ายรถรู้สึกไม่นิ่งเวลาเข้าโค้ง

การดูแลระบบกันสะเทือนให้ดีไม่ได้แค่ช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังส่งผลต่อความปลอดภัยและความรู้สึกในการขับขี่โดยตรง แนะนำให้ตรวจเช็กช่วงล่างอย่างสม่ำเสมอ หากใช้รถในเมืองที่มีหลุมบ่อหรือถนนขรุขระเป็นประจำก็ควรตรวจเช็กให้ถี่ขึ้น


จุดอ่อนและปัญหาที่พบได้บ่อยในฟอร์ดโฟกัส

แม้ว่า Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 จะเป็นรถที่ชื่อเรื่องความทนทาน แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องบางอย่างที่เจ้าของรถหลายคนพบเจอเหมือน ๆ กัน นอกเหนือจากปัญหาเรื่องสนิมและระบบอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ควรจับตาไว้ด้วย

  • ฝากระโปรงหน้าปิดไม่สนิทหรือเปิดไม่ออก: ปัญหานี้มักเกิดจากกลไกล็อกที่เสียหายเพราะความชื้นสะสม หรือเกิดสนิมจนฝืด การหยอดน้ำมันหล่อลื่นเป็นระยะอาจช่วยยืดอายุการใช้งาน
  • ลูกปืนเพลาขับสึกหรอ: โดยเฉพาะบริเวณเพลาขับด้านหน้าขวา ซึ่งหากเริ่มมีเสียงหรือแรงสั่นสะเทือนขณะขับ อาจถึงเวลาตรวจเช็กหรือเปลี่ยนใหม่
  • แร็คพวงมาลัยมีปัญหา: รุ่นที่ใช้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้าไฮดรอลิก (EHPS) บางคันอาจมีอาการพวงมาลัยฝืดหรือมีเสียงผิดปกติ ซึ่งควรได้รับการตรวจสอบทันที เนื่องจากอะไหล่ส่วนนี้มีราคาค่อนข้างสูง
Ford Focus MK2  ใช้ระบบพวงมาลัย EHPS

เคล็ดลับในการเลือกซื้อ ford focus มือสอง รุ่น2

หากคุณกำลังพิจารณาจะซื้อ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 มือสอง นี่คือสิ่งที่ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

  1. สภาพตัวถังภายนอก: ตรวจดูสภาพตัวถังภายนอกโดยเฉพาะตามขอบประตู ซุ้มล้อ และใต้ขอบพลาสติกต่าง ๆ หากพบรอยสนิมหรือสีลอก อาจต้องใช้เวลาซ่อมแซมในระยะยาว
  2. ระบบอิเล็กทรอนิกส์: ทดสอบแผงหน้าปัดและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นว่ายังทำงานปกติหรือไม่ โดยเฉพาะในรุ่นก่อนปรับโฉม
  3. เครื่องยนต์: ตรวจสอบประวัติการเปลี่ยนสายพานราวลิ้น และดูว่าน้ำมันเครื่องที่ใช้เป็นเกรดคุณภาพหรือไม่ เพราะมีผลประสิทธิภาพและการทำงานของเครื่อง
  4. ระบบเกียร์: หากเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ให้เตรียมใจไว้ว่าอาจต้องซ่อมแซมหรือบำรุงรักษากล่องเกียร์ในอนาคต
  5. ช่วงล่าง: ลองขับเพื่อดูว่ามีเสียงดังหรืออาการยวบยาบหรือไม่ พร้อมตรวจสภาพบูชและแขนควบคุมว่ามีรอยฉีกขาดหรือเริ่มเสื่อมสภาพหรือยัง
Focus Mk2 รถมือสองราคาถูกในตลาดมือสอง

สรุป Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 รถมือสองราคาถูกที่ยังน่าสนใจ

Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 คือรถยนต์ที่ผสมผสานความคุ้มค่า ความน่าเชื่อถือ และความสนุกในการขับขี่ได้อย่างลงตัว แม้จะเลิกผลิตไปนานแล้วแต่ในตลาดรถมือสอง Focus Mk2 ยังคงมีคนตามหาอยู่ ความน่าสนใจของรถรุ่นนี้คือราคามือสองไม่แพง ขับขี่ดี ภายในกว้าง มีอุปกรณ์มาตรฐานครบ และถ้าดูแลอย่างเหมาะสมก็ยังใช้งานได้อีกหลายปี

อย่างไรก็ตาม คนที่จะซื้อ Focus Mk2 มือสองต้องตรวจเช็กปัญหาตามจุดต่าง ๆ ให้ดี เครื่องยนต์ยังคงมีปัญหาบางอย่างที่ต้องแก้ไข แต่ข้อเสียเหล่านี้ก็แทนที่ด้วยอะไหล่ที่ยังหาได้ง่าย มีอู่ที่รับซ่อม Ford โดยเฉพาะให้ใช้บริการเยอะ และมีชุมชนผู้ใช้ที่แข็งแกร่งซึ่งทุกคนพร้อมแบ่งปันความรู้และช่วยกันแก้ปัญหา

Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 ยังเป็นรถที่มีตัวเลือกหลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

  • ถ้าคุณต้องการรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองทั่วไป เครื่องเบนซิน 1.8 ลิตร คือคำตอบ
  • ถ้าต้องการพละกำลังที่มากขึ้น ขับสนุกขึ้น เครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร เป็นตัวเลือกที่ดี
  • ถ้ามองหารถที่ใช้เดินทางไกลบ่อย ๆ และต้องบรรทุกของเยอะ มีความประหยัด ให้แรงบิดดี เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ไม่ว่าคุณจะมองหารถคันแรก รถครอบครัว หรือแค่รถไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าใช้ ขอเพียงเลือกรถคันที่มีประวัติดี และไม่ละเลยเรื่องการบำรุงรักษา

ปัจจุบันเป็นยุคที่รถประเภท Crossover SUV ครองถนน แต่ Ford Focus เจเนอเรชันที่ 2 กลับเป็นรถที่สร้างความแตกต่างได้อย่างน่าสนใจ ดีไซน์ของมันยังคงร่วมสมัยและไม่ตกยุค ช่วงล่างดี ขับขี่มั่นใจ หากดูแลดี ๆ รถรุ่นนี้ก็ยังสร้างความประทับใจให้เจ้าของได้แม้จะผ่านการใช้งานมาเป็นสิบปีแล้วก็ตาม

ค้นหา ford focus มือสองที่ใช่สำหรับคุณได้ที่นี่

เรารวบรวมประกาศขายจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว

เปรียบเทียบราคา เช็กประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ
เช็ค ford focus มือสองในประเทศไทยได้ที่นี่ → ค้นหา Ford Focus เจน2

Updated every 1 minute

  • Bangkok, 500 km
  • Brand: Ford
  • Model: Focus
  • Source: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod