รีวิวรถมือสอง Chevrolet Cruze– ซีดานสัญชาติอเมริกัน ขับดี มีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร

ถ้าพูดถึงแบรนด์ Chevrolet หลายคนมักนึกถึงรถกระบะอเมริกันไซส์ยักษ์สุดแกร่งอย่าง Silverado ไม่ก็รถสปอร์ตในตำนานอย่าง Corvette หรือ Camaro ที่เป็นไอคอนของความแรง แต่สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน Chevrolet Cruze คืออีกรุ่นหนึ่งที่หลายคนจดจำได้ดีและยังคงน่าสนใจในตลาดรถมือสอง
Cruze เป็นรถยนต์ซีดานในกลุ่ม C-Segment ที่ออกแบบมาเพื่อตลาดทั่วโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบแต่ดูดี ห้องโดยสารกว้างขวาง และมีชื่อเสียงด้านความทนทาน ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการรถขับดี มีสมรรถนะพอประมาณ และไม่จุกจิกจนน่าปวดหัว
แม้จะเป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกันแต่เบื้องหลังของเชฟครูซนั้นเกิดจากฝีมือของทีมวิศวกรที่เกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ภายใต้ General Motors (GM) โดยใช้แพลตฟอร์ม Delta II ที่ร่วมพัฒนากับ Opel จากเยอรมนี นั่นทำให้ Cruze มีพื้นฐานที่ใกล้เคียงกับ Opel Astra J ที่หลายคนรู้จักดีในยุโรป ตัวรถจึงมีสมดุลระหว่างความสปอร์ตและความนุ่มนวลในการขับขี่
Chevrolet Cruze ถูกผลิตในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐ จีน ออสเตรเลีย บางส่วนของยุโรป รวมถึงมีการประกอบในประเทศไทยของเราด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับตลาดมือสองเพราะอะไหล่ยังพอหาได้และมีช่างที่คุ้นเคยกับรถรุ่นนี้อยู่จำนวนไม่น้อย
บทความนี้จะพาไปดูจุดเด่น จุดด้อย และสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ Chevrolet Cruze มือสอง ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบ ภายในห้องโดยสาร ระบบเครื่องยนต์ สมรรถนะ รวมไปถึงปัญหาที่พบบ่อย พร้อมคำแนะนำว่าควรตรวจเช็กจุดไหนเป็นพิเศษก่อนซื้อ เพื่อให้คุณได้รถที่คุ้มค่าและไม่ต้องปวดหัวในภายหลัง
ตัวถังและภายนอกของเชฟโรเลต ครูซ

สำหรับใครที่กำลังมองหา Chevrolet Cruze มือสอง เรื่องสภาพตัวถังภายนอกนั้นถือว่าอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งเพราะโครงสร้างของ Cruze ค่อนข้างแข็งแรงเป็นทุนเดิม ตัวถังทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ขณะที่สีตัวถังภายนอกส่วนใหญ่ก็ยังดูดีแม้ผ่านการใช้งานมาหลายปี ถ้าเจ้าของคนก่อนดูแลรักษามาดีจะเห็นได้ชัดว่าสีไม่ซีดและสนิมไม่ขึ้นง่าย
จุดเล็ก ๆ ที่ควรระวังคือสีตัวถังบริเวณขอบกันชนและรอยต่อระหว่างแผงตัวถังกับกันชน จุดนี้มีโอกาสที่สีจะกะเทาะหรือเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายเมื่อเจอเศษหินกระเด็นใส่หรือการกระแทกเบา ๆ จากการใช้งานประจำวัน ถึงแม้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่ก็อาจทำให้ดูโทรมหากไม่ได้เก็บสีหรือซ่อมไว้บ้าง
อีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยใน Cruze มือสองคือระบบล็อกฝากระโปรงท้ายในรุ่นที่ใช้ปุ่มเปิดท้ายแบบกดจากด้านนอก ตัวปุ่มมักจะซีลกันน้ำมาไม่ดีทำให้ความชื้นเข้าไปขัดขวางกลไกภายใน ส่งผลให้ปุ่มกดยากหรือกดเปิดท้ายไม่ได้ตามปกติ เจ้าของหลายคนที่เจอปัญหานี้มักเลือกวิธีติดตั้งปุ่มเปิดฝากระโปรงท้ายเสริมไว้ภายในห้องโดยสารเพื่อใช้สำรองเวลาปุ่มหลักพัง
คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ เชฟโรเลต ครูซมือสองคือควรตรวจสอบจุดเปิด-ปิดท้ายรถให้ครบทั้งระบบ ลองกดเปิดจากด้านนอก รวมถึงสังเกตว่าฝาท้ายปิดสนิทดีไหม และไม่มีคราบน้ำหรือสนิมสะสมรอบ ๆ กลไก สุดท้ายอย่าลืมดูแนวเส้นตัวถังโดยรอบว่าเรียบเสมอกันหรือไม่ มีร่องรอยการชนหนักหรือเคยเก็บสีหรือเปล่า เพราะถึงแม้ตัวรถจะทน แต่ถ้าเคยชนหนักหรือเก็บงานไม่ดี อาจมีผลกับการใช้งานระยะยาวและราคาขายต่อในอนาคตได้
ภายในและความสะดวกสบาย

แม้จะไม่ใช่รถหรูแต่ห้องโดยสารของ Chevrolet Cruze ก็ให้ความรู้สึกพรีเมียมเกินความคาดหมายในกลุ่มรถ C-Segment ภายในตกแต่งสไตล์เรียบ ๆ แต่ดูไม่เชย วัสดุที่ใช้ไม่ถึงกับพรีเมียมแต่คุณภาพถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน แผงคอนโซลหน้าออกแบบได้ดี ใช้งานง่ายตามหลักสรีรศาสตร์ ปุ่มควบคุมต่าง ๆ วางอยู่ในตำแหน่งที่เอื้อมถึงง่าย ไม่ต้องละสายตาจากถนนมากก็สามารถใช้งานได้
เบาะนั่งในรุ่น LTZ ให้การรองรับที่ดี พื้นที่นั่งตอนหน้ากว้างขวาง ส่วนเบาะหลังแม้ไม่ถึงกับโปร่งสบายมากแต่ยังนั่งได้สบายสำหรับผู้โดยสาร 2 - 3 คนในระยะทางกลาง ๆ นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารของ Cruze ยังมาพร้อมออปชันพื้นฐานที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างครบครัน เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน และระบบเสียงที่มีคุณภาพ
อย่างไรก็ตาม มีรายละเอียดบางจุดที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษเมื่อเลือกซื้อ Cruze มือสอง ดังนี้
- ระบบปรับอากาศ: หนึ่งในจุดอ่อนของ Cruze คือชิ้นส่วนกลไกที่ควบคุมการผสมลมร้อน-เย็น ซึ่งหลังผ่านการใช้งานเกิน 100,000 กิโลเมตร มักเกิดปัญหาระบบปรับอุณหภูมิทำงานผิดปกติ คือจะได้แต่ลมเย็นหรือลมร้อนอย่างใดอย่างหนึ่งตลอดเวลา แก้ไขได้แต่ต้องถอดแผงหน้าปัดฝั่งคนขับและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องออกก่อน ถือว่าใช้เวลาและมีค่าแรงพอสมควร
- ช่องลมข้าง: อากาศที่เป่าออกจากช่องลมด้านข้างไม่ค่อยถึงกระจกมองข้างเท่าไหร่ ส่งผลต่อการไล่ฝ้าในช่วงอากาศชื้นหรือตอนฝนตก
- เกจวัดระดับน้ำมัน: Cruze หลายคันมีปัญหาเกี่ยวกับเซนเซอร์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มักแสดงค่าคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะเมื่อระดับน้ำมันต่ำกว่าครึ่งถัง เข็มวัดอาจลดลงต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้คอมพิวเตอร์รถแสดงผลผิดพลาด ปัญหานี้เกิดจากการสึกหรอของแถบวัดในตัวเซนเซอร์ การเปลี่ยนเซนเซอร์ตัวใหม่จำเป็นต้องถอดถังน้ำมันออกมา ซึ่งไม่ใช่งานเล็ก ๆ
- เสียงดังใต้เบาะหลัง: หากได้ยินเสียงตุบ ๆ หรือเสียงกระแทกใต้เบาะหลังตอนเบรกแรง ๆ หรือเร่งออกตัวเร็ว ๆ นั่นอาจเกิดจากแผ่นกั้นพลาสติกในถังน้ำมันที่หลุดออกจากตำแหน่ง ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อรถใช้งานมานาน การแก้ไขก็ต้องถอดถังน้ำมันออกเช่นกัน
เครื่องยนต์ของ Chevrolet Cruze

Chevrolet Cruze วางจำหน่ายในประเทศไทย 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซิน 1.6 ลิตร เบนซิน 1.8 ลิตร และดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทั้งสามเครื่องยนต์ได้รับการยอมรับเรื่องสมรรถนะที่ดี ความทนทาน และการซ่อมบำรุงที่ไม่ยุ่งยาก มาดูกันว่าแต่ละเครื่องยนต์มีข้อดี-ข้อด้อยอย่างไร และคนเล่นรถมือสองควรเลือกเครื่องยนต์รุ่นไหน
เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ของ Chevrolet Cruze เป็นเครื่องที่ยกมาจาก Chevrolet Optra เป็นเครื่อง 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC พ่วงระบบปรับระยะทางเดินท่อไอดีแบบแปรผัน Variable Geometry Intake System (VGiS) ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะ ความประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีกำลังสูงสุดที่ 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 150 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและเหมาะสำหรับคนที่ใช้รถในเมืองเป็นหลัก ส่วนจุดอ่อนที่ควรรู้ก็มีเรื่องการรั่วซึมจากซีลต่าง ๆ เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ เช่น ซีลฝาครอบวาล์ว และปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบระบายอากาศในห้องเครื่อง (PCV) และวาล์ว EGR อาจเกิดการอุดตัน ส่งผลให้เกิดเขม่าสะสมในลิ้นปีกผีเสื้อ ส่งผลให้เครื่องยนต์มีอาการเดินเบาไม่นิ่ง หากปล่อยไว้นานโดยไม่แก้อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ เช่น การจุดระเบิดผิดพลาด หรือแรงอัดในกระบอกสูบต่ำ
เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร พบได้มากที่สุดในตลาด Cruze มือสองในไทย เครื่องยนต์ตัวนี้เป็นแบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC มีระบบวาล์วคู่แปรผันต่อเนื่อง Double Continuous Variable Cam Phasing (Double CVC) ช่วยควบคุมวาล์วไอดีและไอเสียให้ปรับตามรอบเครื่องยนต์ ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร การขับขี่จะให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงกว่าเครื่อง 1.6 ชัดเจน อัตราเร่งไวขึ้น ขับทางไกลสบาย แต่ถ้าใช้งานในเมือง เจอรถติดบ่อย ๆ จะค่อนข้างกินน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ของ Cruze ก็มีรายละเอียดหลายจุดที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบ ปัญหาที่มีโอกาสเจอคือปัญหาน้ำหล่อเย็นไปผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง ปัญหานี้เกิดจากซีลระหว่างระบบน้ำมันเชื้อเพลิงกับน้ำหล่อเย็นเสื่อมซึ่งเกิดขึ้นได้เมื่อใช้รถไปเป็นระยะทาง 120,000 – 150,000 กม. นอกจากนี้ยังเจอปัญหาเกี่ยวกับเพลาลูกเบี้ยว อาการรั่วซึมจากฝาครอบวาล์ว และปัญหาในระบบ CVC ที่อาการจะแสดงด้วยกลิ่นน้ำมันในห้องโดยสารหรือเดินเบาสะดุด
เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ยังไม่ค่อยถูกกับแก๊ส LPG หรือ NGV หากอู่ติดแก๊สทำระบบไม่ดีก็อาจก่อให้เกิดปัญหาความร้อนเรื้อรัง นอกจากนี้ Cruze ในรุ่นปีแรก ๆ ยังพบปัญหาท่อส่งน้ำมันเบนซินไปยังรางหัวฉีดเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงรั่วซึมและเกิดอันตรายได้ หากซื้อมือสองควรตรวจเช็กเครื่องยนต์อย่างละเอียด และไล่เปลี่ยนชิ้นส่วนหรืออะไหล่เครื่องยนต์ตัวที่เสื่อมสภาพให้ครบ
เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร
Cruze รุ่นท็อป 2.0 LTZ ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า พร้อมแรงบิด 320 นิวตันเมตร ก่อนจะถูกปรับเพิ่มเป็น 163 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ในรุ่นปี 2012 ถือเป็นเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากที่สุด ให้อัตราเร่งดีเยี่ยม และมีความประหยัดในระดับที่น่าพอใจ เครื่องดีเซลรุ่นนี้ค่อนข้างทนทาน ไม่จุกจิก ดูแลง่าย ไม่ค่อยเจอปัญหาเกี่ยวกับเทอร์โบ เพียงเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะ เช็กเรื่องสายพานหน้าเครื่อง สายพานไทม์มิ่ง ระบบน้ำหล่อเย็น ตรวจดูการรั่วซึมต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ
ระบบส่งกำลังของ Chevrolet Cruze

เกียร์ธรรมดา 5 สปีด
เกียร์ธรรมดา 5 สปีดใน Chevrolet Cruze มีเป็นตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร และเบนซิน 1.8 ลิตร แม้จะเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้ชาวไทย แต่เกียร์ลูกนี้ก็มีการทำงานที่เรียบง่าย ทนทาน ส่วนปัญหาที่เจอในรถบางคันคือเกียร์มีเสียงคลิกเบา ๆ ตอนสตาร์ทเครื่องและเข้าเกียร์เดินหน้าออกตัว นอกจากนี้เกียร์อาจมีอาการตะกุกตะกักในบางจังหวะ
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
Chevrolet Cruze ส่วนใหญ่ในตลาดมือสองทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 และ 1.8 จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด การทำงานของเกียร์รุ่นนี้ถือว่ามีความนุ่มนวลและราบรื่น แต่เกียร์รุ่นนี้กลับมีปัญหาเรื่องความทนทานของชิ้นส่วนและปัญหาความร้อน โดยเฉพาะในรถรุ่นปีแรก ๆ ที่ใช้งานได้ไม่นานก็เริ่มแสดงอาการ
มีรายงานว่าเกียร์บางลูกเริ่มมีปัญหาได้ตั้งแต่ระยะทาง 30,000 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าน้อยมาก จุดอ่อนของเกียร์ชุดนี้เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความร้อนสะสม การออกแบบระบบควบคุมไฮดรอลิก และคุณภาพของวัสดุบางจุด
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่รุ่นปี 2012 เป็นต้นไปทาง Chevrolet ก็ได้ปรับปรุงเกียร์ลูกนี้ใหม่ด้วยการติดตั้งออยเกียร์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนของน้ำมันเกียร์ และปรับจูนการทำงานภายในให้ทนทานยิ่งขึ้น สำหรับคนใช้ Cruze แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 30,000 กิโลเมตร หากปล่อยให้น้ำมันเกียร์สกปรกหรือหมดสภาพ เกียร์จะเริ่มติด ๆ ขัด ๆ ไม่ราบรื่นหรือตอบสนองช้า
อีกหนึ่งข้อสังเกตของ Cruze คือไม่มีก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์ การตรวจเช็กจะต้องใช้ก้านวัดเฉพาะสอดเข้าไปตรงรูฝาปิดที่อยู่บนเรือนเกียร์ ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากเวลาจะเช็กด้วยตัวเอง
ข้อดีของเกียร์ชุดนี้คือชิ้นส่วนไม่แพงและสามารถซ่อมได้ในอู่ทั่วไปที่มีความชำนาญ ซึ่งหลายอู่ในไทยก็ทำได้สบาย ๆ แต่หากเกิดปัญหากับระบบควบคุมไฮดรอลิก ค่าซ่อมอาจสูงขึ้นและบางกรณีอาจต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด
ระบบพวงมาลัย

Chevrolet Cruze รุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะใช้ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฮดรอลิก ซึ่งมีผู้ใช้จำนวนไม่น้อยรายงานว่าปั๊มพวงมาลัยพาวเวอร์มักเริ่มมีปัญหาหลังผ่านการใช้งานไปได้สักระยะหนึ่ง อาการเริ่มต้นที่พบบ่อยคือ พวงมาลัยหนักตอนรอบเดินเบา แต่จะกลับมานุ่มขึ้นเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงขึ้น พอเริ่มมีอาการแบบนี้แล้ว ไม่ช้าก็เร็ว มักจะตามมาด้วยเสียงหึ่ง ๆ หากปล่อยไว้นาน เศษโลหะจากการสึกหรอของปั๊มจะเริ่มกระจายไปทั่วระบบไฮดรอลิก ซึ่งจะไม่เพียงทำให้ปั๊มพังเร็วขึ้น แต่ยังส่งผลต่อวาล์วและชุดพวงมาลัยด้วย
สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดคือเปลี่ยนเฉพาะปั๊มใหม่แล้วทุกอย่างจะจบ แต่ในความเป็นจริงถ้าไม่ล้างระบบไฮดรอลิกทั้งชุดตั้งแต่ถังพักน้ำมันพวงมาลัย ท่อต่าง ๆ ไปจนถึงชุดแร็คพวงมาลัย เศษโลหะที่ค้างอยู่จะทำให้ปั๊มใหม่เสียหายอีกในเวลาไม่นาน
จุดที่น่าสังเกตอีกอย่างคือพวงมาลัยอาจมีเสียงแหลมเบา ๆ ขณะหมุน เสียงนี้มักเกิดจากลักษณะเฉพาะของตัวปั๊มเอง ไม่ได้หมายถึงว่ากำลังจะเสีย นอกจากนี้แร็คพวงมาลัยของ Cruze ยังถูกออกแบบให้มียางรองหรือโช้กซับแรงสั่นสะเทือน เพื่อช่วยลดเสียงและแรงสะเทือนที่ส่งเข้ามาในห้องโดยสาร หากชิ้นส่วนเหล่านี้หลวม เสื่อมสภาพ หรือยางรองขาด อาจทำให้เกิดเสียงรบกวนได้มากกว่าปกติ
ระบบเบรก
หนึ่งในจุดที่ผู้ใช้ Chevrolet Cruze หลายคนเจอปัญหาคือคาลิเปอร์เบรกหลวมและส่งเสียงเคาะเวลาขับผ่านถนนขรุขระ ปัญหานี้เกิดจากการออกแบบเดิมที่มีช่องว่างระหว่างหมุดนำ (guide pin) กับขายึดคาลิเปอร์มากเกินไป พอใช้ไปนาน ๆ และสารหล่อลื่นแห้ง หมุดกับขายึดจะเริ่มโยกไปมา ทำให้เกิดเสียงรบกวน ผลที่ตามมาคือจานเบรกสึกหรอเร็วผิดปกติเพราะผ้าเบรกไม่แนบสนิทเท่าที่ควร ส่งผลทั้งเรื่องความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายในการซ่อม
ระบบกันสะเทือน
Chevrolet Cruze ใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม ซึ่งถือว่าระบบช่วงล่างที่เรียบง่าย ดูแลรักษาง่าย และมีความทนทานพอสมควร อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมจะไว้ใจได้แต่ก็มีจุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษในรถมือสอง
จุดสังเกตคือปีกนกหน้าทำจากอะลูมิเนียม มีความแข็งแรงแต่ไม่สามารถเปลี่ยนลูกหมากแยกได้ หากลูกหมากหลวมต้องเปลี่ยนทั้งชิ้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เช่นเดียวกับลูกปืนดุมล้อ (hub bearing) ที่จะมาพร้อมดุมล้อเลย ถ้าลูกปืนเสียต้องเปลี่ยนยกทั้งชุด
อีกจุดสังเกตคือเหล็กยึดกันโคลง (stabilizer link) ใช้วัสดุพลาสติกเป็นส่วนหนึ่ง มีโอกาสแตกหรือเสียรูปได้หลังผ่านการใช้งานไปสักพัก อาการคือมีเสียงก๊อกแก๊กเวลาขับผ่านหลุมและรู้สึกว่ารถไม่นิ่ง
ในระบบกันสะเทือนด้านหลัง บูชยางต่าง ๆ และ Silent Block เมื่อสึกหรอจะทำให้เกิดเสียงเคาะจากด้านท้ายหรือช่วงล่างเล่นมากกว่าปกติ
โดยทั่วไปแล้ว ช่วงล่างของ Cruze ไม่ได้มีจุดด้อยร้ายแรง อะไหล่ช่วงล่างต่าง ๆ ยังสามารถหาได้ง่าย ราคาก็อยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่แพงจนเกินไป
สรุป: Chevrolet Cruze มือสอง น่าใช้แค่ไหน

Chevrolet Cruze ถือเป็นรถยนต์ในกลุ่ม C-Segment ที่มีจุดแข็งชัดเจนทั้งดีไซน์ภายนอกที่ยังไม่ตกยุค โครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง ห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย และเครื่องยนต์ที่ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก แม้ Chevrolet จะยุติการทำตลาดในประเทศไทยไปแล้วพร้อมกับปิดศูนย์บริการไปเป็นจำนวนมาก แต่อะไหล่ของ Chevrolet Cruze ก็ไม่ได้หายากอย่างที่หลายคนคิด ทั้งยังยังมีอู่นอกที่รับซ่อม Chevrolet ให้ไปใช้บริการอยู่พอสมควร ดังนั้นถ้าจะเล่น Cruze มือสองในตอนนี้ก็สามารถทำได้และไม่น่ากังวลมากนัก
อย่างไรก็ตาม Chevrolet Cruze ก็ยังมีจุดอ่อนในบางระบบ เช่น เกียร์อัตโนมัติรุ่นก่อนปี 2014 หรือปั๊มพวงมาลัยที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่เมื่อรู้ข้อจำกัดเหล่านี้ล่วงหน้า และตรวจสอบรถอย่างรอบคอบก่อนซื้อ ก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาจุกจิกได้
หากคุณสนใจซื้อ Chevrolet Cruze มือสองในไทย สิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจคือประวัติการบำรุงรักษาที่ชัดเจน พร้อมกับเช็กระบบสำคัญอย่างเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เกียร์ และทดลองขับเพื่อตรวจสอบอาการผิดปกติที่อาจมองไม่เห็นจากภายนอก
Cruze เป็นรถที่ผสมผสานเอกลักษณ์หลายอย่างไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาแบบอเมริกัน วิศวกรรมจากยุโรป ความกว้างขวางและใช้งานได้จริงแบบรถเอเชีย จึงไม่แปลกที่มันจะยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถมือสองสำหรับคนที่อยากได้รถขับดี ราคาจับต้องได้ และไม่อยากซ้ำใคร ถ้าเลือกคันที่สภาพดี ปีไม่เก่ามาก และดูแลต่ออย่างเหมาะสม Chevrolet Cruze ก็พร้อมจะอยู่กับคุณไปได้อีกหลายปี
ดูรถมือสอง Chevrolet Cruze (2009–2016) ที่ใช่สำหรับคุณ
เรารวบรวมประกาศขายเชฟโรเลต มือสองจาก Facebook Marketplace, Kaidee, One2Car และ TaladRod มาไว้ในที่เดียว
เลือกดูรถ Chevrolet Cruze มือสอง เช็คประเภทผู้ขาย แล้วเลือกคันที่ตรงใจคุณได้ง่ายๆ
ดูรถมือสองมากมายที่นี่ →ค้นหาเชฟโรเลต มือสอง
- กรุงเทพมหานคร, 500 km
- ยี่ห้อ: Chevrolet
- รุ่น: Cruze
- แหล่งที่มา: Facebook, Kaidee, One2Car, TaladRod